"ราเมศ" โฆษก ปชป.แจง กรณี "มาดามเดียร์" ยัน ผู้อาวุโสในพรรคไม่เคยปิดกั้น ลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป. ชี้ วทันยา ไม่ใช่คนแรก ต้องได้เสียง 3 ใน 4 ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมพรรคก็เคยมีมติให้ลงสมัครตั้งหลายคน
วันที่ 15 ธ.ค. 2566 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคกรณีของคุณวทันยา บุนนาค ว่า ในฐานะที่ตนเป็นคนที่ทราบเหตุการณ์บางช่วงบางตอน อาจจะไม่ทั้งหมด แต่ยืนยันว่ามีหลายคนที่เป็นกำลังใจและเอาใจช่วยเพื่อให้คุณวทันยา เข้าสู่การแข่งขัน คือ ช่วยกันเพื่อให้มีคะแนนเสียงสามในสี่ ผ่านด่านแรกไปก่อน กกต. ของพรรค คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ และในส่วนของตน ที่ทำหน้าที่ร่วมกันเป็นประธานก็ให้เจ้าหน้าที่นับเป็นเสียงรับรองไปด้วย
นายราเมศ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของตนกับนายชวน หลีกภัย ได้พูดคุยกันโดยตลอดว่า ในเรื่องคุณสมบัติองค์ประชุมต้องช่วยกันเพื่อให้มีการแข่งขัน และนายชวน ก็ได้ลุกขึ้นอภิปรายในที่ประชุมก่อนลงมติว่าอยากให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนคุณวทันยา ในส่วนตัวของตนนั้นได้พยายามพูดเรื่องนี้มาตลอด ไปออกรายการที่แนวหน้าก่อนการเลือกตั้ง 1 วัน ก็ยังพูดถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องคุณสมบัติของคุณวทันยา สมาชิกจะให้โอกาสเพื่อให้ได้เข้าไปแข่งขัน ไม่ใช่คุณวทันยาคนแรก คนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ที่ประชุมพรรคเคยมีมติให้ลงสมัครไปก็ตั้งหลายคน ล่าสุด ตำแหน่งอื่นก็มีอีกหลายคนที่ขาดคุณสมบัติที่ประชุมก็ให้ผ่านสามในสี่ได้ และผลออกมาก็ไม่ขอไปก้าวล่วงในดุลพินิจของแต่ละคนที่มีมติ
ในส่วนวิธีการหาเสียงหรือกรณีการส่งไลน์ล็อบบี้กันในที่ประชุมก็ต้องให้คนที่ส่งอธิบายการหาเสียงว่าด้วยเจตนารมณ์วิธีการใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ที่ให้สัมภาษณ์ถึงผู้อาวุโสในพรรคในทำนองไม่สนับสนุนมาดามเดียร์ รวมถึงปฏิเสธไม่สนับสนุนให้ลงสมัครนั้น ความจริงเป็นอย่างไร นายราเมศ กล่าวว่า ถ้าความหมายผู้อาวุโส คือ นายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ ข้อมูลที่กล่าวอ้างคลาดเคลื่อนไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะได้รับการยืนยันว่า ไม่เคยมีใครมาขอพบเพื่อให้สนับสนุนทั้งสองคน คือ คุณวทันยา และ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ และไม่เคยปิดกั้นในเรื่องขอมติสามในสี่จากที่ประชุมใหญ่ในเรื่องคุณสมบัติ เจตนารมณ์เพราะความจริงแล้วได้สนับสนุนให้มีการแข่งขัน และอย่างที่ได้บอกว่านายชวนใช้สิทธิ์พูดต่อที่ประชุมให้สนับสนุนคุณวทันยาเพื่อให้ได้สามในสี่ด้วย
...
นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า เวลานี้อยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน อยากเห็นความเป็นเอกภาพคือจุดเริ่มต้นของการรวมพลังด้วยความสามัคคี เพื่อฟื้นฟูพัฒนาพรรคให้ดีขึ้นในวันข้างหน้า