“เพื่อไทย” จัดสัมมนาพรรคคึกคัก “อุ๊งอิ๊ง” ร่วมร้องเล่นเต้นละลายพฤติกรรม ลดช่องว่างระหว่างวัย สส.เก่า-ใหม่ ลูกพรรคเรียกร้องนายกฯใกล้ชิด สส.มากขึ้น โทรศัพท์ไปหาช่วยรับสายด้วย จี้รัฐบาลเร่งดันนโยบายมัดใจประชาชน “แพทองธาร” วอนทุกฝ่ายมูฟออน เลิกจับผิดนิยามคำว่า “ซอฟต์พาวเวอร์” แจงงบฯ 5.1 พันล้านไม่ได้ขอใหม่ เป็นงบฯในกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ยังมีอีกหลายขั้นตอนก่อนเสนอเข้า ครม. ยัน พท.ไม่ได้ทิ้งไปไหน พร้อมหนุนนิรโทษกรรมฯ แต่ต้องหาจุดหยุดความขัดแย้งให้ได้จริง “สรวงศ์” ชงตั้ง กมธ.คุยให้ตกผลึกก่อน “วิษณุ” ชี้ช่องส่งคำถาม พ.ร.บ.เงินกู้ 2 รอบ ย้ำชัดกฎหมายห้ามจ่ายเงินเพื่อประชานิยม “ศรี” ยื่น ป.ป.ช.สอบนายกฯควักเงิน 6 พันซื้อผ้ามัดหมี่หนองบัวลำภูให้ “อุ๊งอิ๊ง” เล็งเอาผิดกฎหมายห้ามให้-รับสิ่งของเกิน 3 พันบาท ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง “นายกฯ” เรียก ผบช.ภ.1 และอีก 2 ท้องที่ล้างบางนายทุนเงินกู้ส่งสมุนพังร้านลูกหนี้ที่มาลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เดินหน้าลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามงาน โดยหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงประเด็นที่ยังคงเป็นปัญหา หรือยังไม่สามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจนได้ โดยเฉพาะการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ยังมีความเห็นต่างกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) โดยนายกฯระบุตอนนี้มุ่งแต่การแก้ปัญหาปากท้อง การปราบปรามยาเสพติดและเรื่องอื่นๆ ไม่ได้โฟกัสที่เรื่องนิรโทษกรรม

...

นายกฯตรวจมอเตอร์เวย์ M6

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 ธ.ค. ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า นายกฯเป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ (ASEAN-Japan Commemorative Summit) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 14-18 ธ.ค. มีนายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศและตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม จากนั้นมอบหมายนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นประธานพิธีมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2566 “DG Awards 2023” ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ต่อมาเวลา 13.28 น. นายกฯเดินทางโดยนั่งรถยนต์เลกซัส ทะเบียน 3 ขส 30 กรุงเทพมหานคร ไปที่ จ.นครราชสีมา ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมาหรือมอเตอร์เวย์ M6 ช่วง อ.ปากช่อง-นครราชสีมา ตอน 34 อุโมงค์คลองไผ่ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะอดีต สส.นครราชสีมา น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาร่วมคณะ และ สส.นครราชสีมาของพรรค พท.ทั้ง 12 คนรอต้อนรับ

ปากช่อง-โคราชเปิดใช้ฟรี 28 ธ.ค.

นายเศรษฐากล่าวว่า มอเตอร์เวย์ช่วงปากช่อง-นครราชสีมา จะเปิดให้ใช้บริการแบบเต็มรูปแบบวันที่ 28 ธ.ค. จะช่วยบรรเทาการจราจรถนนมิตรภาพที่ค่อนข้างแออัด โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้ลดระยะเวลาเดินทางลง คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดต้นปี 2568 ถึงจะเก็บค่าบริการ ส่วนกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อความและภาพนักท่องเที่ยวชาวจีนใส่เสื้อเครื่องแบบตำรวจไทย มีชายตัดผมสั้นยืนอยู่ถัดไป โชว์หมวกแก๊ปสีดำปักตราแผ่นดินและข้อความ Royal Thai Police ไม่ถูกต้อง ต้องจัดการไป รวมถึงได้สั่งการรัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา ผ่านไปยังผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ดูเรื่องเฟกนิวส์ ได้ยินบางเรื่องหัวเราะบนน้ำตา ไม่น่าเชื่อไม่น่าเป็นไปได้ว่ามีข่าวเหล่านี้ออกไปได้ จึงได้คุยกันผ่านทีมทำงานให้ไปบริหารจัดการให้ดีเพราะเฟกนิวส์เป็นอะไรที่บ่อนทำลายความเจริญของประเทศชาติ

ไม่ตอบนิรโทษฯโฟกัสแต่ปากท้อง

นายเศรษฐากล่าวอีกว่า ส่วนที่โพสต์แสดงความเสียใจการเสียชีวิตของ นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง สาเหตุหนึ่งมาจากมลพิษจากฝุ่น PM2.5 การผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาดเป็นเรื่องหนึ่งที่จะผลักดันเข้าสภาฯเมื่อเปิดสมัยประชุม แต่งตั้งคณะกรรมการไปเรียบร้อยแล้ว ต้องดูความเหมาะสมว่าจะเพิ่มจำนวนบุคลากร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปหรือไม่ พ.ร.บ.อากาศสะอาดเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา แต่การลงพื้นที่ไปกำชับตรวจสอบสม่ำเสมอต้องให้ความสำคัญอย่างมาก มั่นใจว่าค่าฝุ่น PM2.5 ปีนี้ต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น ทุกหน่วยงานต้องเตรียมพร้อมรับมือทั้งการเผาป่า รวมถึงให้ฝ่ายความมั่นคงช่วยดูแลอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้อง เมื่อถามว่าขณะนี้หลายฝ่ายพูดถึงเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นายกฯตอบว่า ยังไม่ได้ติดตามข่าว เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มัวแต่ดูเรื่องปัญหาปากท้อง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ปัญหายาเสพติด เมื่อถามว่าแนวทางปรองดองควรเริ่มจากกฎหมายนิรโทษหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า แล้วแต่ข้อเสนอของทุกฝ่าย

พท.คึกคักจัดสัมมนาเขาใหญ่

อีกด้านเมื่อเวลา 11.15 น. ที่โรงแรมเดอะกรีนเนอร์รี่รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยจัดสัมมนา “โครงการเสริมสร้างศักยภาพ สส. และบุคลากรทางการเมือง” มีแกนนำพรรคและสมาชิกพรรค ร่วมประชุมกันอย่างคึกคัก นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค เข้าร่วมกิจกรรม โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวเปิดสัมมนาว่า ดีใจมากที่มากันเยอะ ขอให้ร่วมทำกิจกรรมเต็มที่ด้วยความเต็มใจ สนุกสนาน อยากให้ทุกคนผ่อนคลายเป็นพี่น้องกัน ไม่ว่าช่วงอายุห่างกันแค่ไหน ขอให้เรียนรู้กันเต็มที่ในนโยบายจุดเป้าหมาย เริ่มนับหนึ่งใหม่ไปด้วยกัน

หน.พรรคให้ปรับจูนลดความห่างวัย

ขณะที่นายสรวงศ์กล่าวว่า กว่า 10 ปีที่พรรค พท.จัดสัมมนาพรรคมา ตั้งแต่สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯหญิงคนแรกของไทย เชื่อว่าจะไม่ใช่นายกฯหญิงคนสุดท้าย พื้นที่เขาใหญ่เป็นพื้นที่สำคัญสำหรับพรรค พท. จุดประสงค์การจัดงานอยากให้ทุกคนพบปะคุยกัน ให้คน พท.ที่พลาดโอกาสเข้าสภาฯมาแลกเปลี่ยนความเห็น พรรคอยู่มากว่า 20 ปี ปัญหาในองค์กรใหญ่คือเจเนอเรชัน ความห่างระหว่างวัย เป็นโอกาสมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จุดประสงค์หัวหน้าพรรคอยากให้ทุกคนเข้าใจกันมากขึ้น เพื่อให้พรรคพท.ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง

“อุ๊งอิ๊ง” แจมละลายพฤติกรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานสัมมนามีกิจกรรมละลายพฤติกรรมระหว่างช่วงวัย โดย น.ส.แพทองธาร พร้อมสมาชิกลุกขึ้นเต้นเพลงแจวเรือและเพลงตาหูจมูกปากตา ผู้มีอายุมากสุดคือ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ อายุ 89 ปี และผู้มีอายุน้อยสุดคือ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี อายุ 27 ปี ขณะที่ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา สั่งทำกางเกงแมวสีสวาท สัญลักษณ์ จ.นครราชสีมา มาแจกผู้ร่วมสัมมนา พร้อมแจกเสื้อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาที่อกข้างซ้ายว่า “พท.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” ขณะที่หน้าสถานที่จัดงานสัมมนา มีป้ายสีแดงข้อความว่า มวลชนคนเสื้อแดง พร้อมใจสนับสนุนรัฐบาลทำโครงการเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท และมวลชนคนเสื้อแดง 20 จังหวัดภาคอีสาน ขอให้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย

“เศรษฐา” ร่วมวงรับฟังเสียง สส.

ต่อมาเวลา 13.38 น. นายเศรษฐาได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมสัมมนาพรรคด้วย โดยกล่าวว่า วันนี้สบายใจ เพราะไม่ต้องมาพูดอะไร คงเป็นการมารับฟังมากกว่า เขามีความคิดเห็นอะไรอย่างไร อยากให้บ้านเมืองไปในทิศทางใดบ้าง สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องไม่ลืมว่า สส.คือตัวแทนของประชาชน ฉะนั้นจึงอยากมาฟังว่าเขามีข้อคิดอย่างไร ประชาชนมีข้อกังวลอะไรหรืออยากได้อะไร มีทีมงานจากทำเนียบรัฐบาลด้วย ทั้งนี้ สส.นครราชสีมาได้นำมอบพวงมาลัยดอกไม้และกล้วยหอมทองปักธงชัย มามอบให้นายกฯ สื่อสัญลักษณ์ว่าเวลานายกฯจะทำอะไรจะได้กล้วยๆ จากนั้นนายกฯได้เดินไปทักทาย น.ส.แพทองธารที่นำเสื้อพรรค พท.สกรีนข้อความว่า “พท.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” มอบให้นายกฯ

ขอนายกฯรับโทรศัพท์-จี้ รบ.เร่งดันนโยบาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งของการสัมมนา ได้เปิดโอกาสให้ สส.เขียนความรู้สึกใส่กระดาษเพื่อติดบอร์ดพรีเซนต์ พบว่า สส.ส่วนใหญ่สะท้อนความเห็นอยากให้นายกฯใกล้ชิด สส.มากกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าโทรศัพท์หา ขอให้รับสายหน่อย อีกทั้งยังขอให้รัฐบาลเร่งผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชนให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เช่นการแก้ปัญหายาเสพติด ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม

รับไม่ได้ทวงหนี้โหดสั่ง ผบช.ภ.1 จัดการ

กระทั่งเวลา 18.00 น. นายเศรษฐาได้เรียก พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.ฐากูร นัทธีศรี ผบช.ภ. 3 พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา มาหารือกรณีแก๊งเงินกู้บุกพังร้านอาหารกลางดึกที่ จ.ชัยนาท หลังลูกหนี้ขึ้นทะเบียนแก้หนี้นอกระบบกับรัฐบาล จากนั้นนายเศรษฐาเปิดเผยว่า ได้เรียกตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบมารับนโยบาย กรณีดังกล่าวรัฐบาลรับไม่ได้เป็นการท้าทาย บอกไปว่าต้องจัดการให้เด็ดขาด ต้องสาวให้ถึงตัวคนทำให้ได้ ถือเป็นกรณีตัวอย่าง ในฐานะผลักดันนโยบายนี้ต้องทำให้สำเร็จให้ได้ การเป็นหนี้นอกระบบและประชาชนถูกรังแก เรียกเก็บดอกเบี้ยอัตราไม่เป็นธรรม ประชาชนไม่มีขวัญกำลังใจทำงาน อาจหันไปพึ่งยาเสพติด ตามด้วยปัญหาอาชญากรรม จึงต้องแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ให้ได้ จะแถลงข่าวแก้หนี้วันที่ 8 ธ.ค. มาเกิดเหตุก่อนรัฐบาลจะประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ถือว่าท้าทายอย่างมาก บ้านเมืองเรามีกฎหมาย รู้ตัวเจ้าหนี้แล้วอาจจับกุมได้วันที่ 7 ธ.ค. ก่อนจะดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เรื่องนี้ฝากไปบอก ผบช.ภ.ทุกพื้นที่ เราต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ถือว่าข่มขู่ หากลูกหนี้กลัวแล้วไม่มาแจ้ง ไม่ทราบว่ามีหนี้หรือไม่ ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดูแลคุ้มครองประชาชน ใครโดนข่มขู่แจ้งความดำเนินคดีได้เลย จากนั้นนายเศรษฐา กลับเข้าร่วมงานสังสรรค์ของพรรค พท. โดยถ่ายรูปทักทายพูดคุยกับแกนนำพรรค สส.และสมาชิกพรรคอย่างเป็นกันเอง

“อุ๊งอิ๊ง” แจงงบซอฟต์พาวเวอร์

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสัมมนา สส.พรรค พท.ว่า เกินความคาดหมาย เพราะทีมงานจัดกิจกรรมได้สนุกสนาน ทุกคนร่วมมืออย่างดี ละลายพฤติกรรม และทุกคนจะได้พูดคุยกันง่ายขึ้น พาร์ตต่อไปจะเริ่มซีเรียสขึ้นแล้ว เมื่อถามถึงกรณีงบประมาณจัดทำซอฟต์พาวเวอร์กว่า 5,100 ล้านบาท น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ชุดขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ที่ตนเป็นประธาน ขั้นตอนต่อไปคือเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ชุดใหญ่ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯเป็นประธาน ก่อนเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่างบฯจะเสร็จสิ้นในเดือน พ.ค.67 สำหรับงบฯ 5,100 ล้านบาท เป็นงบฯที่ใช้ใน 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ ไม่ได้ขอเพิ่ม เนื่องจากเป็นงบฯที่อยู่ในแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นตัวเลขที่รัฐบาลคิดขึ้นมา แต่เป็นงบฯที่มาจากผู้รู้จริงแต่ละสาขานั่นคือภาคเอกชน รัฐบาลเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก อีกทั้งภาคเอกชนตั้งใจทำและระมัดระวังการใช้งบฯอยู่แล้ว

สงกรานต์อีเวนต์อื้อไม่ใช่แค่สาดน้ำ

เมื่อถามว่าจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์จะปรับลดงบฯลงหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ต้องรอดู คณะกรรมการชุดใหญ่จะเห็นควรอย่างไร แน่นอนเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรารับฟัง และดีใจที่ทุกคนสนใจ 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ เพราะมีความหลากหลาย เมื่อมีคนสนใจเชื่อว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้ต้องแข็งแรงและดีขึ้นอย่างแน่นอน งบฯที่จะดึงมาจากกระทรวงหลักๆ คือกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงวัฒนธรรม ย้ำว่าเป็นงบฯที่อยู่ในแต่ละกระทรวงอยู่แล้วและนำมาจัดแจงว่าจะนำไปดำเนินการอย่างไรบ้าง เมื่อถามถึงกรณีเสียงวิจารณ์แนวคิดจัดงานสงกรานต์ตลอดเดือน เม.ย. น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ได้สื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก เห็นการตีความมาว่าสาดน้ำกันทั้งเดือน คงจะหนาวเหมือนกันหากสาดน้ำทั้งเดือน ความจริงไม่ใช่แบบนั้น จะจัดกิจกรรม 77 จังหวัดทั่วประเทศ วันที่ 13-15 เม.ย.วันสงกรานต์จะมีกิจกรรมเหมือนเช่นทุกปี เพียงแต่จะจัดตลอดทั้งเดือน ดึงนักท่องเที่ยวให้มีจุดเที่ยวอยู่ในไทยยาวนานขึ้น แต่การสาดน้ำ 30 วันคงเป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่อย่างนั้น ขอให้ทุกคนไปอ่านให้ดี

ขอมูฟออนเลิกจับผิดนิยามซอฟต์พาวเวอร์

เมื่อถามถึงกรณี น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุว่าซอฟต์พาวเวอร์ที่จริงแล้วคือ น.ส.แพทองธารไม่ใช่สิ่งอื่น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า นี่เป็นการให้เกียรติกัน ต้องขอขอบคุณมาก อย่างที่พูดไปทุกเวทีว่าซอฟต์พาวเวอร์ไม่ใช่สินค้า แต่เราจะทำให้สินค้าไทยสร้างซอฟต์พาวเวอร์ ตนอาจพูดไปพูดมาหลายครั้ง ทำให้งงกันบ้าง แต่ถ้าตามดูการให้สัมภาษณ์ไม่ได้ฟังแค่ท่อนเดียว จะเข้าใจว่าสื่อแบบนี้มาตลอดว่าซอฟต์พาวเวอร์ไม่ใช่สินค้า ไม่ใช่ชี้อะไรเป็นซอฟต์พาวเวอร์ไปหมด เมื่อเกิดพลังอำนาจที่ทำให้คนคล้อยตาม โดยไม่ต้องบีบบังคับนั่นแหละคือซอฟต์พาวเวอร์ อยากให้ทุกคนมูฟออนคำนิยามซอฟต์พาวเวอร์ได้แล้ว เรากำลังทำเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นเพื่อพัฒนาประเทศ มองไปที่จุดข้างหน้าแล้วปักหมุดจะดันซอฟต์พาวเวอร์ให้คนทั่วโลกรู้จักเรา เข้าใจและชอบวัฒนธรรมไทย เราไม่ได้พยายามนิยามคำว่าซอฟต์พาวเวอร์

ยันหนุน ก.ม.นิรโทษ แต่ขอยุติขัดแย้ง

เมื่อถามถึงการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่หลายฝ่ายกังวลจะนำนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาเป็นเงื่อนไขเฉพาะ น.ส.แพทองธารตอบว่า ต้องแบ่งแยกก่อนว่าเลขาธิการพรรค พท.เคยให้สัมภาษณ์ไปว่าจะเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประกบพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ต้องดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปแน่นอนเราต้องหาจุดที่หยุดความขัดแย้งของทุกคนอย่างแท้จริง กฎหมายนิรโทษกรรมต้องพูดคุยกันต่อในรายละเอียด พรรค พท.สนับสนุนเรื่องนี้มาตลอด เราไม่ทิ้งไปไหน แต่ขอเป็นจุดยืนที่ทำให้เราทุกคนเข้าใจกันจริงๆ ไม่โฟกัสที่คนใดคนหนึ่งอยู่แล้ว กรณีนายทักษิณไม่เกี่ยว ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ วันที่ 5 ธ.ค. ไม่มีการพระราชทานอภัยโทษเกิดขึ้นอย่างที่ทุกคนถาม เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่ามีการหยิบยกกฎหมายนิรโทษกรรมแผลของพรรคพท.ขึ้นมา น.ส.แพทองธารกล่าวว่า หลายปีมาแล้ว เราทำเนื้อหาไว้ดีมากๆ ฉะนั้นเรานำมาแก้ไขกันแน่นอน เวลาที่เปลี่ยนแปลงไปต้องมาคุยในรายละเอียดอีก

“สรวงศ์” ย้ำชงตั้ง กมธ.คุยให้ตกผลึก

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า พรรค พท.พร้อมอยู่แล้วที่จะยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประกบกับพรรค ก.ก. แต่ได้พูดคุยกันว่าควรพูดคุยที่ประชุมวงเล็กก่อนเสนอกฎหมาย โดยเสนอตั้งเป็น กมธ.วิสามัญขึ้นมาพูดคุยให้ตกผลึกก่อน หากเสนอญัตติขึ้นมาตั้ง กมธ.ก่อนได้เลย ถ้ารอให้ยื่นกฎหมายก่อนไม่แน่ใจว่าประธานสภาฯจะบรรจุเมื่อไหร่ทันสมัยประชุมหน้าหรือไม่ ตั้ง กมธ. ขึ้นมาก่อนจะกำหนดได้ว่าจะใช้เวลาศึกษาเท่าไหร่จึงจะชัดเจน เมื่อถามว่าจุดยืนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะรวมถึงผู้กระทำผิดเกี่ยวกับมาตรา 112 ด้วยหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมละเอียดอ่อน กระทบกับบุคคลหลายกลุ่ม เราผ่านผู้ชุมนุมมาแล้วหลายคณะ มีทั้งผู้สูญเสีย ผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ส่วนในมาตรา 112 อาจมีหลายคนไม่ได้กระทำความผิดโดยตรง แต่ได้รับผลกระทบ จึงอยากให้ศึกษาให้ชัดเจนก่อน

ทสท.แซะ “ทักษิณ” คือนิติธรรมบิดเบือน

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมว่า การเข้าไปรับโทษตามคำพิพากษาในเรือนจำ เป็นกระบวนการลงโทษผู้กระทำความผิดตามหลักการสากล แต่กรณีนี้คงต้องยกเว้นผู้ถูกดำเนินคดีโดยไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม โดยเฉพาะนักโทษการเมือง การแถลงนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ให้ความสำคัญกับการสร้างความสามัคคีปรองดอง มีนโยบายจะฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง อันเป็นการยอมรับว่าที่ผ่านมาสังคมไทยยังอยู่ในวังวนของความขัดแย้ง ไม่ได้ปกครองด้วยหลักนิติธรรม แต่หลักการนี้กลับถูกบิดเบือนจากฝ่ายที่มีอำนาจในอดีต เช่น การแต่งตั้ง คตส.องค์กรซ้ำซ้อนกับ ป.ป.ช. เลือกคู่ขัดแย้งของผู้ถูกกล่าวหามาเป็นคณะทำงาน มีเจตนาจัดการกับนายกทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและคณะโดยเฉพาะ ล่าสุดคือการแก้ไขหลักเกณฑ์การได้รับพระราชทานอภัยโทษอย่างไม่เป็นธรรม ทำให้นักโทษอื่นๆเดือดร้อนไปด้วย มีเจตนาเพียงเพื่อไม่ให้นายกทักษิณกลับเข้ามาในประเทศ หรือหากจะกลับต้องยอมรับโทษตามคำพิพากษา เชื่อได้ว่านายทักษิณกลับมาจำยอมถูกลงโทษ เพื่อได้กลับเข้ามาอยู่กับครอบครัว มากกว่าเต็มใจยอมรับการลงโทษโดยดุษฎี

หนุนนิรโทษสร้างความปรองดอง

น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวอีกว่า เห็นด้วยกับแนวคิดหลายพรรคจะใช้กฎหมายนิรโทษกรรมเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง สร้างความปรองดองให้สังคมไทย แต่ควรครอบคลุมถึงผู้ได้รับผลกระทบจากกระบวนการทางกฎหมายที่ไม่ได้อยู่บนหลักนิติธรรม รัฐบาลควรเร่งดำเนินการตามนโยบายแก้ไขกระบวนการทางกฎหมายที่ตราขึ้นโดยขัดต่อหลักนิติธรรมและหลักความยุติธรรมอาญา คืนความถูกต้องชอบธรรมให้ฝ่ายที่ถูกจัดการด้วยกฎหมายไม่เป็นธรรม เพื่อไม่ให้ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ปกครองด้วยกฎหมาย (Rule by Law) แต่ไม่ได้อยู่บนหลักนิติธรรม (Rule of Law) ขัดกับหลักการอำนวยความยุติธรรมสากลที่ทั่วโลกใช้กัน

กังขาอดีตนายกฯแอดมิต 3 เดือน

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กหัวเรื่อง “เทพไท พักโทษครบ 1 เดือน ทักษิณพักอยู่ รพ.ตำรวจ ครบ 3 เดือน ทำไมอุ๊งอิ๊ง ไม่ตอบอาการป่วยของพ่อ” ว่า คุณทักษิณเป็นนักโทษเช่นเดียวกับผม แต่ยังคงใช้สิทธิพิเศษพักอยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจต่อไม่มีกำหนด ทุกอย่างเงียบสนิท ไม่มีคำตอบใดๆจากผู้รับผิดชอบเลย เมื่อไปถามคุณอุ๊งอิ๊งตอบว่ากำลังพักฟื้นอยู่ที่ชั้น 14 ถ้าเป็นนักโทษคนอื่นๆ คงส่งกลับไปพักฟื้นที่ รพ.กรมราชทัณฑ์ไปแล้ว เมื่อนักข่าวถามคุณอุ๊งอิ๊งอีกครั้ง แต่ปฏิเสธตอบ อาจเป็นด้วย 1.ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร เพราะป่วยจริงหรือป่วยปลอม กลัวสื่อสารคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง 2.เกรงว่าถ้าตอบอะไรไปอาจพลาดท่า เปิดช่องให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้เหมือนกับครั้งที่แล้ว ขอปิดปากเงียบดีกว่า ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เสียเลย และ 3.คงละอายแก่ใจที่จะตอบตรงกันข้ามกับความเป็นจริง เมื่อไม่ได้ป่วยแต่ลูกสาวให้ข่าวว่าป่วย เหมือนแช่งพ่อตัวเอง ขอเรียกร้องความเป็นธรรม ความเท่าเทียมกันและความเสมอภาคของนักโทษทุกคน เพื่อให้กรมราชทัณฑ์มีมาตรการเด็ดขาดต่อการพักรักษาตัวของคุณทักษิณ ทำไมไม่นำตัวกลับเรือนจำ หรือยังมีโรคอื่นๆให้นำขึ้นมาแอบอ้างเพื่อใช้สิทธิอยู่โรงพยาบาลอีกหรือไม่

“วิษณุ” ชี้ช่องถาม พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ขยัก

ที่รัฐสภา นายวิษณุ เครืองาม คณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมส่งเรื่องถามคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงการออกร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า ยังตอบไม่ถูก ไม่มีใครตอบถูก เพราะไม่ทราบรัฐบาลจะถามมาอย่างไร หากส่งมาแล้วมี 2 ทางเลือกคือ 1.นำเข้าคณะทำงานที่ชำนาญมีนายพนัส สิมะเสถียร เป็นประธานที่เป็นคนร่างกฎหมายวินัยการเงินการคลัง ตนไม่อยู่คณะนี้ 2.นำเข้าคณะพิเศษดึงคนมีความชำนาญด้านต่างๆเพราะไม่ใช่มิติกฎหมายการเงินการคลังอย่างเดียว แต่มีกฎหมายเงินคงคลัง กฎหมายวิธีการงบประมาณ กฎหมายเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญ ต้องอาศัยความสามารถกรรมการหลายคณะ ทางออกที่ดีควรส่งคำถามเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกถามว่า รัฐบาลประสบปัญหาวิกฤติ ทำอย่างนี้ถูกกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ถูกขอให้ช่วยแนะนำควรทำอย่างไร หากตอบว่า ออกร่างกฎหมายกู้เงินได้ ค่อยส่งร่างกฎหมายไปรอบ 2 ไม่ใช่ส่งร่างกฎหมายกู้เงินให้ไปเลยจะไม่ได้คำตอบที่ต้องการ แล้ววันหนึ่งจะมีคดีไปถึงศาล ควรถาม 2 รอบ

ถามเร็วตอบเร็วทันแจก พ.ค.67 แน่

นายวิษณุกล่าวว่า หากถามเร็วกฤษฎีกาก็ตอบเร็ว เชื่อว่าทันเดือน พ.ค.2567 แน่นอน ส่วนเงื่อนเวลาการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา คำถามแรกอาจตอบช้า หากเร่งพิจารณาทุกวันน่าจะเสร็จเร็ว แต่คำถาม 2 จะตอบได้เร็วมาก เพราะตอบคำถามแรกไปแล้ว เช่น ถ้าตอบว่าออกเป็นร่าง พ.ร.บ.กู้เงินได้ เมื่อส่งร่าง พ.ร.บ.ไปแค่ตรวจถ้อยคำ ส่วนจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถือว่าผ่านขั้นตอนพิจารณาคำถามแรกไปแล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกาชินการตอบคำถามเหมือนศาล ถามแค่ไหนตอบแค่นั้น ก็ตอบแค่ว่าทำได้หรือไม่ ไม่เคยตอบถ้าไม่ได้ต้องทำอย่างไรจะไม่ชี้ช่องให้ ดังนั้นควรถามให้กว้าง ถ้าส่งร่าง พ.ร.บ.ไปรอบเดียวจะตีความในมิติที่แคบ ถามช้างตอบช้าง ไม่ได้ตอบม้า แต่ถ้าถามว่าจะช้างหรือม้าหรือวัวหรือควายดี กฤษฎีกาจะได้ตอบให้ ขอย้ำว่าถ้าถามไป 2 ท่อน ต้องขมวดว่าทั้งหมด ถ้าทำไม่ได้ แล้วต้องทำอย่างไร เช่น ถ้าบอกให้ใช้งบประมาณต้องใช้การออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงินก็ถือว่าเสี่ยง ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า พ.ร.บ.เงินกู้ถือเป็นทางลงของรัฐบาล ไม่ทราบเพราะยังไม่เห็นทางขึ้น

ย้ำ ก.ม.ห้ามจ่ายเงินเพื่อประชานิยม

เมื่อถามว่า ถ้าส่งร่าง พ.ร.บ.ไปถามเลย จะทำให้มีคดีความตามมาหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ทราบ เพราะที่ขู่ไม่ได้หมายความจะถูกเสมอไป ขณะนี้ต่างคนต่างไม่รู้ว่ารัฐบาลจะถามอย่างไร ส่วนกรณีถามว่าประเทศวิกฤติ ออกเป็น พ.ร.ก.เท่านั้นหรือไม่นั้น อันดับแรกคนที่ตัดสินประเทศวิกฤติหรือไม่คือรัฐบาล การออกเป็น พ.ร.ก.แบ่งได้ 2 วรรคคือ วรรคแรกกรณีวิกฤติฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วน และอีกวรรคแก้ปัญหาฉุกเฉิน จำเป็นเร่งด่วน เพื่อรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางการเมือง ในประเด็นแรกเรื่องวิกฤติฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วนหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัย แต่จำเป็นต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ได้ ดังนั้นหากเกิดวิกฤติไม่ถึงขนาดไฟลนก้น แต่เหมือนวิกฤติมาหลายเดือนและมีแนวโน้มวิกฤติต่อก็ออกเป็น พ.ร.บ.ได้ แต่ปัญหาคือการออก พ.ร.บ.กู้เงินมาช่วยประชาชนถือเป็นวิกฤติหรือไม่ เป็นอีกเรื่องมาตรา 9 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังบัญญัติว่า รัฐจะจ่ายเงินเพื่อประชานิยมไม่ได้ ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องตอบ จะสัมพันธ์กับเรื่องไม่ตรงปก ตอนหาเสียงพูดเอาไว้อย่างไร และเกี่ยวโยงกับกฎหมายเลือกตั้งด้วย

“ศรี” ยื่นสอบนายกฯซื้อผ้ามัดหมี่ให้ “อิ๊ง”

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ซื้อผ้ามัดหมี่ราคา 6,000 บาท มอบให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 128 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 หรือไม่ โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า ก่อนเริ่มประชุม ครม.นอกสถานที่ จ.หนองบัวลำภู นายเศรษฐาเยี่ยมชมนิทรรศการและบูธขายสินค้าพื้นเมืองที่หน้าห้องประชุม ซึ่งกลุ่มแม่บ้านโนนสั่งเตรียมมอบผ้ามัดหมี่สีชมพูเข้มทอชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” ให้ น.ส.แพทองธาร แต่นายเศรษฐาควักเงินส่วนตัว 6,000 บาท ซื้อให้ น.ส.แพทองธาร ท่ามกลางการรับรู้รับทราบของประชาชนและสื่อมวลชนรายล้อมนายกฯ หลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม. นายกฯมาสมทบกับ น.ส.แพทองธารที่ลงพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พร้อมมอบผ้ามัดหมี่ทอมือที่ซื้อให้เป็นของขวัญ

งัด ก.ม.ฟันผิดให้-รับของเกิน 3 พันบาท

“การให้-รับของขวัญกำนัลเป็นผ้ามัดหมี่ราคา 6,000 บาท ถือเป็นทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 128 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 และประกาศ ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์รับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่รัฐ ปี 2563 และข้อ 5 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้หรือรับของขวัญของเจ้าหน้าที่รัฐ 2565 เป็นข้อห้ามที่ทั้งสองควรปฏิบัติเป็นต้นแบบที่ดี แต่ทว่าบุคคลทั้งสองกลับฝ่าฝืนกฎหมาย ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงอีกด้วย ขอให้ ป.ป.ช.วินิจฉัยเอาผิดบุคคลทั้งสองตามกฎหมายต่อไป” นายศรีสุวรรณกล่าว

“เด็จพี่” สวนคิดวิเคราะห์แยกแยะบ้าง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ปรึกษารองนายกฯ กล่าวตอบโต้นายศรีสุวรรณว่า อยากให้ไปอ่านกฎหมายดูใหม่ให้ดีๆ กฎหมายห้ามเฉพาะกรณีเจ้าหน้าที่รัฐรับทรัพย์สินมีมูลค่าเกิน 3,000 บาท เว้นแต่เป็นการให้ตามธรรมจรรยา แต่ไม่ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐให้ทรัพย์แก่บุคคลใดเกิน 3,000 บาท และ น.ส.แพทองธารไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐจึงไม่ต้องห้ามรับทรัพย์สินจากนายกฯ รัฐบาลกำลังทำงานนายกฯลงพื้นที่ ครม.สัญจร นายกฯซื้อสินค้าช่วยชาวบ้าน โปรโมตสินค้าโอทอปผ้าทอพื้นเมือง นายศรีสุวรรณยังหยิบเอามาร้องได้ อยากให้คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ดูข้อกฎหมายให้ดีๆก่อนยื่นคำร้อง ไม่ใช่เห็นอะไรในทีวีตั้งคำถามร้องทุกเรื่อง การตรวจสอบเป็นเรื่องดี แต่ควรทำให้ถูกเรื่องด้วย อยากให้นายศรีสุวรรณรักต้นไม้ เสียดายกระดาษมากกว่านี้ อย่าร้องอะไรมั่วๆ คนจะไม่ให้เครดิต

ศาล รธน.ยืดคดี “พิธา” ชงโละ ม.112

เมื่อเวลา 13.40 น. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดี ที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ขอให้วินิจฉัยการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรค ก.ก.ผู้ถูกร้องที่ 2 เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ป.อาญาเพื่อยกเลิกมาตรา 112 เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่ โดยพยานบุคคลของผู้ถูกร้องทั้ง 2 ยื่นคำร้องลงวันที่ 4 ธ.ค.ขอขยายระยะเวลายื่นบันทึกถ้อยคำข้อเท็จจริงหรือความเห็นออกไปอีก 10 วันนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด โดยศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ขยายระยะเวลาถึงวันที่ 18 ธ.ค. และกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อในวันที่ 20 ธ.ค.เวลา 19.30 น.

ขยายเวลาแจงปมถือหุ้นไอทีวี

เอกสารระบุอีกว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังพิจารณาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพ สส.ของนายพิธา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ กรณีถือหุ้นสื่อในบริษัทไอทีวีฯ โดยศาลอนุญาตตามที่นายพิธา ขอขยายระยะเวลาจัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นล่วงหน้าโดยให้จัดส่งภายในวันที่ 12 ธ.ค. ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 64 วรรคหนึ่ง ที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องสำเนาแก่คู่กรณีฝ่ายอื่นเพื่อทราบก่อนวันนัดไต่สวน ไม่น้อยกว่า 7 วัน จากนั้นอภิปรายเตรียมการไต่สวนในวันที่ 20 ธ.ค. เวลา 09.30 น. ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังแจ้งด้วยว่า การไต่สวนพยานบุคคลในทั้ง 2 คดีของนายพิธาในวันที่ 20 ธ.ค. และ 25 ธ.ค.นี้ ศาลอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีและบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้นเข้าร่วมรับฟังการไต่สวน

กมธ.คาใจ กกพ.คิดเอฟทีค่าไฟพุ่ง

น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ สส.สุราษฏร์ธานี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพลังงาน สภาฯ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก กมธ.ได้ทำหนังสือเชิญประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มาให้ข้อมูลเพื่อการพิจารณาศึกษา เรื่องร้องเรียนการขอปรับการจ่ายเงินงบประมาณกองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าแม่เมาะสัดส่วนหมู่บ้าน และเรื่องร้องเรียนผลกระทบจากการรอนสิทธิ กรณีสายไฟฟ้า หรือโครงสร้างพื้นฐานของการไฟฟ้าพาดผ่านที่ดินของประชาชนในวันพุธที่ 13 ธ.ค. เวลา 09.00 น. นั้น กมธ.จะได้หารือกับ กกพ.เพื่อรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทั้งหลักเกณฑ์การพิจารณาและการคำนวณปรับค่าเอฟที ที่จะเรียกเก็บในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2567 ที่อาจส่งผลให้ค่าไฟฟ้าปรับขึ้น และมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนที่สังคมกำลังห่วงกังวล นำเสนอผ่านสภาฯไปยังรัฐบาลเพื่อดำเนินการ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่