การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สรุปตัวเลขนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยในปี 2566 ที่ผ่านมา 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2566 จำนวน 28,042,131 คน โตขึ้นร้อยละ 151 เมื่อเทียบกับปี 2565 มีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.2 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยมากเป็นอันดับแรก คือ มาเลเซีย 4,563,020 คน จีน 3,519,735 คน เกาหลีใต้ 1,658,688 คน อินเดีย 1,626,720 คน และอันดับ 5 รัสเซีย 1,481,878 คน
ในจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยทั้ง 5 อันดับ ได้รับอานิสงส์จาก มาตรการฟรีวีซ่า อย่างปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้นมาตรการฟรีวีซ่าจะเป็นมาตรการสำคัญในการจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้นแน่นอน
คิดในมุมกลับ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ประกาศผลงานชิ้นโบแดง การเจรจากับจีนในการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศจีนให้กับไทยเป็นการถาวร เริ่ม 1 มี.ค.67 นี้ ก่อนหน้านี้เรายกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนเป็นการถาวร ต่อมาจีนได้ลดค่าวีซ่าให้ไทย 25% แต่ฟรีวีซ่าให้ประเทศอื่นๆ เช่น มาเลเซีย เป็นต้น
มีการนำเบื้องหลังการเจรจาครั้งนี้มาเปิดเผยด้วยว่า ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ ได้รับมอบหมายให้ไปเจรจากับจีนตามความตกลงในระหว่างที่ นายกฯเศรษฐา เดินทางไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือน ต.ค.2566 และหารือกับ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เกี่ยวกับเรื่องของฟรีวีซ่าซึ่งกันและกันไว้แล้ว
ต่อมาเมื่อเดือน ธ.ค.2566 รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ ได้เดินทางไปร่วมประชุมกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ที่กรุงปักกิ่ง หารือทวิภาคกับ หวังอี้ รมว.ต่างประเทศจีน หยิบยกเรื่องนี้มาหารือกันอีกครั้ง และได้มีการเสนอตั้งคณะทำงานมาหารือกันทั้งสองฝ่าย มีการเจรจาระดับข้าราชการะดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ
...
จนจีนยอมตกลงที่จะฟรีวีซ่าให้ไทยในเดือน มี.ค.2567 ก่อนที่การ ฟรีวีซ่าชั่วคราวให้นักท่องเที่ยวจีน จะครบกำหนดในวันที่ 29 ก.พ.2567 ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนการให้ฟรีวีซ่าถาวรระหว่างทั้งสองประเทศ
เป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศจีนเองอยู่ในสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ และเป้าหมายในการหารายได้เข้าประเทศก็ไม่ต่างจากประเทศอื่นๆทั่วไปในจำนวนนั้นก็คือ การท่องเที่ยว จีนลงทุนกับการคมนาคมเชื่อมต่อในหลายประเทศ โดยเฉพาะการคมนาคมทางราง มีเป้าหมายที่จะเชื่อม ทวีปเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา เข้าด้วยกันด้วยการขนส่งทางรางหรือเส้นทางสายไหม
สปป.ลาว ที่อยู่ติดกับไทยเป็นบ้านพี่เมืองน้อง มีรถไฟความเร็วสูง เชื่อมจากลาวไปจีน ต่อไปก็จะเชื่อมจากหนองคายไปลาว และเชื่อมไปอีกหลายประเทศในภูมิภาคนี้ด้วยรถไฟความเร็วสูงของจีน
จะมีนักท่องเทียวที่จะเดินทางไปจีนหรือผ่านจีน จำนวนมหาศาลขนาดไหน นอกจากการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่ใช้บริการขนส่ง ทางรางกับจีนอยู่แล้วและอย่าลืมว่าจีนมีแหล่งท่องเที่ยวมากกว่าเราหลายเท่า
ขณะที่การท่องเที่ยวญี่ปุ่น เปิดศักราชใหม่มาก็มีแต่ข่าวร้าย กระทบกับความรู้สึกของนักท่องเที่ยวพอสมควร ในที่สุดการท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะอิ่มตัว บ้านเราเองจะอาศัยแค่เปิดผับเปิดบาร์ ลดภาษีของมึนเมา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ทำให้การท่องเที่ยวไทยใกล้จะถึงจุดอิ่มตัว เช่นกัน แทนที่เราจะได้นักท่องเที่ยวจีน
จีนจะได้นักท่องเที่ยวจากเราเพิ่มขึ้น.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ "คาบลูกคาบดอก" เพิ่มเติม