“ครูมานิตย์” ไม่ห่วงฝ่ายค้านฟาดฝีปากถล่มร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 67 แต่หวั่นใจบริหารงบฯถ้ารั่วไหลถูกลากขึ้นเขียงซักฟอก เตือนรัฐบาลระวังห้ามทุจริตโผล่ ซัด สว.จ้องแต่บั่นทอนจิตใจนายกฯ “สมศักดิ์” ฟุ้งมั่นใจปีหน้าฟ้าใหม่ทุกอย่างดีขึ้น “ธนกร” ปัดพรรคร่วมฯชิงเหลี่ยมแย่งเคลมผลงาน “ชัยธวัช” เขย่าซ้ำ “เศรษฐา” ติดบ่วงถูกร้องคดีต่อองค์กรอิสระ ส่อกระทบเก้าอี้นายกฯ จับตาปรับ ครม. “แพทองธาร” โดดนั่งรัฐมนตรี “จุรินทร์” หยันรัฐบาลไม่ได้ทำผิดอย่าได้กลัว “โหรวันชัย” ทายปี 67 รัฐบาลดวงแข็งโป๊ก เปลี่ยนตัว “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นนายกฯต้องรอไปปีที่ 3
สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มร้อนแรงมากขึ้น ตั้งแต่ต้นปี 2567 โดยหลายฝ่ายต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประเมินการทำงานของรัฐบาล และจะมีการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ในวันที่ 3-5 ม.ค.67 ขณะที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) มั่นใจว่ารัฐบาลจะชี้แจงข้อสงสัยของฝ่ายค้านได้ แต่หากการใช้งบประมาณเกิดการรั่วไหล อาจนำไปสู่การอภิปราย ไม่ไว้วางใจรัฐบาลต่อไป
พท.หวั่นบริหารงบฯรั่วถูกลากขึ้นเขียง
เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมวางตัวขุนพลจัดหนักอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค.67 ว่า ดูแล้วไม่น่าหนักใจอะไร มั่นใจรัฐบาลชี้แจงได้ทุกเรื่อง เวทีงบประมาณรายจ่ายเป็นแค่งานรูทีน ตามขั้นตอนปกติ แต่สิ่งที่น่าห่วงหลังจากนี้คือการควบคุมการใช้จ่ายงบฯที่อนุมัติไปให้มีประสิทธิภาพ ไม่มีทุจริต เราไม่รู้ว่าเมื่อรัฐบาลได้งบฯไปแล้ว แต่ละหน่วยงานจะไปบริหารจัดการอย่างไร ต้องระวังให้ดี ถ้าบริหารแล้วเกิดข้อผิดพลาด สร้างความเสียหายให้ประเทศ จะเปิดช่องให้ถูกนำไปขยายผลในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ ดูแล้วเป็นเรื่องน่าห่วงกว่า
...
เตือนต้องระวังไม่ให้เหตุทุจริตโผล่
“รัฐบาลจะอยู่สั้นหรือยาวอยู่ที่ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน จะต้องไม่ให้มีเกิดขึ้น เป็นเงื่อนไขให้กองทัพเข้ามาแทรกแซง ยิ่งปี 2567 เป็นปีความหวังของประชาชนจะลืมตาอ้าปาก ต้องระวังไม่ให้มีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น เชื่อว่าหลังจากงบฯปี 67 ผ่านความเห็นชอบแล้ว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง จะกวดขันเข้มงวดการทำงานของรัฐมนตรีมากขึ้น เพราะทุกกระทรวงมีงบฯใช้ขับเคลื่อนสร้างผลงานแล้ว ใครทำงานไม่ไหวต้องปรับออก มั่นใจด้วยประสิทธิภาพของนายกฯจะพาประเทศไปรอดแน่” นายครูมานิตย์กล่าว
ซัด สว.จ้องบั่นทอนจิตใจนายกฯ
นายครูมานิตย์กล่าวอีกว่า ส่วนความพยายามจุดกระแสเรื่องการได้สิทธิพิเศษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พักรักษาอาการป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำ มาเป็นเงื่อนไขล้มรัฐบาล เชื่อว่าไม่มีผลอะไร ยืนยันว่านายทักษิณป่วยจริง การได้สิทธิรักษาพยาบาลต่างๆทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนการจะได้สิทธิพักโทษเมื่อไรให้เป็นไปตามเงื่อนไขกฎหมาย ไม่มีการแทรกแซง เวลานี้ประชาชนต่างจังหวัดไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญประเด็นนายทักษิณ มีแต่พูดถึงปัญหาปากท้องเป็นส่วนใหญ่ ไม่สามารถนำมาจุดประเด็นความขัดแย้งได้อีกแล้ว ส่วนที่ สว.บางคนระบุนายเศรษฐาจะอยู่เป็นนายกฯได้อีกแค่ปีเดียวนั้น เป็นการสร้างวาทกรรมเดิมๆจากฝ่ายตรงข้ามที่มีอคติ ใช้วิธีจุดกระแสบั่นทอนจิตใจนายเศรษฐา ยืนยันพรรคเพื่อไทยไม่มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีแน่ นายเศรษฐาทำงานเต็มที่ แอ็กทีฟตลอดเวลา ช่วยกันทำงานด้วยดีกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่มีเค้าลางเปลี่ยนนายกฯใดๆทั้งสิ้น
“สมศักดิ์” มั่นใจปี 67 ทุกอย่างดีขึ้น
ที่ จ.สุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ได้ต้อนรับหัวหน้าส่วนราชการ จ.สุโขทัย นำโดยนายสุชาติ ทีคะสุข ผวจ.สุโขทัย นายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย สว.และสส.สุโขทัย เพื่อเข้าสวัสดีเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 67 โดยนายสมศักดิ์กล่าวว่า ปีใหม่ 67ถือเป็นปีที่ดีที่สุด เพราะหากเปรียบเทียบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา จะพบว่าประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาโรคระบาด ที่ส่งผลให้พี่น้องประชาชน ต้องบาดเจ็บและเสียชีวิตไปจำนวนมาก แต่ปีนี้ตนมองว่า ทุกอย่างกำลังจะเริ่มดีขึ้น ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ตนยินดีเปิดบ้านพูดคุยหารือในทุกเรื่อง ยินดีรับฟังทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เดินหน้าได้มากที่สุด ขอให้สบายใจกับการอยู่ร่วมกันใน จ.สุโขทัย เพราะการทำงานร่วมกัน ตนไม่มีทิฐิใดๆทั้งสิ้น มีแต่อยากให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้อย่างมีความสุขเท่านั้น ทั้งนี้ ขอให้แก้ไขสิ่งที่เป็นอุปสรรคขวากหนาม ได้อย่างปลอดโปร่งและเป็นปีทองของพวกเราชาวสุโขทัยทุกคน ขอให้มีความสุขและเดินหน้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่
“ธนกร” ปัดพรรคร่วมฯชิงเคลมผงาน
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการทำงาน 4 กระทรวงหลักภายใต้พรรค รทสช.ว่า ตั้งแต่พรรค รทสช.ทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา รัฐมนตรีทุกคนเป็นตัวอย่างทำงานเต็มที่ และกำชับรัฐมนตรีของพรรค รวมถึง สส.ให้ใช้โอกาสทำงานเพื่อประชาชน ให้เห็นผลงานเป็นรูปธรรมจับต้องได้ หลังปีใหม่เปิดสภาฯ 36 สส.พรรค รทสช.ทุกคนทำการบ้านมาพร้อมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 67 ทันที พรรคร่วมรัฐบาลต่างเปิดผลงาน ไม่ได้ชิงความได้เปรียบทางการเมือง แข่งกันเอง แต่เป็นนิมิตหมายที่ดีแข่งกันทำงานแข่งกันแก้ปัญหาให้ประชาชนมากกว่า ถือว่าทุกพรรคทำตามสัญญาและทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ที่ผ่านมา การเมืองอาจใส่ร้ายป้ายสีโจมตีดิสเครดิตกันอยู่ แต่การเมืองยุคใหม่ต้องแข่งกันทำงาน แข่งกันแก้ปัญหา แข่งกันช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุด การทำงาน การเมืองแบบใหม่ ต้องทำงานอย่างสร้างสรรค์ ไม่พูดเอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่เพื่อน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้าน
“สุวัจน์” หนุนตั้ง กมธ.ถกปมนิรโทษฯ
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) และอดีตรองนายกฯ กล่าวถึงการนิรโทษกรรม ว่า เป็นความขัดแย้งทางการเมืองมาตั้งแต่ปี 2549 หรือมากกว่า 16-17 ปี ความขัดแย้งทางการเมืองนำไปสู่วิกฤติขาดความต่อเนื่องของการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ขาดความเชื่อมั่น ถ้าเรายุติความขัดแย้งได้จะเป็นส่วนหนึ่งลดวิกฤติและเป็นการรวมพลังของคนในชาติ รวมพลังความรัก ความสามัคคีและประสบการณ์ ส่วนขอบเขตหรือวิธีการของการนิรโทษจะทำอย่างไร ไม่นำไปสู่ความขัดแย้งใหม่อีกครั้งนั้น จะต้องเป็นวิธีการที่ทุกฝ่ายยอมรับ และเห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาโดยสภาฯ อาจจะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญหรือคณะกรรมการที่มีองค์ประกอบทุกพรรคทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อาจมีตัวแทนนักวิชาการมาวิเคราะห์ให้ตกผลึกว่า การ นิรโทษควรจะนิรโทษแบบใด และนิรโทษกรรมส่วนไหน เมื่อได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายแล้วจึงเริ่มต้นกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ส่วนจะนิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำความผิดมาตรา 112 และคดีทุจริตหรือไม่นั้น ควรเป็นเรื่องของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นไปคุยในรายละเอียดเพื่อให้ทุกฝ่ายรับได้
เห็นพ้องแก้ รธน.ให้เป็น ปชต.
นายสุวัจน์ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรค ชพก.ได้พูดไว้ในช่วงเลือกตั้ง และพรรคอื่นๆ ก็พูดเรื่องนี้ ฉะนั้นในฝ่ายการเมืองเห็นพ้องต้องกันว่า ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย มีความ ถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์โลกและสถานการณ์เศรษฐกิจที่ต้องได้รับการแก้ไข เป็นเครื่องมือพัฒนาประเทศ แต่จะแก้บางมาตรา หรือแก้ทั้งฉบับต้องไปอิงให้ถูกต้องตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หากจะแก้ทั้งฉบับ ต้องไม่แตะ หมวด 1 หมวด 2 ต้องทำประชามติ หากประชาชนเห็นด้วยก็ต้องมาว่ากันที่วิธีการแก้ คือมาตรา 256 ว่าจะแก้แบบไหน อย่างไร เช่น การมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จะมีกี่คน มาจากเลือกตั้ง หรือผสมกับการแต่งตั้ง
รับได้ ส.ส.ร.ผสมแต่งตั้งให้ครบทุกมิติ
“พรรค ชพก.รับได้ที่ ส.ส.ร.จะมาจากการเลือกตั้งส่วนหนึ่งและการแต่งตั้งส่วนหนึ่ง เพราะต้องมีความชอบธรรมที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และต้องได้ผู้มีความรู้ความสามารถ ความชำนาญและมีประสบการณ์มาช่วยกันร่าง เพื่อให้มองครบทุกมิติในการแก้ปัญหาของประเทศจะสมบูรณ์ แต่ความชอบธรรมของประชาชนต้องมากกว่า เช่น มาจากการเลือกตั้งส่วนใหญ่และอีกกว่า 20 คนมาโดยแต่งตั้งเลือกจากสาขาวิชาชีพทำให้องค์ประกอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกต้องเหมาะสมทุกมิติ เช่นเดียวกับ สส. 2 ระบบ ภาพรวมเราสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยเต็มที่ บรรยากาศบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยเต็มที่ การเขียนรัฐธรรมนูญจะอยู่บนพื้นฐานความเป็นประชาธิปไตย เราต้องมีเครื่องมือแก้ปัญหาประเทศ เศรษฐกิจโลก เทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลง ความยืดหยุ่นของกฎหมายจึงสำคัญในการแก้ปัญหาของประเทศได้เร็วและสำเร็จ” ประธานพรรคชาติพัฒนากล้ากล่าว
“โหรวันชัย” ทายปี 67 รบ.ดวงแข็งโป๊ก
วันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ สว.โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า มีทั้งหมอดู นักวิเคราะห์วิจารณ์ว่า ปีหน้า มังกรจะพ่นไฟ รัฐบาลจะมีปัญหาสารพัด นายกฯเศรษฐาจะอยู่ไม่ได้ จะมีชุมนุมประท้วง มีเหตุเภทภัยต่างๆในทำนองรัฐบาลจะไปไม่รอด พรรคร่วมจะแตกแยก หมอดูบางคนเลยเถิดไปถึงขั้นจะมีปฏิวัติรัฐประหาร ทั้งหมอดูและนักวิจารณ์ไม่รู้ลึก มองดวงดาวแบบไม่เข้าใจการเมือง ไม่รู้รัฐธรรมนูญ ไม่รู้การเมือง ใช้ชุดข้อมูลเดิม บางคนอคติผิดมาทั้งหมดตั้งแต่เลือกนายกฯเศรษฐาแล้ว จะขอพูดทั้งดวงดาว ดวงรัฐบาล และสถานการณ์ปีหน้าจนกว่าจะหมดสมัยรัฐบาล ดังนี้ 1.ต้องรู้พื้นดวงก่อนว่า กว่าจะมาเป็นรัฐบาลเศรษฐา เขามาด้วยปีกระต่ายทอง เป็นการเห็นพ้องต้องกันของทุกฝ่าย ทุกระดับ ทั้งอำนาจเก่า อำนาจใหม่สนับสนุน ทำให้ทั้งดวงชะตาและเสถียรภาพรัฐบาลมั่นคง แน่นปึ้ก! เรียกว่าที่มาไม่ธรรมดาจริงๆ
เวทีการเมืองเหลือ พท.–ก.ก.คู่ฟัดตัวจริง
นายวันชัยระบุต่อว่า 2.เพื่อไทยมีบทเรียน ประสบการณ์ ความสำเร็จ และความสูญสิ้นจากการเป็นรัฐบาล มีประท้วงชุมนุมขับไล่ ติดคุกติดตะรางหนีไปต่างประเทศ ปฏิวัติรัฐประหาร แค่นี้ก็มากพอแล้ว เป็นบทจำที่ควรเปลี่ยนแปลง เหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีประสบการณ์เห็นการปฏิวัติของทหารมาหลายคณะ แล้วนำมาเป็นบทเรียน ทำให้อยู่ได้นาน 3.คู่ต่อสู้ทางการเมืองต่อไปนี้จะมี 2 พรรคเท่านั้นคือ เพื่อไทยกับก้าวไกล และเพื่อไทยคงไม่ยอมแพ้ให้ก้าวไกลมาเป็นรัฐบาลแน่ ต้องเร่งเครื่อง เร่งผลงานเต็มที่เต็มกำลัง 4.ต้นปีนี้อย่างที่เคยบอกดวงดาวที่สำคัญๆมาชุมนุมอยู่ที่ราศีพฤษภ ในเรือนกดุมภะ ยิ่งกลางปีไปแล้วทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองจะเข้าที่เข้าทาง เดินเครื่องได้เต็มสูบ ขับเคลื่อนได้อย่างดี
เปลี่ยน “อุ๊งอิ๊ง” นั่งนายกฯรอปีที่ 3
นายวันชัยระบุด้วยว่า 5.เรื่องคุณทักษิณชั้น 14 ที่ว่าจะมีเรื่องวุ่นวาย ชุมนุมประท้วง เป็นปัญหากับรัฐบาลนั้น ดูจากดวงดาวและการเมือง ไม่มีอะไรรุนแรง แม้จะมีก็ไม่อาจทำอะไรกับดวงที่แข็งของรัฐบาลได้ จะว่าไปแล้วในเดือน ก.พ. คุณทักษิณจะได้พักโทษตามกฎเกณฑ์ จะชุมนุมหรือไม่ชุมนุม อีกเดือนกว่าๆก็จบแล้ว ทุกสิ่งอย่างจะจบไปด้วย คนเบื่อความขัดแย้ง 6.รัฐบาลนี้จะไม่มีคลื่นลมใดมาปะทะ จะไปได้ตลอดรอดฝั่ง เมื่อผลงานออกมาตามนโยบายที่ประกาศ เศรษฐกิจและการทำมาหากินดีขึ้น ประชาชนจะไชโยโห่ร้องสนับสนุน ซึ่งเพื่อไทยเคยทำมาแล้ว คงจะทำต่อไป แก้ไขบทเรียนต่างๆให้ดีขึ้น อาจจะเปลี่ยนตัวนายกฯก็คงปีที่สามหรือสี่ของรัฐบาล เพื่อเตรียมตัวให้อุ๊งอิ๊งต่อไปในสมัยหน้า ปีหน้าเป็นปีมังกรทองของรัฐบาลและประชาชน
“ชัยธวัช” ห่วงคดีพ่นพิษนายกฯปี 67
นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองปี 2567 ที่ สว.จะครบวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปีในเดือน พ.ค. อาจจะมีเหตุการณ์ทางการเมืองเป็นเหตุให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ ขณะนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง มีเรื่องถูกร้องเรียนในองค์กรอิสระ หากถูกชี้มูลความผิด จะกระทบตำแหน่งบริหารของนายกรัฐมนตรี เช่น เรื่องที่ร้องไปยัง ป.ป.ช. กรณีแต่งตั้ง ผบ.ตร. ที่ถูกกล่าวหาทำผิด พ.ร.บ. ตำรวจฉบับใหม่ ถ้า ป.ป.ช. พิจารณาว่ามีความผิดหรือมีมูลก็มีปัญหาแน่นอน และอาจมีอีกหลายเรื่องตามมา เช่น กรณีการเลี่ยงภาษีที่ดินของบริษัทแสนสิริ ที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ไปยื่นไว้ ไม่แน่ใจว่ามีกี่เรื่องที่ถูกร้องอยู่ และในอนาคตอาจถูกร้องจากพรรคฝ่ายค้านในเรื่องอื่นด้วยเช่นกัน
จับตาปรับ ครม. “อุ๊งอิ๊ง” โดดนั่ง รมต.
นายชัยธวัชกล่าวว่า ขอให้จับตาบทบาท น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ หากมีการปรับ ครม.จะปรับให้ น.ส.แพทองธารมารับตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ ในวันปีใหม่ขออวยพร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าอยากเห็นทุกคนรวมถึงนายกฯมีความสุข หวังเห็นประเทศไทยมีสังคมดีขึ้นในอนาคต อยากให้นายกรัฐมนตรีตั้งใจทำงานเต็มที่ ด้วยความเป็นห่วงเนื่องจากที่ผ่านมาแม้นายกรัฐมนตรีจะรู้สึกว่าตัวเองทำงานหนักทุกวัน แต่ฝ่ายค้านคิดว่าการบริหารงานที่ดีต้องทำงานเชิงรุก ลงรายละเอียดมากกว่านี้ เช่น ค่าแรง พอนายกฯทราบว่า ไตรภาคีมีมติค่าแรงขั้นต่ำขึ้น นายกฯโวยวายไม่พอใจ ทั้งที่หากเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลต้องทำงานเชิงรุกก่อนหน้านี้ พูดคุยกับคณะกรรมการไตรภาคี ภาคเอกชน ภาคแรงงาน ถึงนโยบายปรับค่าแรงก่อน ไม่ใช่มารอฟังตัวเลข ไม่พอใจก็โวยวาย แบบนั้น ควรมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ไม่ควรเป็นนายกรัฐมนตรี
“จุรินทร์” หยัน รบ.ไม่ได้ทำผิดอย่ากลัว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค.67 นี้ว่า ได้รับมอบหมายจากประธาน สส.พรรค คือนายประมวล พงศ์ถาวราเดช ให้เป็นผู้อภิปรายคนแรกของพรรค ปชป.จะเป็นการอภิปรายในวันที่ 3 ม.ค. จะพูดในภาพรวมและไม่ลงลึกในรายละเอียด เพราะมีเวลาจำกัด แต่จะพูดตามเนื้อผ้า สะท้อนให้เห็นว่าร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 67 ของรัฐบาลชุดนี้เป็นอย่างไร เพื่อให้ประชาชนเจ้าของเงินภาษีได้เห็นภาพ ส่วนที่ฝ่ายรัฐบาลออกมาดักคอห้ามซักฟอกรัฐบาล เพราะไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ สส.ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องของการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฉะนั้นถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดอย่าไปกลัว ส่วนในพรรค ปชป.จะมีใครอภิปรายอีกบ้าง อยู่ที่ประธาน สส.กับวิปของพรรค จะเป็นผู้ประสานงานต่อไป วันที่ 2 ม.ค.จะมีการประชุม สส.พรรคจะมีข้อสรุปทั้งหมด
คนไทยเหนื่อยหน่าย ศก.ปี 66 ซบเซา
วันเดียวกัน นิด้าโพลเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “เหนื่อยหน่ายกับอะไรบ้างในปี 2566 ที่ผ่านมา” ทำการสำรวจวันที่ 12-20 ธ.ค.2566 จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง ผลปรากฏดังนี้ เมื่อถามถึงความสุขในปี 2566 ที่ผ่านมา พบว่าร้อยละ 42.75 ค่อนข้างมีความสุขเพราะได้อยู่ร่วมกับครอบครัว มีงานทำ ไม่มีโรค ร้อยละ 27.86 ไม่ค่อยมีความสุขเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ และเบื่อความวุ่นวายทางการเมือง ส่วนความเหนื่อยหน่ายในปี 2566 ที่ผ่านมา ร้อยละ 58.63 ระบุว่าปัญหา เศรษฐกิจที่ส่งผลต่อรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ ร้อยละ 25.42 ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองทั้งในและนอกสภา ร้อยละ 23.13 ปัญหาภัยไซเบอร์ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การแฮ็กข้อมูล เป็นต้น
“เสี่ยตุ๋ย” เผยแพ็กเกจช่วยราคาพลังงาน
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้มีมติช่วยเหลือราคาพลังงานแก่ประชาชน ประกอบด้วย 1.กลุ่มรถแท๊กซี่ ขยายเวลาช่วยเหลือราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับ รถยนต์ (เอ็นจีวี) สำหรับผู้มีบัตรสิทธิประโยชน์อยู่แล้ว แบ่งเป็น 2 ระยะ คือวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.67 ราคา 14.62 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) และวันที่ 1 ก.ค.67-31 ธ.ค.68 ราคา 15.59 บาทต่อ กก. รวมทั้งได้เปิดให้มีการสมัครบัตรสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในเดือน ม.ค.-ก.พ.67 โดยผู้ที่สมัครสิทธิประโยชน์ใหม่ช่วงนี้จะซื้อเอ็นจีวีในราคาเดียวกับผู้ที่มีบัตรสิทธิประโยชน์เดิมได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.67 และ ปตท.จะพิจารณาเพิ่มวงเงินซื้อเอ็นจีวีจากเดิม 10,000 บาทต่อเดือนต่อคัน เป็นวงเงิน 12,000 บาทต่อเดือนต่อคัน
รถเล็กช่วยคันละ 1 หมื่น-รถใหญ่ 4 หมื่น
รมว.พลังงาน กล่าวอีกว่า 2.รถโดยสารสาธารณะขยายเวลาช่วยเหลือราคาเอ็นจีวี สำหรับผู้มีบัตรสิทธิประโยชน์อยู่แล้ว ตั้งแต่วันนี้ -31 ม.ค.67 ราคา 18.59 บาทต่อ กก.และเปิดรับสมัครบัตรสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม สำหรับรถโดยสารสาธารณะ หมวด 1 และ หมวด 4 ในเดือน ม.ค.-ก.พ.67 ช่วยเหลือราคาเอ็นจีวีดังนี้ รถหมวด 1 และหมวด 4 (กทม.) วันที่ 1 ก.พ.-30 มิ.ย.67 ราคา 14.62 บาทต่อ กก. และวันที่ 1 ก.ค.67-31 ธ.ค.68 ราคา 15.59 บาทต่อ กก. *รถหมวด 2 และ 3 (ต่างจังหวัด) ที่ได้รับสิทธิประโยชน์เดิม ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.67-31 ธ.ค.68 จำหน่ายที่ราคา 18.59 บาทต่อ กก. โดยมีวงเงินช่วยเหลือรถขนาดเล็กที่ 10,000 บาทต่อเดือนต่อคัน และรถขนาดใหญ่ 40,000 บาทต่อเดือนต่อคัน 3.กลุ่มรถบรรทุก เปิดรับสมัครรถบรรทุกที่ร่วมโครงการรณรงค์ความปลอดภัย ใช้เวลา 2 เดือนให้ส่วนลดราคาเอ็นจีวี 6 เดือน หลังจากการรับสมัครแล้วเสร็จ โดยแบ่งเป็นสถานีนอกแนวท่อ ให้ส่วนลด 0.50 บาทต่อ กก. จากราคาสถานีบริการ และสถานีแนวท่อให้ส่วนลด 1 บาทต่อ กก. จากราคาประกาศสถานี บริการ เมื่อช่วยเหลือครบ 6 เดือนแล้ว ราคาขายปลีก จะเป็นตามโครงสร้างราคา 4.กลุ่มรถทั่วไป ขยายเวลาช่วยเหลือราคาเอ็นจีวี วันที่ 1 ม.ค.-พ.ค.67 ราคา 19.59 บาทต่อ กก. หลังจากนั้นราคาจะเป็นไปตามโครงสร้างราคา เพื่อให้สอดคล้องกับรถบรรทุก
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่