“เกณิกา” เผย “ธรรมนัส” เดินหน้าแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ 4 เดือน ดันราคายาง-ข้าวเปลือก-มันสำปะหลัง สูงขึ้นในรอบหลายปี ชี้ ถ้าเกษตรกรแข็งแรง ประเทศก็จะแข็งแรง
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนโยบายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ตั้งใจเดินหน้าแก้ปัญหาให้เกษตรกรทั่วประเทศ โดยเฉพาะปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เช่น นโยบายเพิ่มมูลค่ายางพาราไทย ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา สามารถดูแลราคายางพาราเพิ่มขึ้นถึงกิโลกรัมละ 20 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท โดยไม่ต้องใช้งบประมาณ ซึ่งราคายางพาราที่เคยตกต่ำกลับดีดตัวขึ้นในรอบ 10 ปี ทำให้ชาวสวนยางมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น หลังจากราคายางตกต่ำมานาน
ในส่วนของราคาข้าวเปลือก น.ส.เกณิกา ระบุว่า ปีนี้ก็สูงกว่าปีก่อนมาก โดยราคาข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 14,850 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี 14,350 บาท และข้าวเปลือกเจ้าตันละ 12,850 บาท ทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งประเทศไทยคนส่วนใหญ่ยังประกอบอาชีพการเกษตร ถ้าสินค้าเกษตรดี ชีวิตประชาชนดีขึ้นอย่างแน่นอน
...
ขณะที่เรื่องการปราบปรามการลักลอบสินค้าภาคเกษตรเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย ก็เป็นผลสำเร็จ ทำให้ราคามันสำปะหลังภายในประเทศปัจจุบัน 3.40-3.90 บาทต่อกิโลกรัม ในระดับเชื้อแป้ง 25% เพิ่มขึ้น 50-60 สตางค์ต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีราคา 2.95-3.30 บาทต่อกิโลกรัม สูงกว่าระดับราคาประกันรายได้ที่เคยมีในอดีต 2.50 บาทต่อกิโลกรัมด้วย
น.ส.เกณิกา กล่าวในช่วงท้ายว่า “รัฐบาลได้ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งแก้ปัญหา รวมถึงมีการเจรจาทางการค้า หาตลาดในการส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น เช่น ข้าวคุณภาพดีมีชื่อเสียงของไทย ถ้าจำหน่ายส่งออกไปตลาดโลกมากขึ้น ราคาข้าวรวมถึงสินค้าเกษตรอื่นๆ ก็จะมีราคาสูงขึ้น โดยเกษตรกรเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ถ้าเกษตรกรแข็งแรง ประเทศชาติก็จะแข็งแรงเช่นกัน”