เสถียรภาพปึ้ก แผนงานก็ไหลไปได้
ไม่แปลกที่ก่อนบินไปประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่น “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” ลงพื้นที่
หน้างาน ลุยวันเดียวหลายๆจ๊อบ โดยเฉพาะจัดการสารพัด “ค่า” ไล่เรียงเคลียร์ทั้งค่าไฟ ค่าฝุ่น ค่าจ้าง
สำแดงอำนาจผู้นำ ชนิดทั้งโวย ไล่บี้ ติดเบรก และสั่งทบทวนกันรายประเด็น
นั่นก็ปฏิเสธไม่ได้ ส่วนหนึ่งเพราะวันนี้เหมือนเติมสำรองด้วย “อะไหล่ชั้นดี” ทีท่าค่ายประชาธิปัตย์ที่แปลงบทจากฝ่ายค้าน กลายเป็นพรรค “พร้อมเสียบ”
อะไหล่สแปร์พาร์ต ในเกมบริหารอำนาจของรัฐบาล
แม้ “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” จะยังบอกปัด ยังไม่จำเป็นเติมเสียงรัฐบาล เท่าที่มี 314 เสียงก็แน่นปึ้ก มีเสถียรภาพ ฉะนั้น “อะไหล่” ก็เก็บไว้ในสต๊อกให้อุ่นใจ
ยังไงก็ถือแต้ม “กุมดุล” ไว้ขู่ปราบเฮี้ยวพรรคร่วมฯกันล่วงหน้า
ในจังหวะปรับโหมด ไปรับบท “เซลส์แมนประเทศ” อย่างสบายใจ กับทริปเยือนแดนปลาดิบ นอกจากมีฟลอร์ใหญ่ประชุมร่วมระดับผู้นำ อาเซียน-ญี่ปุ่น ยังมีโปรแกรมทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศ
แน่นอนที่เตรียมการบ้านไป นอกจากคุยเรื่องความสัมพันธ์ ขาดไม่ได้คือเรื่องการค้าการขาย การลงทุน ในฐานะผู้นำยอดนักขายแพ็กของไปเต็มกระเป๋า
ที่ต้องจับตาคือคุยกับบิ๊กนักธุรกิจเอกชนญี่ปุ่น โปรแกรมร่วมวงหารือกับระดับยักษ์ใหญ่วงการยานยนต์โลก
...
ตามแผนไปย้ำจุดยืนประเทศไทย แม้จะส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าอีวี แต่จะไม่ทอดทิ้ง “เพื่อนเก่าแก่” อุตสาหกรรมรถยนต์น้ำมันของญี่ปุ่น ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานอีวี ไฮโดรเจน
พร้อมเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์เครื่องสันดาปส่งออก ในช่วงที่ยังมีความต้องการใช้งานอีกหลายปี
ชวนทุนแดนปลาดิบ ผุด “ฐานที่มั่นรถน้ำมัน” สุดท้ายของโลกในไทย
นอกจากนี้ ทริปสำคัญรอบนี้ ยังหนีบทีมไทยแลนด์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไปโรดโชว์เชิญชวนนักลงทุนเข้ามาเพิ่มฐานการผลิตในไทยหลายด้าน
รวมทั้งจัดเวทีโชว์ของที่ขาดไม่ได้คือ อภิมหาโปรเจกต์ “แลนด์บริดจ์” เชื่อมอ่าวไทย-อันดามันศูนย์กลางการขนส่งทางเรือของโลกในภาคใต้ของไทย
แว่วว่างานนี้ ผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่จับจองที่นั่ง รอฟัง “ไทยแลนด์ทอล์ก” ของ “นายกฯเศรษฐา” กันแน่นห้องแล้ว ทั้งภาคโลจิสติกส์ อสังหาฯ ธนาคาร ฯลฯ
นั่นยังไม่รวมแผนงานที่บีโอไอคงจะหนีบไปด้วย กับการใช้เงื่อนไขล่อใจนักลงทุน “กองทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ” ระดับแสนล้าน ดึงดูดยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมต่างๆ
มี “ของโชว์” เพียบ ก็ขึ้นอยู่กับ “เซลส์แมน” จะปิดการขายเข้าเป้าหรือไม่
ถือเป็นอีกรายการวัดฝีมือผู้นำไทย กับสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเดินเครื่องเศรษฐกิจฟื้นฟูประเทศ
ทั้งปัจจัยการเมืองนิ่งในระดับหนึ่ง เสียงพรรคร่วมมีเสถียรภาพ พรรคฝ่ายค้านอย่างก้าวไกลเป๋ จากคิวป่วนคนในค่าย หนำซ้ำยังรอลุ้นชะตากรรมชนักคดีความ กระทั่งคิวยุบพรรค
ทัพสีส้มพิฆาตยังตั้งหลักถ่วงดุลไม่เต็มที่ ส่วน ปชป.ไม่ต้องพูดถึง ทีมใหม่ “มีใจให้” รัฐบาลเต็มๆแล้ว
เพียงแต่ก็มีปมที่ “นายกฯเศรษฐา” อาจกังวลเล็กๆ กับ “ปัจจัยภายใน” โดยเฉพาะความเป็นไปในเครือข่ายอำนาจพรรคเพื่อไทยเอง
จุดเกี่ยวโยง “ปมแหลมๆ” ทางการเมือง ทั้งคิวแก้รัฐธรรมนูญ เสนอกฎหมายนิรโทษกรรม มาตรา 112
ไปจนกระทั่งกรณีเชื่อมโยงสถานะของ “ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย”
ล่าสุดนายกฯไม่พ้นโดนซักรายวันถึงประเด็นการออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ ไฟเขียวจำคุกนอกสถานที่คุมขัง เปิดทาง “อดีตนายกฯ” ชั้น 14 รับอานิสงส์จองจำอยู่บ้าน
เป็นคิวที่ “นายกฯเศรษฐา” พยายามเบี่ยงตัวหลบ ชิ่งของร้อนไม่ให้ลวกใส่ แต่ก็ยากจะเลี่ยงไปได้ตลอด
ปมนี้แหละอาจเป็นหัวเชื้อในการเขย่าอำนาจ โดยเฉพาะในห้วงเริ่มมีสัญญาณแปร่งๆ โยนกระแสข่าวปล่อยเสี้ยม เป้าหมายเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ฉีกตั๋วอำนาจเที่ยวเดียว
เป็นปมกระแทก บั่นทอนพลัง กระทบคิวปั่นงาน
เรื่องชวนว้าวุ่น ชนิดผู้นำต้องฮึดฝ่า “แรงฉุด” เป็นระยะๆ.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม