นายกฯพร้อมภริยาและ ครม. ลงนามถวายพระพรในหลวง-พระราชินี เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567 ขณะที่โพสต์อวยพรคนไทย ขอให้ทุกคนเริ่มต้นปีใหม่ด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความสุข ความสดชื่น รวมถึงขอให้เป็นปีแห่งความก้าวหน้า เป็นก้าวของความสำเร็จ และความมั่นคงในชีวิต

ส่วนคนไทยเดินทางท่องเที่ยวฉลองต้อนรับวันแรกของปีใหม่ด้วยความอิ่มเอมใจ แห่ขึ้นดอย-ภูสูง ชมแสงตะวันแรกของปี 2567 ก่อนร่วมทำบุญตักบาตร และเข้ากราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคลชีวิตจนแน่นวัด

เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ วันที่ 1 ม.ค.2567 ประชาชนเฉลิมฉลองวันใหม่ด้วยการเข้าวัดทำบุญตักบาตร กราบไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ ต่างๆ หลังร่วมทำบุญตักบาตรแล้วได้นำเหล่าข้าราชการ ร่วมลงนามถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2567 อย่างต่อเนื่อง รวมถึงที่พระบรมมหาราชวัง ประชาชนจากทุกสารทิศเดินทางมาลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรม วงศานุวงศ์ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ให้ทรงมีพระพลานามัย แข็งแรงสมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน

...

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังเปิดให้สมาชิกราชนิกุล ราชสกุล คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส คณะทูตานุทูต ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้แทนจากหน่วยงานเอกชน องค์กรต่างๆลงนามถวายพระพร ที่อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ฝั่งทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ส่วนประชาชนให้ลงนามถวายพระพร ที่สนามหญ้าด้านข้างกองแพทย์หลวง ซึ่งมีประชาชนมารอต่อคิวยาวเหยียดเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง เพื่อรอลงนามถวายพระพร ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2567 แก่ผู้ที่มาลงนามถวายพระพรทุกคนด้วย ซึ่งหลังจากประชาชนลงนามถวายพระพรแล้ว ได้เดินไปยังวัด พระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อกราบสักการะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต รวมทั้งกราบสักการะพระบรมรูป สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ซึ่งประดิษฐาน ณ ปราสาทพระเทพบิดร เนื่องในเทศกาลขึ้นปีใหม่

ขณะที่ในเวลา 10.00 น. ที่ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ด้านตะวันออกในพระบรมมหาราชวัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง มาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567 โดยมีภริยา นางพักตร์พิไล ทวีสิน พร้อมรองนายกฯ และภริยา ร่วมพิธี โดยนายกฯและภริยา ถวายความเคารพพระบรม ฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ จากนั้น นายกฯและภริยาลงนามถวายพระพร ต่อด้วยในเวลา 10.30 น. นายกฯ และภริยา เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567 ณ พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยนายเศรษฐาได้ให้สัมภาษณ์หลังเข้าเฝ้าว่า สมเด็จพระสังฆราชประทานพรให้มีความสุข ท่านสอบถามเรื่องบ้านเมืองที่เป็นห่วงว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า

ทั้งนี้ นายเศรษฐายังได้ทวีตข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ขอให้ทุกคนเริ่มต้นปีใหม่ด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความสุข ความสดชื่น เชื่อว่าความสุขแท้จริงของคนไทย คือการที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความปลอดภัย การรักษาพยาบาลที่ครอบคลุม ลูกหลานได้รับการศึกษา และมีอนาคตที่ดีตามที่มุ่งหวัง และได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม หน้าที่ของรัฐบาล คือพยายามผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน หลายโครงการเป็นโครงการ เร่งด่วน ที่ตนและรัฐบาลมุ่งมั่นอยากทำให้สำเร็จ เพื่อให้ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้จริงในระยะเวลาอันรวดเร็ว ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การต้อนรับ และส่งกำลังใจให้ผมในยามที่ลงพื้นที่ต่างจังหวัด ตนตั้งใจลงไปพบปะพี่น้องประชาชนในทุกภาค อยากลงไปฟังปัญหา และรวบรวมข้อเสนอของพี่น้องประชาชนด้วยตัวเอง และที่ต้องขอบคุณมากๆ คือ ทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันทำงานหนักเพื่อพี่น้องประชาชนตลอดปี 66 ที่ผ่านมา ขอให้ทุกท่านยังคงทำงานอย่างเต็มที่เพื่อสร้างความสุข และชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป สำหรับปี 67 ขอให้เป็นปีแห่งความก้าวหน้า เป็นก้าวของความสำเร็จและความมั่นคงในชีวิตของพี่น้องชาวไทยทุกคน สวัสดีปีใหม่ 2567

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. กล่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงภาพรวมการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 ทั่วประเทศ ว่าทุกกองบัญชาการรายงานว่าสถานการณ์เป็นปกติไม่มีเหตุการณ์ที่รุนแรง หรือแจ้งเหตุที่เกิดความไม่ปลอดภัยต่อประชาชน ส่วนกรณีที่ปรากฏภาพประชาชน ปีนออกจากรั้วคอนเสิร์ตที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ อาจเกิดจากประชาชนบางส่วนที่อยากเข้าไปในพื้นที่เพื่อชมคอนเสิร์ต หรือบางส่วนที่อยากออกมาจากพื้นที่แบบเร่งด่วน ซึ่งในภาพรวมไม่มีรายงานความเสียหาย

ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยวส่งท้ายช่วงหยุดยาวในช่วงปีใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดวันที่ 1 ธ.ค. ตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยือนอย่างต่อเนื่อง โดยที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ประชาชนตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อไปทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ ณ บริเวณที่ทำการอุทยานฯ ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด บริเวณกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิต่ำสุดเพียง 3 องศาเซลเซียส ซึ่งสภาพอากาศที่หนาวเย็นยังทำให้เกิดเหมยขาบตามใบไม้ใบหญ้า พืชพรรณต่างๆ เต็มไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งเกาะเป็นรูปร่างแปลกสวยงาม สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เป็นการเกิดเหมยขาบติดต่อกันเป็นวันที่สามและเป็นครั้งที่ 9 ของฤดูหนาวนี้ นอกจากนี้ รถยนต์ที่นำไปจอดไว้บนยอดดอยมีน้ำค้างแข็งเกาะเป็นเกล็ดบนหลังคารถ สร้างความแปลกตาแปลกใจกับนักท่องเที่ยว เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะที่ลานอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย เชิงทางขึ้นดอยสุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับได้แวะมาสักการะขอพรจนแน่นขนัด

เช่นเดียวกับที่ผาชะนะได จุดตะวันออกสุดแดน สยาม อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบล ราชธานี นักท่องเที่ยวจำนวนมากรอชมแสงตะวันแรกของปีอย่างคึกคัก โดยพระอาทิตย์ขึ้นเมื่อเวลา 06.24 น. รวมถึงร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร “รับแสงแรกแห่งตะวัน 4 มหัศจรรย์ @ อุบลฯประจำปี 2567” ที่มีนายสำเริง ม่วงสังข์ รอง ผวจ.อุบลราชธานี เป็นประธานในพิธี ส่วนที่ป่านันทนาการหินสามวาฬ บ้านโนนทรายทอง ม.8 ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ เมื่อช่วงเช้าอุณหภูมิอยู่ที่ 19 องศาฯ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ จำนวนมาก เดินทางมาชมความงดงามทางธรรมชาติ พร้อมกับรอชมแสงแรกของปี พ.ศ.2567 ที่โผล่พ้นขอบฟ้าผ่านเทือกเขาของ ฝั่ง สปป.ลาว ขึ้นมาอวดโฉมในเวลา 06.35 น. ไม่ต่างจากที่จุดชมวิวบนดอยหมู่บ้านป่าหวาย หมู่ที่ 3 ตำบลคีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเมียนมาจำนวนมากและชาวไทยจากทั่วประเทศจับจองพื้นที่กางเต็นท์นอนพักเต็มพื้นที่ทุ่งหญ้าเชิงภูเขาดอยป่าหวายเพื่อเฝ้ารอชมแสงดวงตะวันแสงแรกแห่งปีใหม่ 2567 และก็ไม่ผิดหวังที่ได้เห็นแสงตะวันโผล่พ้นเส้นขอบฟ้าเชิงภูเขาเหนือแนวชายแดนไทย-เมียนมา บวกสภาพอากาศที่ยังคงหนาวเย็นทำให้เกิดทะเลหมอกสีขาวตัดทอกับแสงแรกของดวงอาทิตย์สีส้มอ่อน ยิ่งเพิ่มความสวยงาม มีการถ่ายรูปและแชร์ภาพกันอย่างมีความสุข

ขณะเดียวกัน ตามวัดวาอารามทุกแห่งก็เนืองแน่นไปด้วยคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่แวะกราบสักการะขอพรก่อนกลับมาทำงานตามปกติ เช่น ที่วัดศรีชมภูองค์ตื้อ ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย คึกคักทั้งวันเมื่อพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย ชาวลาว และนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศเดินทางมากราบสักการะขอพร “หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สองฝั่งโขง เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต

เช่นเดียวกับที่วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน ตั้งแต่ช่วงเช้ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจากทุกสารทิศเดินทางมากราบสักการะขอพรปีใหม่ หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ พระนามาภิไธยย่อ สก เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตและครอบครัวอย่างไม่ขาดสาย รวมถึงขอโชคลาภเลขเด็ด โดยพระพิศาลสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลได้ปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้ทุกคนเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย

ส่วนที่สะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ) อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นักท่องเที่ยวเดินทางมาทำบุญตักบาตรบริเวณก่อนทางเดินลงสะพานมอญเป็นจำนวนมาก โดยมีพระจากวัดวังก์วิเวการามเดินทางมาบิณฑบาต ซึ่งเมื่อทำบุญตักบาตรเรียบร้อย ก็ทยอยเดินลงไปที่สะพานไม้อุตตมานุสรณ์เพื่อไปเก็บภาพหมอกยามเช้าจนแน่นสะพาน

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่