"ศิริภา" อดีตโฆษก กมธ.พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เรียกร้องรัฐบาล ระงับการส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับประเทศ หลังตำรวจ ตม. รวบอีก 8 คน ชี้ เป็นการกระทำที่ขัดต่อ "กฎหมายอุ้มหาย"
วันที่ 30 ธ.ค. 2566 นางสาวศิริภา อินทวิเชียร ในฐานะอดีตโฆษกกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีที่เมื่อวานนี้ (29 ธ.ค.) ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) บุกจับ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองซึ่งมีบัตรรับรองสถานะผู้ลี้ภัยในไทย จาก สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) จำนวน 8 คน เพื่อส่งตัวกลับประเทศต้นทางว่า
ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลระงับการส่งตัวผู้ลี้ภัยทางการเมืองกลุ่มดังกล่าวกลับประเทศ เพราะถือเป็นการส่งกลับให้ไปเผชิญอันตรายที่ประเทศต้นทาง ทั้งที่ผู้ลี้ภัยที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมด ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองอย่างถูกต้อง การจะส่งผู้ลี้ภัยทางการเมืองกลับไปยังประเทศต้นทาง ต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียดอ่อน เพราะสามารถเชื่อได้ว่าบุคคลที่ถูกผลักดันกลับ อาจตกอยู่ในอันตราย ถูกกระทำทรมาน หรืออาจถูกบังคับสูญหายได้ การส่งตัวกลับประเทศต้นทาง ขัดต่อมาตรา 13 ของ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย
ห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐขับไล่ ส่งกลับ หรือส่งบุคคล เป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังอีกรัฐหนึ่ง หากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลนั้น จะไปตกอยู่ในอันตรายที่จะถูก กระทำทรมาน ถูกกระทำการที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือถูกกระทำให้สูญหาย
นางสาวศิริภา ระบุด้วยว่า การเข้าจับกุมผู้ลี้ภัยครั้งนี้ไม่ใช่การเข้าจับกุมครั้งแรก มีการจับกุมผู้ลี้ภัยในลักษณะนี้หลายต่อหลายครั้ง ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติต่อผู้ที่มีสถานะ ผู้ลี้ภัย ให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล และควรเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบสถานะผู้ลี้ภัยก่อนจะมีการจับกุม ไม่เช่นนั้นจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และผิดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ
...
ผู้สื่อรายงานว่า ผู้ลี้ภัยทั้ง 8 คน ขณะนี้ถูกเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ตม. นำตัวไปควบคุมไว้ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู อยู่ระหว่างสอบสวน ก่อนส่งตัวกลับประเทศต้นทางในเร็ววันนี้