“ภูมิธรรม” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.เลย รับฟังความเห็นสร้าง "กระเช้าภูกระดึง" ย้ำต้องตกผลึก ยัน รับฟังเสียงส่วนใหญ่-ส่วนน้อย หาจุดสมดุลตอบโจทย์ทุกฝ่าย บอก หากสร้างเสร็จจะเป็นคนแรกๆที่มาขึ้นกระเช้า 

วันที่ 6 ม.ค. ที่ จ.เลย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ลงพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อ.ภูกระดึง จ.เลย หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน รับฟังบรรยายสรุปการศึกษาโครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง พร้อมกล่าวว่า ปัญหาการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงเป็นปัญหาที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น มีทั้งคนที่อยากเข้าไปชมธรรมชาติเหมือนคนอื่น แต่ก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพร่างกาย คนอาวุโสขึ้นไปไม่ได้ และบางส่วนคัดค้าน เพราะให้ความสำคัญกับธรรมชาติ จึงเป็นเรื่องที่ต้องคุยกันให้ตกผลึก ไม่อย่างนั้นจะเป็นปัญหา โดยขอให้รับฟังเสียงส่วนน้อยด้วย แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะต้องการกระเช้าขึ้นภูกระดึง

...

นายภูมิธรรม กล่าวว่า แนวคิดการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงได้ทำมานานแล้ว ล่าสุดจะต้องศึกษาสภาพแวดล้อม ควบคู่กับการออกแบบที่รัฐบาลนี้ให้นโยบายชัดเจนอยู่แล้วในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ จ.หนองบัวลำภู อนุมัติงบประมาณ 28 ล้านบาท เพื่อไปศึกษาให้จบและออกแบบ อยากให้ความมั่นใจว่า เงิน 28 ล้านบาท ไม่ได้มีปัญหา แต่เป็นเงินที่มีความหมายในการแก้ไขปัญหาให้เกิดสิ่งดีๆ ขึ้น และในฐานะที่มารับฟังปัญหาจะช่วยผลักดันให้ได้โดยเร็วที่สุดจะได้จบไม่ยืดเยื้อ ซึ่งรัฐบาลนี้เคยเจอปัญหาแบบนี้หลายครั้ง เช่น การสร้างสุวรรณภูมิใช้เวลากว่า 40 ปี จนสุดท้ายสามารถสร้างได้และไม่มีปัญหา จนที่สุดต้องขยายเพราะพื้นที่ไม่เพียงพอ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทั้งนี้ ทำอย่างไรที่จะทำให้ทำลายธรรมชาติน้อยที่สุด และหากสร้างแล้วต้องบริหารจัดการให้ดี คนจะทะลักหรือไม่ จะจัดการเรื่องคนขึ้นไปเยอะๆ อย่างไร ตอบโจทย์การสร้างเศรษฐกิจให้กับคุณ ชุมชน และจังหวัดอย่างไร รวมถึงจะสร้างมลภาวะเยอะหรือไม่ จะช่วยลูกหาบอย่างไร ต้องสร้างงานให้หรือไม่ หากสร้างจุดสมดุลให้ทุกฝ่าย การสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง น่าจะไม่ใช่เป็นปัญหาใหญ่

จากนั้น นายภูมิธรรม ได้พบปะประชาชนในพื้นที่หลายร้อยคน ที่มาต้อนรับและถือป้ายสนับสนุนอยากให้มีการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง พร้อมพูดคุยกับประชาชนว่า หากสร้างเสร็จตนจะเป็นคนแรกๆ ที่มาขึ้นกระเช้าขึ้นภูกระดึง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในจังหวัดดีขึ้น ลูกหลานกลับมาทำงานที่บ้านเกิด