เริ่มแล้ว เม.ย.นี้ ส่ง "ครูมวยไทย" สุดยอดฝีมือ ไปสอนมวยในต่างประเทศ ดัน Soft Power มวยไทยให้โด่งดัง สร้างงาน สร้างรายได้ เตรียมขยายศูนย์อบรมทดสอบคุณภาพ "ครูมวย" ครอบคลุมทั้งประเทศ มี.ค.นี้

วันที่ 2 ก.พ. นายพิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์มวยไทยว่า ขณะนี้ได้เดินหน้าทำงานไปด้วยดี สามารถสร้างมาตรฐานให้กับครูมวยไทยเพิ่มมากขึ้น ด้วยการจัดอบรม และจัดทดสอบ สร้างเกณฑ์มาตรฐานที่เป็นสากล เพื่อให้ครูมวยไทย สามารถไปสอนมวยในต่างประเทศ และสร้างงานสร้างรายได้ เพิ่มคุณค่าให้กับบุคลากรมวยของประเทศไทยมากขึ้น

โดยภายในเดือนมีนาคมนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. จะเปิดศูนย์ทดสอบที่ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น ที่สามารถออกใบรับรองคุณภาพครูมวยไทยในนามของภาครัฐ ที่ได้รับการรับรองจากทั้งสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กกท. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งจะเป็นสนามสอบที่สามารถสร้างครูมวยที่มีศักยภาพ และกระจายอยู่ในพื้นที่ 5 จังหวัด ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ทั้งเชียงใหม่ สงขลา นครราชสีมา ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร

พร้อมกันนี้ จะมีศูนย์กลางในการประสานข้อมูลระหว่างกัน เพื่อให้ครูมวยไทยที่ต้องการไปทำงานในต่างประเทศ และชาวต่างชาติที่สนใจเรียนมวยไทย รวมถึงต่างชาติที่ต้องการจ้างครูมวยไทย ไปสอน สามารถเชื่อมต่อข้อมูลการติดต่อต่างๆ ร่วมกันได้ นอกจากนี้ ยังเดินหน้าขับเคลื่อน Soft Power มวยไทย ด้วยการจัดคลาสสอนมวยไทย โดยนำนักมวยไทยที่มีชื่อเสียง ไปโชว์ตัว และเปิดสอนเทคนิคต่างๆแบบคอร์สสั้นๆ ใน 1 วัน ให้กับผู้ที่สนใจในต่างประเทศ โดยจะเริ่มในยุโรป และตะวันออกกลาง

...

นายพิมล ระบุด้วยว่า ในช่วงเดือนเมษายนนี้ จะส่งครูมวยไทย ที่ได้รับใบรับรองจากภาครัฐ ทั้งชายและหญิง จำนวน 8 คน ไปสอนมวยไทยให้กับกองทัพทหารของซาอุดีอาระเบีย และสอนมวยให้กับนักกีฬามวยทีมชาติของซาอุดีอาระเบีย ตามคำร้องขอที่ผ่านมาทางสถานทูตไทยในเมืองริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งนับเป็นการส่งเสริมการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สากล และเป็นผลพวงของ Soft Power ที่ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้กับครูมวยไทย โดยครูมวยแต่ละคน ที่เดินทางไปต่างประเทศ จะได้รับค่าจ้างตั้งแต่ 80,000 ถึง 120,000 บาท ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และผลงานของครูมวยแต่ละคน