มหาดไทย เตรียมเสนอ ครม. เคาะเปิดทางใช้ประโยชน์ป่าชายเลน เดินหน้าก่อสร้างสะพานถาวรในเกาะพยาม จ.ระนอง ด้าน มท.1 มั่นใจจะช่วยดูแลความปลอดภัยประชาชนในระยะยาว พร้อมหนุนการท่องเที่ยวในจังหวัด
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยได้เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามคลองแบบถาวร ภายในเกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง โดยขั้นตอนล่าสุดได้ส่งเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเวียนรับฟังความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเหลือการตอบความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบางหน่วยงาน ซึ่งคาดว่าจะตอบกลับเร็วๆ นี้ และ สลค. สามารถบรรจุเป็นวาระเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ต่อไป
“คาดว่าเร็วๆ นี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะตอบความเห็นกลับมายัง สลค. ได้ครบถ้วน เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทาง ครม. ให้ความสนใจตั้งแต่เมื่อครั้ง ครม. สัญจร ที่ จ.ระนอง ระหว่างวันที่ 22-23 มกราคม ที่ผ่านมา และเห็นร่วมกันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนเกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของประชาชน” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การต้องนำเสนอเรื่องนี้สู่ที่ประชุม ครม. สืบเนื่องมาจากได้เกิดข้อเรียกร้องให้ทางการเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยในเกาะพยาม จ.ระนอง ที่มีความเดือดร้อนจากการเดินทางสัญจรไม่สะดวกเนื่องจากไม่มีสะพานข้ามคลองภายในเกาะ โดยเฉพาะนักเรียนที่ต้องเดินทางไปเรียนหนังสือ ผู้ป่วยที่ต้องเดินทางไปรับบริการสาธารณสุข ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้ลงพื้นที่ติดตามดูสภาพปัญหาด้วยตนเองในช่วงการประชุม ครม.สัญจร จ.ระนอง
...
โดยการลงพื้นที่ครั้งนั้น ได้มีการหารือและระดมสรรพกำลังของทุกภาคส่วนทั้งรัฐ เอกชน ในการให้ความช่วยเหลือให้เกิดความปลอดภัยในเบื้องต้นก่อน นำไปสู่การก่อสร้างสะพานชั่วคราวให้ประชาชน ครู นักเรียน ใช้สัญจรได้ โดยก่อสร้างเสร็จได้ในเวลารวดเร็ว และรมว.มหาดไทยได้ขอบคุณภาคเอกชน ซึ่งมีชาวไทยและต่างชาติที่ร่วมบริจาคเงินเพื่อใช้ในการก่อสร้างโดยไม่ประสงค์ออกนาม ผู้ประกอบการเรือที่สนับสนุนการลำเลียงวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้าง ประชาชนในพื้นที่ร่วมกันลงแรงก่อสร้างจนสะพาน ตลอดจนหน่วยงานรัฐที่ช่วยในการประสานงาน ติดตามและสนับสนุนการดำเนินการตามหลักเกณฑ์เพื่ออนุญาตก่อสร้าง
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทิน มีความมั่นใจว่าเมื่อโครงการก่อสร้างสะพานถาวรในเกาะพยาม สามารถกลับมาเดินหน้าก่อสร้างได้หลังจากเคยก่อสร้างแล้วต้องหยุดไปเนื่องจากมีปัญหาการรุกพื้นที่ป่าชายเลน จะสามารถดูแลความปลอดภัยในการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ได้ในระยะยาว ตลอดจนสนับสนุนการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากสะพานที่สร้างเพื่อข้ามคลองนี้ จะเชื่อมกับโครงข่ายถนนที่มีอยู่เดิม โดยปลายสะพานอีกด้านหนึ่งเชื่อมไปยังหมู่บ้านชาวมอแกน และมีทางแยกเพื่อเชื่อมไปยังชายหาดบ้านอ่าวใหญ่อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่อยู่อีกด้านของเกาะพยาม ทำให้เกาะพยามซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.ระนอง มีเส้นทางเชื่อมโยงภายในเกาะแบบครบวงรอบ เพิ่มแรงดึงดูดนัดท่องเที่ยวให้เข้ามาในพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งก็หมายถึงรายได้และเศรษฐกิจในพื้นที่ที่จะดีขึ้นตามมา