"ธนกร" แนะ ดีอีเอส-ตำรวจไซเบอร์ จัดการฟันต่อเนื่อง อย่าแค่เฉพาะหน้าโชว์ผลงาน 90 วัน หลังเปิดปฏิบัติการล้างบางมิจฉาชีพ ชี้ ต้องใช้ระบบช่วยควบคุม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้อินเทอร์เน็ตโทร. หลอก ควบคู่ ให้ความรู้ประชาชนป้องกันเหตุ


วันที่ 16 ธ.ค. 2566 นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ให้สัมภาษณ์ว่า จากที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ร่วมกับกองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดปฏิบัติการล้างบาง แก๊งแอปฯ ดูดเงินแนวชายแดน ส่งตำรวจไซเบอร์เร่งกวาดล้าง ขยายผลจับกุม 4 ปฏิบัติการทั้งแอปฯ ดูดเงินชายแดน-หลอกส่งพัสดุเก็บปลายทาง-เพจเว็บไซต์ขายอาวุธปืนออนไลน์-เว็บพนัน โดยจับกุมผู้ต้องหาเกือบ 400 คน ถือเป็นปฏิบัติการที่เห็นผลชัด แต่ขอให้ดำเนินการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง อย่าเป็นแค่ช่วงเฉพาะหน้า 90 วันที่กระทรวงจะโชว์ผลงานของรัฐบาลเท่านั้น เนื่องจากประชาชนจำนวนมากได้รับความเสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพต้มตุ๋นมานานหลายปี

เมื่อถามว่า การแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องมีระบบป้องกันจากต้นทางเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องระยะยาว หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า กระทรวงดีอีและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจไซเบอร์ มีการขอความร่วมมือจากโอเปอเรเตอร์ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ มีระบบตรวจสอบผู้ที่ใช้โทรศัพท์เกิน 100 ครั้งให้มีการระงับการใช้งานทันที มากกว่านั้นต้องมีระบบป้องกันทางอินเทอร์เน็ตด้วย เนื่องจากพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีพฤติกรรมใช้ระบบอินเทอร์เน็ตในการโทร. หลอกเหยื่อ ดังนั้นรัฐบาล และ กสทช.จึงต้องลงทุนใช้ระบบป้องกันทางอินเทอร์เน็ตในเรื่องนี้ไว้ด้วย พร้อมขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านที่ถูกใช้เป็นฐานการกระทำความผิดของแก๊งมิจฉาชีพ ให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นเครือข่ายรายใหญ่ต่อไป

...

"มาตรการแก้ปัญหาทุกอย่าง ขอให้ทำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงใช้ระบบไอทีมาควบคุมป้องกัน จะช่วยแก้ปัญหามิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนลดลงได้ รวมถึง รัฐบาลต้องสร้างการรับรู้ให้ความรู้กับประชาชนได้ข้อมูล รู้เท่าทันมิจฉาชีพเหล่านี้ให้มากขึ้น" นายธนกร กล่าว