น่าเห็นใจผู้นำรัฐบาลบางท่าน อาจรู้สึกหงุดหงิด เป็นรัฐบาลที่มาจากเสียงข้างมากท่วมท้น แต่จะทำอะไรก็ทำไม่ได้ ต้องตัดพ้อ ป.ป.ช.ว่าทำเกินหน้าที่ กรณีที่เตือนอย่าให้มีการทุจริตในโครงการแจกเงินดิจิทัล คนละหมื่นบาท อันที่จริง ป.ป.ช.ไม่ได้มีอำนาจแค่ “ปราบปรามการทุจริต”

แต่ชื่อ ป.ป.ช. ก็บอกแล้วว่า มีอำนาจในการ “ป้องกัน” การทุจริตด้วย การป้องกันดีกว่าการแก้อย่างแน่นอน ส่วนนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ยังใจเย็นอยู่ แม้จะถูกรุมวิพากษ์นโยบายระดับเรือธง ไม่ว่าจะเป็นการแจกเงินหมื่น และโครงการแลนด์บริดจ์ ที่คุยว่าเป็นอภิมหาโครงการใหญ่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

แต่มีประชาชนหลายกลุ่มคัดค้าน เช่น กลุ่มชาวชุมพร ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ขอพบนายกรัฐมนตรี ที่ไปประชุมคณะรัฐมนตรีที่จังหวัดระนอง ในวันที่ 22 ม.ค. เหตุที่คัดค้านเพราะเป็นโครงการใหญ่ ใช้งบนับล้านล้านบาท เพื่อก่อสร้างมอเตอร์เวย์ ทางรถไฟรางคู่ ท่อส่งน้ำมันเชื่อมโยงระนองที่ฝั่งทะเล อันดามัน กับชุมพรที่อ่าวไทย และสร้างท่าเรือน้ำลึกทั้งสองจังหวัด

มีการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ มาหลายสิบปี จากองค์กรที่น่าเชื่อถือ วัตถุประสงค์สำคัญคือการร่นระยะทางเดินเรือ จากมหาสมุทรอินเดียสู่มหาสมุทร แปซิฟิก ที่ปัจจุบันต้องอ้อมไปผ่านช่องแคบมะละกาที่สิงคโปร์

แต่ยังเถียงกันไม่จบ แลนด์บริดจ์จะร่นระยะเดินเรือ และลดค่าใช้จ่ายได้จริงหรือ จะเป็นที่นิยมของนานาชาติหรือไม่ ส่วนคนไทยในสองจังหวัด ห่วงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ป่าชายเลนจะถูกทำลาย รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยว สวนทุเรียน พื้นที่การประมง และชุมชนมากมายจะถูกทำลาย

แม้จะศึกษามาหลายรัฐบาล แต่ไม่มีรัฐบาลไหนดำเนินการ แต่รัฐบาลเศรษฐาเข้ามาแค่ไม่กี่เดือน ได้ประกาศเป็นอภิมหาโครงการทันที ไม่ทราบว่าได้ศึกษาและประเมินผลกระทบตามรัฐธรรมนูญหรือยัง ทั้งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพประชาชนหรือชุมชน และผ่านการรับฟังความเห็นประชาชนหรือไม่

...

เรื่องที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่งก็คือ นายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำที่คิดไว ทำไว และหวังผลเร็ว อาจขาดความรอบคอบ ขาดข้อมูลที่ถูกต้องเพียงพอ เคยมีบทเรียนมาแล้ว ทั้งโครงการแจกเงินดิจิทัล และโครงการรับจำนำข้าว ที่เคยถูกเตือนจะขาดทุนมหาศาล และก่อความเสียหายร้ายแรง แต่รัฐบาลไม่ฟัง.

คลิกอ่านคอลัมน์ "บทบรรณาธิการ" เพิ่มเติม