อธิบดีกรมการข้าวดอดปรึกษา “รองเต่า-จรูญเกียรติ ปานแก้ว” หลังมีโดรนตกในบ้าน รวมทั้งพบชายลึกลับมาป้วนเปี้ยนทั้งกลางวัน-กลางคืน ก่อนขอกลับไปหารือ กับภรรยาจะเข้าโครงการคุ้มครองพยานหรือไม่ “ธนกฤต จิตรอารีรัตน์” เปิดตัวถูก “แก๊งพี่ศรี” ข่มขู่หวังตบทรัพย์การสัมปทานกำไลอีเอ็ม สมัยอยู่กระทรวงยุติธรรม ด้าน “แรมโบ้อีสาน” เอาด้วย  แฉเคยโดนแก๊งนี้ข่มขู่เรียกรับทรัพย์หลักแสน ระหว่างปี 65-66 เคยแจ้งความไว้หลายที่รวม 6 ครั้ง

ยังต้องติดตามกันต่อ กรณีตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.และ ป.ป.ช. จับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา เจ๋ง ดอกจิก-นายยศวริศ ชูกล่อม และ น.ส.พิมณัฏฐา หรือการ์ตูน จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หลังร่วมกันข่มขู่ตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน จนสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่น่าใช่การกระทำผิดครั้งแรก ท่ามกลางกระแสข่าวตำรวจ บก.ปปป.เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก

ความคืบหน้าที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 ก.พ. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.จรูญเกีรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พร้อมนายตำรวจที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีแก๊งตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าร่วมประชุมแนวทางวางกรอบการทำงานอย่างเป็นทางการใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง หลังเสร็จสิ้น พล.ต.ต.สุวัฒน์เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก หลังมีคำสั่งแต่งตั้งคณะตำรวจสอบสวนกลางเพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี มีการแบ่งหน้าที่และกำหนดกรอบทิศทางการทำงาน ยืนยันไม่ได้ตั้งธงไปใน ทิศทางใดทิศทางหนึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

...

“การออกหมายจับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงให้แน่ชัด ส่วนจะยึดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาหรือไม่นั้นต้อง ดูรายละเอียดทางคดีว่ามีการฟอกเงินเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ขณะที่สถานะตำแหน่งข้าราชการการเมืองของผู้ต้องหา ป.ป.ช.มีหนังสือยืนยันว่าขณะก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจริง ยอมรับว่ามีผู้เข้าให้ข้อมูลเรื่อยๆ เช่นเดียวกับต้องรอตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์ของกลุ่มผู้ต้องหาให้แน่ชัดก่อน ตอนนี้ผมขอมุ่งไปที่คดีแรกก่อนเพราะมีความคืบหน้าไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์” พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าว

มีรายงานว่า ระหว่างการประชุมของคณะทำงานคดีนี้ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ชั้น 16 บช.ก. ส่วนหนึ่งเพื่อมาขอบคุณเจ้าหน้าที่ รวมทั้งมาปรึกษาเรื่องความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว เนื่องจากมีโดรนไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใดบินมาตกในบ้าน นอกจากนี้ยังมีชายต้องสงสัย 2 คน มาป้วนเปี้ยนละแวกบ้านทั้งในช่วงเช้าและกลางคืน โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เสนอว่าจะให้เข้าโครงการคุ้มครองพยานหรือส่งตำรวจไปติดตามคอยคุ้มกันความปลอดภัย ทั้งนี้อธิบดีกรมการข้าวขอกลับไปปรึกษาภรรยาก่อนให้คำตอบ

ก่อนหน้านี้เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางไปที่อาคารศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์สำนักนายกรัฐมนตรี เข้าพูดคุย กับนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภายใต้บังคับบัญชาของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยข้อมูลว่า เมื่อเดือน ก.ค.65 ช่วงที่นายธนกฤต ดำรงตำแหน่งเลขานุการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมถูกกลุ่มบุคคลเข้าไปพูดคุยและร้องเรียนเพื่อหวังจะตบทรัพย์

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่าได้รับการประสานจากนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ว่า อยากจะช่วยเหลือการทำงานคดีตบทรัพย์ของตำรวจบก.ปปป. จากการพูดคุยเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก ตรงกับข้อมูลที่ตำรวจมีอยู่ หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมหลักฐานและประสานงานกับทาง ป.ป.ช เพื่อดำเนินการต่อ รวมทั้งต้องเชิญนายกองตรี ธนกฤต ไปสอบปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยาน

สำหรับกรณีของนายกองตรี ธนกฤต นั้นเป็นกรณีของโครงการประมูลสัมปทานกำไร EM ของกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เมื่อปี 65 นายศรีสุวรรณ จรรยา เจ๋ง ดอกจิก-นายยศวริศ ชูกล่อม ทำหนังสือร้องเรียนมายัง ยธ.ให้ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าวซึ่งอาจมีการทุจริต จากนั้นเมื่อเดือน ก.ค.65 เจ๋ง ดอกจิก เข้าพบนายกองตรี ธนกฤตที่ห้องทำงานภายใน ยธ. ก่อนพูดคุยเจรจาเรียกรับเงินจำนวนหนึ่ง แต่นายกองตรี ธนกฤตไม่ตอบตกลง กระทั่งมีการนำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียนที่กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา

จากนั้นมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายในซึ่งผลออกมาชัดเจนว่ารัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องไม่ได้กระทำการทุจริตแต่เป็นการดำเนินการที่ผิดสัญญาและสเปกที่ระบุไว้ มีข้อเรียกร้องให้จ่ายค่าปรับและยกเลิกสัญญา ต่อมาในปี 67 นายศรีสุวรรณ จรรยาและเจ๋ง ดอกจิก ยังคงยื่นเรื่องให้คณะกรรมาธิการชุดใหม่ในสมัยรัฐบาลปัจจุบันดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวซ้ำอีก มองว่าเป็นการกระทำไม่ถูกต้องและอาจเข้าข่ายการข่มขู่ตบทรัพย์ จึงให้ทนายความไปเจรจากับนายศรีสุวรรณที่บ้านเมื่อค่ำวันที่ 14 ม.ค. ถูกนายศรีสุวรรณเรียกรับเงินค่าดูแลอีกครั้ง

ที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) วันเดียวกัน แรมโบ้อีสาน-นายเสกสกล อัตถาวงศ์ เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เนื่องจากเคยถูกนาย อ. 1 ในสมาชิกแก๊งตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ขู่กรรโชกทรัพย์หลายแสนบาท เหตุเกิดช่วงระหว่างปี 65-66

นายเสกสกล กล่าวว่า เดินทางมาเพื่อเร่งรัดคดีที่เคยแจ้งความไว้ในหลายพื้นที่ตั้งแต่ปี 65-66 รวม 6 ครั้ง เพื่อดำเนินคดีกับนาย อ.ฐานกรรโชกทรัพย์และหมิ่นประมาท รายละเอียดทั้งหมดขอปรึกษาตำรวจก่อน ที่อยากให้เร่งรัดการดำเนินคดีเพราะบุคคลเหล่านี้มีพฤติกรรมซ้ำซากป็นอันตรายต่อสังคมและบ้านเมือง ทำแล้วทำอีกได้ใจ ตนถูกคุกคามอย่างหนักขนาดเป็นถึงผู้ช่วยนายกฯยังโดนกระทำ แล้วประชาชนตาสีตาสาคนธรรมดาทั่วไปจะอยู่ยังไง ไม่อยากให้พฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นและไม่อยากให้คนเหล่านี้มีที่ยืนอยู่ในสังคมไทยเลยตัดสินใจนำข้อมูลทั้งหมดมายื่นให้ตำรวจ โดยเฉพาะคลิปเสียงที่เคยบันทึกไว้

“ที่ผ่านมา ผมถูกนาย อ. กรรโชกทรัพย์ ข่มขู่ตบทรัพย์ทุกรูปแบบจนทนไม่ไหว ต้องไปแจ้งความและปรึกษาผู้ใหญ่หลายท่าน ยืนยันผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักเรื่อง ส่วนตัวเลขที่ถูกกรรโชกทรัพย์ หลักหลายแสนบาท ตั้งแต่ปี 65-66 สำหรับคดีของผมนั้นไม่มีนาย ศ. เข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนจะมีนาย จ.หรือไม่นั้นยังไม่ขอเปิดเผย ทุกอย่างอยู่ในสำนวนการสอบสวน ผมยืนยันว่าทั้งหมดไม่ใช่ประเด็นทางการเมืองแต่เป็นเรื่องของการถูกกรรโชกทรัพย์” นายเสกสกลกล่าว

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกล่าวหานายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน และเจ๋ง ดอกจิก-นายยศวริศ ชูกล่อม อดีตสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ถึงการตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวว่า ป.ป.ช.รับเรื่องไว้แล้ว มีบางคนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมายหรือไม่ ป.ป.ช. มอบหมายให้ตำรวจ บก.ปปป. รับไปดำเนินการ ส่วนเจ๋ง ดอกจิก เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ขณะนี้ ป.ป.ช.มอบหมายให้ตำรวจ บก.ปปป.ไปแล้ว ต้องดูข้อมูลว่ามีคำสั่งให้พ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ แต่ตนยังไม่เห็น ตำรวจ บก.ปปป.อาจขอข้อมูลจากหน่วยงานเกี่ยวข้องว่ามีคำสั่งหรือไม่ ให้พ้นไปเมื่อใดต้องเปรียบเทียบดู

ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2567 เวลา 19.00 น. ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ตู้ควบคุมไฟฟ้าภายในห้องแล็บ พบจุดรอยไหม้ซึ่งอาจเป็นจุดต้นเพลิง อยู่ระหว่างหาร่องรอยการเกิดเพลิงไหม้ที่เกิดจากการหลอมละลายว่ามาจากสาเหตุใด

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่