"ชัยชนะ" บี้ "อธิบดีกรมคุก" แจงสังคม ปม "นักโทษทักษิณ" ชี้ สังคมตัดสินเอง รพ.ตร. 2 มาตรฐาน หรือไม่ ขู่ ภาคประชาชนรอเคลื่อนไหว ไปยื่นองค์กรอิสระ และหากมีการคุ้มครอง ขอดูวงจรปิด หากพบว่าผิดมีปัญหาแน่
วันที่ 18 ม.ค. นายชัยชนะ เดชเดโช สส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายคุณสมบัติได้รับการพักโทษพิเศษ ว่า ตอนนี้ ทาง กมธ.ตำรวจฯ ต้องรอหนังสือจากกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดที่ทำส่งไป เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ถ้าภายในเดือนนี้ ไม่ตอบกลับมาก็ต้องส่งหนังสือติดตามไปอีกครั้ง แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่า กมธ.ตำรวจฯ ทำได้ภายใต้กรอบกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ภาคประชาชนก็ยื่นองค์กรอิสระ โดยเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา มีคลิปออกมา 1 คลิป และกรมราชทัณฑ์ยอมรับว่า ที่ไม่เรียกนายทักษิณว่า นักโทษชาย (นช.) เพราะไม่ได้โดนคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และยังไม่ได้เริ่มนับโทษเลย เพราะฉะนั้น หากตีความแบบนี้นายทักษิณได้รับโทษแล้วหรือไม่ ซึ่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะต้องชี้แจงต่อสังคมให้ชัดเจนในเรื่องนี้ ให้สังคมคลายข้อสงสัยให้ได้ ทั้งกรณีเรื่องระเบียบราชทัณฑ์ เรื่องพักโทษ และเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่บอกว่า หากเกินสิทธิ์จาก สปสช. ให้ใช้เงินส่วนตัวได้ ซึ่งต้องตอบให้ชัดเจนว่า หากเกินสิทธิ์ สปสช. แล้วผู้ต้องขัง ที่เป็นผู้ป่วยสามารถเบิกเงินส่วนตัวได้ทุกคน ซึ่งห้องพิเศษโรงพยาบาลตำรวจคืนละเป็นหมื่น ตนยืนยันว่า จะเป็นคนหนึ่งที่จะบอกประชาชนคนทั้งประเทศว่า หากนักโทษคนไหนป่วยแล้วเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล รักษาห้องพิเศษได้หมด นี่คือการแสดงให้เห็นว่าเป็นสังคม 2 มาตรฐาน
...
นายชัยชนะ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ ตนไปศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจความจริงแล้ว กรมราชทัณฑ์จะไม่ให้ กมธ.ตำรวจฯ ขึ้นชั้นบนเลย แต่ในหนังสือกรมราชทัณฑ์เขียนมาว่า ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของโรงพยาบาลตำรวจในการอนุมัติให้ใครเข้าพื้นที่ ดังนั้นตนจึงบอกไปว่า หากชี้แจงมาแบบนี้ ตนก็มีสิทธิ์ที่จะขึ้น แต่ในส่วนของพื้นที่หวงห้าม ที่อ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลเยี่ยมไม่ได้ ก็ไม่เข้าและทำตามกฎหมาย ขึ้นไปชั้น 14 ไปได้แค่หน้าวอร์ดพยาบาล แต่เมื่อลงมาชั้น 7 ตนสามารถพูดคุยกับนักโทษ 2 คนได้ นี่จึงอยากให้สังคมพิจารณาเองว่าอะไรคือ 2 มาตรฐานหรือไม่
เมื่อถามว่า เรื่องนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่า 2 มาตรฐาน จะมีใครผิดบ้าง ถึงขั้นติดคุกเลยหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ระเบียบการพักโทษมีมานานแล้ว แต่การคุมขังนอกเรือนจำเพิ่งมีการประกาศออกมา เพราะระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ ทำตั้งแต่ปี 2563 หากจะมองว่า เอื้อก็ไม่แฟร์ มองเป็นกลาง แต่ตอนนี้อย่าไปมองเรื่องระเบียบนอกเรือนจำ แต่ต้องมองว่า สิ่งที่โดนกระทำอยู่ตอนนี้ เป็นการกระทำ 2 มาตรฐาน หรือไม่ ทั้งนี้ หากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ดำเนินการทั้งหมด หากทำหนังสือชี้แจงมาไม่ได้ และไม่มีข้อเท็จจริง ระเบียบรองรับ อย่าลืมว่า วันนี้ภาคประชาชนก็ยื่นไปที่องค์กรอิสระ ถ้าเมื่อไหร่ที่องค์กรอิสระคุ้มครอง แล้วขอดูภาพวงจรปิดตอนเข้า ตอนออก และตอนดำเนินการ หากพบว่า มีการกระทำผิดขั้นตอนเรื่องนี้จะเป็นปัญหาแน่นอน