“เศรษฐา” บินไปประชุมญี่ปุ่น นำนักธุรกิจ 2 ค่ายยักษ์ยานยนต์ไปด้วย หวังช่วยเจรจานำผลประโยชน์กลับมามากที่สุด มอง เปิดฟรีวีซ่าอำนวยความสะดวกมากขึ้น เชื่อ เศรษฐกิจมีแสงสว่าง ปิ๊งไอเดีย จ่อถก คกก.ซอฟต์พาวเวอร์ ดันงานกาชาดเป็นเฟสติวัล
เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 14 ธันวาคม 2566 ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ถึงความคาดหวังในการปฏิบัติภารกิจที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้ ว่า เป็นการเยือนญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก มีเรื่องที่ต้องพูดคุยกันเยอะ และจะมีการพบปะกับ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เจ้าชายอับดุล มาทีน มกุฎราชกุมารลำดับที่ 4 ของราชวงศ์บรูไน ที่จะเข้าพระราชพิธีเสกสมรสในเดือนหน้านี้ ซึ่งการเดินทางเป็นการไปล่วงหน้าก่อน 2 วัน ไปเจรจาเรื่องการค้าญี่ปุ่น ส่วนมากเป็นเรื่องเกี่ยวกับยานยนต์ที่จะมีการพูดคุยกัน จะเจอรายใหญ่หลายราย เช่น พานาโซนิค และมีอีกหลายนัด และพยายามให้บริษัทยานยนต์ของญี่ปุ่นมาพบมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีระบุว่าการเดินทางไปต่างประเทศจะชักชวนนักธุรกิจไทยไปด้วย เพื่อพูดคุยถึงการลงทุนที่จะดึงต่างประเทศเข้ามาในไทย รอบนี้มีนักธุรกิจกลุ่มใดบ้างที่ไปด้วย นายเศรษฐา ระบุว่า คราวนี้มี แต่เขาเดินทางไปเอง นายพรวุฒิ สารสิน ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจะไปช่วยเจรจาให้ และ นายกลินท์ สารสิน ประธานบริษัท โตโยต้า ที่จะเดินทางไปด้วย และยังมีอีกหลายท่านที่จะไปช่วยเจรจาเพื่อนำผลประโยชน์กลับมาสู่ประเทศ
...
เมื่อถามต่อไปว่า จะทำให้เกิดความมั่นใจทางด้านเศรษฐกิจและมีแสงสว่างมากขึ้นใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า อย่างไรแสงสว่างก็มีอยู่แล้ว แต่เรื่องความหนักใจ การแบกความหวังเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชน 68 ล้านคน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำต่อไป คงจะไม่เพียงพอ ต้องทำต่อไปเรื่อยๆ
ส่วนการเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ ซึ่งจะมีเรื่องการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเมืองระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นด้วย ในส่วนของไทยมีการเตรียมความพร้อมอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าญี่ปุ่นมาลงทุนสูงสุดในประเทศไทยตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ฉะนั้น เราพยายามทำให้ความสัมพันธ์นี้เข้มแข็งมากขึ้นในเรื่องการลงทุนของทั้งสองฝ่าย และเราได้มีการประกาศจะให้วีซ่าฟรีกับธุรกิจญี่ปุ่นด้วยที่จะเข้ามาลงทุน ซึ่งจะทำให้การเดินทางเข้าออกทั้งสองทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น เป็นการอำนวยความสะดวกซึ่งกันและกัน
ขณะเดียวกัน นายเศรษฐา ยังได้กล่าวถึงการเที่ยวงานกาชาดประจำปี 2566 เมื่อค่ำวันที่ 13 ธันวาคม 2566 โดยได้ถามสื่อมวลชนว่า ไปเที่ยวงานกาชาดสนุกหรือไม่ ก่อนจะบอกต่อไปว่า ไม่เลวนะ เยอะดี เป็นเรื่องของการท่องเที่ยวด้วย งานจะมีถึงวันที่ 18 ธันวาคมนี้ ขณะที่ประเทศอังกฤษเขาก็มี Winter Wonderland อยู่ที่ไฮด์ปาร์คที่มีลักษณะคล้ายกัน ทั้งนี้ จะมีการคุยกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ว่าจะทำเป็นเฟสติวัลได้หรือเปล่า และเมื่อวานเดินงานกาชาดได้เพียงครึ่งเดียวก็ชั่วโมงกว่าแล้ว ยังเดินไม่ทั่ว.