ฉากโหดทะลุม่านไม้ไผ่ เด็ดขาดแบบไม่ต้องร้องขอชีวิต
ล่าสุดศาลสูงสาธารณรัฐประชาชนจีนตัดสินโทษประหาร “นายแบงก์” ลงดาบฟันคอผู้บริหารธนาคารยักษ์ใหญ่ “ไชน่า เมอร์แชนท์ส แบงก์” ความผิดฐานรับสินบน คอร์รัปชันต่อหน้าที่
แต่พักโทษตายไว้อีก 2 ปี ล็อกคอพาดเขียงรอบนหลักประหาร ลุ้นศาลปรานี โอกาสสุดท้ายได้ลดโทษให้ติดคุกตลอดชีวิต
หนังตัวอย่าง “เชือดโชว์” เป็นข่าวตามสื่อใหญ่กระจายไปทั่วโลก เซ่นยุทธการ ลุยล้างบางทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลปักกิ่ง ภายใต้การนำของประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ผู้นำพญามังกร
โกงจริง เอาตายจริง ไม่เลี้ยงไว้ให้หนักแผ่นดิน
รัฐบาลปักกิ่งแสดงถึง “มาตรฐานธรรมาภิบาล” ที่ตั้งไว้สูงลิบ โกงแลกด้วยโทษตาย เขย่าขวัญนักการเมือง นักธุรกิจ ข้าราชการกังฉิน ขี้ฉ้อ ต้องกลัวหัวหดตดหาย
ที่แน่ๆมันได้ผลเชิงจิตวิทยา ยุทธการลุยล้างทุจริตคอร์รัปชันของ “สี จิ้นผิง”
เป็นตัวช่วยอย่างดีในการกู้วิกฤติเศรษฐกิจแดนมังกร
...
สะท้อนจากผลสำรวจนักลงทุนสหรัฐอเมริกายังปักหมุดจีนแผ่นดินใหญ่ เลือกเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งในการขนเงินดอลลาร์ลงทุน
ไม่สนแม้จะเป็นคู่อริเกมชิงดุลอำนาจการเมืองโลก
โดยสถานการณ์บ่งชี้เลยว่า มาตรฐานการควบคุม “ทุจริตคอร์รัปชัน” เป็นเงื่อนไขสำคัญสูงสุดในสายตานักลงทุนทั่วโลก มาก่อนเหนืออื่นใด
จีนแผ่นดินใหญ่ได้แต้มปราบทุจริตอุ้มเศรษฐกิจในระยะยาว
ในสถานการณ์ย้อนกลับมามองที่ประเทศไทย อัปเดต ณ วันที่ 30 มกราคม 2567 อ้างอิงกับตัวเลของค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (TI) เพิ่งเผยแพร่ผลการสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ CPI ประจำปี 2566 จากจำนวนประเทศ 180 ประเทศทั่วโลก
ไทยแลนด์ได้ 35 คะแนน ตกลงจากปีก่อนหน้าได้ 36 คะแนน
หลุดจากโซน 100 ไปอยู่ในอันดับ 108 ของโลก ร่วงจากปี 2565 ที่ได้อันดับ 101 เทียบเท่ากับประเทศไทยที่เคยได้คะแนนต่ำสุดในปี 2556 และ 2559
ดัชนีโกงของประเทศไทยแทบไม่เคยไต่ระดับขึ้นมาต่ำกว่าอันดับที่ 100
ตามสภาพ “ดักดาน” เชื้อทุจริตคอร์รัปชันฝังรากลึก รักษายากกว่ามะเร็งร้าย โดยดัชนีทุจริตที่ประกาศโดยองค์กรเพื่อ
ความโปร่งใสนานาชาติ มันล้อกันเลยกับปรากฏการณ์ประจานซึ่งๆหน้า
“บ่อน้ำมัน” กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อนจนไฟลุกไหม้
โดยจังหวะสถานการณ์ “ช่างบังเอิญ” ทำให้สังคมส่วนใหญ่ไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ยกเป็นเหตุน่าสงสัยการวางเพลิงเผาทำลายหลักฐาน
เชื้อชนวนลุกลามจากพฤติการณ์ “แก๊งนักร้องไอ้หนุ่มรถไถ”
แบบที่ตำรวจใหญ่หัวหน้าทีมตะครุบเปรตหากินกับเงินแผ่นดิน อุปมาเป็น “หมาขี้เรื้อน” แย่งเศษเนื้อข้างเขียง
ตบทรัพย์หลักแสนหลักล้านจากโครงการของกรมการข้าว แต่เอาเข้าจริงปมฉาวลามไปถึงเนื้อก้อนใหญ่ ชี้เป้าให้ตามแกะรอยโครงการจัดซื้อเครื่องบินของกรมฝนหลวง
อาหารโอชะที่ “หมาจิ้งจอก” รอเขมือบ
โดยรูปการณ์ท้าทายผู้นำอย่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ต้องทำอะไรมากกว่าพูดว่า “ผมรับไม่ได้” ในสภาพกระทรวงเกษตรฯกลายเป็น “ขุมทรัพย์” ที่ขุนโจรแย่งกันปล้น งบประมาณมหาศาลตามภารกิจดูแลช่วยเหลือเกษตรกรคนยากคนจน ถูกแปรสภาพเป็นหัวคิวแก๊งเปรตงาบเงินแผ่นดิน
หนีไม่พ้นฉุดดัชนีโกงของไทยให้ต่ำเรี่ยราด โงหัวไม่ขึ้น
ในเมื่อนานาชาติเน้นเรื่องมาตรฐานการเคลียร์ทุจริต คอร์รัปชันอยู่เหนือเงื่อนไขอื่นใด
มันคือเรื่องใหญ่สุดที่ผูกติดกับเงื่อนไขการลงทุนทาง
เศรษฐกิจโยงกับการกู้ปัญหาปากท้อง ประคองชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทย
ตัวอย่างรัฐบาลปักกิ่ง “สี จิ้นผิง” โชว์ลุยล้างคอร์รัปชัน
กระตุ้นภูมิเศรษฐกิจแบบเห็นผลทันตา
ไทยต้องลุยล้างทุจริต อย่ามัวแต่หลงอยู่ในวังวน เรื่องมาตรา 112.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม