ผู้นำรัฐบาลยุคใหม่ ต้องเจรจา เก่งขายของเป็นนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ใช้โอกาส การประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี เป็นเวทีเจรจาขยายการค้าการลงทุนได้อย่างถึงลูกถึงคน

ใช้โอกาส 4 วันบนแผ่นดินญี่ปุ่น เจรจาโน้มน้าวผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ให้ปักฐานการผลิตในประเทศไทยตลอดไป

พร้อมเสนอเงื่อนไขดึงดูดใจให้เพิ่มการลงทุนมากขึ้นกว่าเดิม!!

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าจุดแข็งของนายกฯเศรษฐา คือรู้ว่าจะขายอะไร? จะขายให้ใคร? และจะเสนอขายอย่างไร?

ก่อนบินไปญี่ปุ่นจึงได้เตรียมทำการบ้านล่วงหน้ามาอย่างดี

มีการวางคิวนัดเจรจากับลูกค้าแยกตามเป้าหมายชัดเจน

เช่นนัดเจรจากับผู้บริหารบริษัทมิตซุย ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน ในการร่วมมือสำรวจพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย

นัดเจรจากับผู้บริหาร 7 ยักษ์ใหญ่รถยนต์ญี่ปุ่นตั้งแต่โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน มิตซูบิชิ อีซูซุ มาสด้า ซูซูกิ แบบเรียงตัว

เพราะรถยนต์ญี่ปุ่นคือมหามิตรที่ลงทุนเมืองไทยมาช้านาน

เพื่อยืนยันว่าประเทศไทยพร้อมเป็นฐานการผลิตรถยนต์สันดาปสายพันธุ์ญี่ปุ่นตลอดกาล และพร้อมจับมือบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นในการผลิตรถอีวีอย่างถึงไหนถึงกัน

นายกฯเศรษฐายังนัดเจรจากับผู้บริหารบริษัทพานาโซนิคเสนอให้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์อีวี

นัดจับเข่าคุยเปิดใจกับผู้บริหารบริษัทคูโบต้าเพื่อร่วมมือพัฒนาโครงการ สมาร์ทฟาร์มมิ่ง และลดต้นทุนผลิตสินค้า เกษตรเพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไทย

แถมก่อนบินกลับได้นัดคุยเปิดใจกับ ผู้บริหารบริษัทก่อสร้างและขนส่งเบอร์ใหญ่ 30 ราย ชักชวนให้ลงทุน “โครงการแลนด์บริดจ์” เพื่อเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าใหม่ที่ย่นเวลาได้อีก 4 วัน

...

ไปครั้งนี้ นายกฯเศรษฐา เก็บละเอียดครบทุกเม็ดจริงๆ

“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าการที่นายกฯไทย ไปพบปะเจรจากับผู้บริหารบริษัทญี่ปุ่นโดยตรงช่วยเพิ่มน้ำหนักในการตัดสินใจได้มากขึ้นอีกเท่าตัว

ถ้าการเจรจาประสบผลสำเร็จ 50 เปอร์เซ็นต์ถือว่าน่าพอใจ

แม้สำเร็จเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ถือว่าได้กำไรไม่ขาดทุน

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าการเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นเที่ยวนี้ นายกฯเศรษฐา ยังใช้โอกาสเจรจาร่วมมือกับผู้นำรัฐบาลอาเซียนแบบตัวต่อตัว

ได้สัญญาซื้อข้าวไทยจากประธานาธิบดีอินโดนีเซียติดกระเป๋ากลับมาด้วยอีก 2 ล้านตัน

ได้คุยกระชับความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีเวียดนามคู่แข่งตัวฉกาจในสนามการค้าการลงทุน

มีข้อตกลงจะรื้อฟื้นการประชุม ครม.ร่วมไทย-เวียดนาม เพื่อร่วมมือขยายตลาดสินค้าส่งออกโดยไม่เหยียบตาปลากันเอง

โดยเฉพาะข้าวเวียดนามที่เป็นกระดูกชิ้นโตของตลาดส่งออกข้าวไทย

อนึ่ง ต้นปีหน้าผู้นำคนใหม่ของกัมพูชาจะเดินทางเยือนเมืองไทย

จะเป็นโอกาสดีที่จะคุยเรื่องแหล่งพลังงานพื้นที่ทับซ้อนอ่าวไทย ให้ลงเอยกันได้ซะที

สรุปว่าไปญี่ปุ่นรอบนี้ “เศรษฐา” ได้ของแถมมาเต็มกระบุง.

“แม่ลูกจันทร์”

คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม