นายกฯตีปี๊บสางหนี้นอกระบบ ประกาศวาระแห่งชาติ แก้ปัญหาค้าทาสโลกยุคใหม่ รัฐยื่นมือไกล่เกลี่ยปิดหนี้ดอกเบี้ยโหด คืนอิสรภาพต่อลมหายใจให้ลูกหนี้ สั่งตำรวจ-ฝ่ายปกครองดึงเข้าระบบส่งต่อปรับโครงสร้างหนี้ “กฤษฎา” แย้มแบงก์ออมสิน-ธ.ก.ส.ผ่อนปรนเกณฑ์ปล่อยสินเชื่อ “อนุทิน” ยัน มท.ขานรับจัดแถวไปพร้อมกับการปราบผู้มีอิทธิพล เปิดให้คนถูกข่มขู่ลงทะเบียน 1 ธ.ค. ลั่นจ่ายคืนเกินเงินต้นต้องพอแล้ว ครม.ไฟเขียวปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ปีละ 10%  2 ปีงบประมาณ 1 พ.ค.67 วุฒิปริญญาตรีสตาร์ต 18,000 บาท จากเดิม 15,000 บาท ปวช.เริ่มต้น 11,000 บาท พร้อมขยายเพดานค่าครองชีพชั่วคราว 2,000 บาท ขรก.เงินเดือนต่ำกว่า 14,600 บาท และเจ้าหน้าที่ของรัฐเงินเดือนต่ำกว่า 11,000 บาท รับอานิสงส์

รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ประกาศวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” สั่งบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจอย่างเข้มข้น พร้อมปรับโครงสร้างหนี้ คืนอิสรภาพทางการเงินให้แก่ลูกหนี้ที่เดือดร้อนจากดอกเบี้ยสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด

นายกฯถก รมต.แถลงสางหนี้นอกระบบ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 พ.ย. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อมาเวลา 10.30 น. ภายหลังประชุม ครม. นายกฯให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีการพิจารณาวาระการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ มอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกฯเป็นผู้แถลง จากนั้นนายกฯได้เชิญรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) ร่วมประชุมที่ห้องสีเขียวตึกไทยคู่ฟ้า เตรียมความพร้อมก่อนแถลงเรื่องวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” ที่ตึกสันติไมตรี

...

ชูวาระแห่งชาติแก้ค้าทาสโลกยุคใหม่

จากนั้นเวลา 11.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี หลังใน ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐาพร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.ร่วมแถลงข่าววาระแห่งชาติ การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยนายเศรษฐากล่าวว่า ปัญหาหนี้นอกระบบกัดกร่อนสังคมไทยมานาน วันนี้เราจะเอาจริงเอาจังแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ ฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ คืนศักดิ์ศรี คืนความหวังและสร้างความมั่นคงให้ประชาชน ฝ่ายปกครองที่ใกล้ชิดกับประชาชนและฝ่ายตำรวจที่บังคับใช้กฎหมายมาทำงานร่วมกันแก้ไข และรัฐบาลจะฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งตั้งแต่ระดับครัวเรือน ทำให้ไม่กลับไปมีหนี้ล้นพ้นตัวอีก ประเมินจำนวนครัวเรือนที่มีปัญหาหนี้นอกระบบ คิดเป็นมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท คิดว่าเลขนี้น่าจะประเมินไว้ค่อนข้างต่ำ ปัญหาจริงๆน่าจะมีมากกว่านั้น คนที่ไม่ได้เป็นหนี้อาจสงสัยว่า ทำไมต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ หนี้นอกระบบเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจ สำหรับตนหนี้นอกระบบถือว่าเป็น Modern World Slavery เป็นการค้าทาสในยุคใหม่ที่พรากอิสรภาพ ความฝัน จากผู้คนในยุคสมัยนี้

รัฐยื่นมือไกล่เกลี่ยปิดหนี้จบดอกเบี้ยโหด

“ปัญหานี้ใหญ่เกินกว่าที่จะแก้ได้โดยไม่มีภาครัฐเป็นตัวกลาง รัฐบาลจึงต้องบูรณาการหลายภาคส่วนมาแก้ปัญหา ไม่ให้ประชาชนกลับไปอยู่ในวงจรหนี้สินนอกระบบอีก โดยภาครัฐจะรับบทบาทเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยพร้อมกันทั้งหมด ดูแลทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้อย่างเป็นธรรม ตั้งแต่ต้นกระบวนการจนถึงการปิดหนี้ การทำสัญญา ที่หลายครั้งไม่เป็นไปตามกฎหมาย มีดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม และกระบวนการทวงหนี้ที่ใช้ความรุนแรง ต้องจัดให้ทำสัญญาที่เป็นธรรมและเป็นไปตามกฎหมาย เพื่อให้ลูกหนี้ได้มีโอกาสหายใจ มีกำลังใจพอจะดำเนินชีวิต หาเงินมาปิดหนี้ให้ได้” นายกฯกล่าว

ตร.-มท.ดึงเข้าระบบ-รบ.ปรับโครงสร้างหนี้

นายเศรษฐากล่าวว่า ช่วงต้นเดือน พ.ย. ได้สั่งการให้ตำรวจและมหาดไทยไปทำการบ้านมาเพื่อทำงานอย่างบูรณาการให้ดีกว่าในอดีตที่เคยแยกกันทำ ต้องมีมาตรการต่อเนื่อง ไม่ให้ประชาชนกลับเข้าไปอยู่ในวงจรอีก ต้องทำให้กระบวนการทำงานไม่ซ้ำซ้อนชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบ จะมีการทำฐานข้อมูลกลาง นำเทคโนโลยีมาช่วยสร้างความโปร่งใส มีวิธีการเข้าสู่กระบวนการหลายรูปแบบ เพิ่มความสะดวกให้ประชาชน และต้องมีกระบวนการถ่วงดุลระหว่างหน่วยงาน เพราะบางกรณีเจ้าหนี้หรือลูกหนี้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ขอให้ทุกส่วนทำงานตรงไปตรงมา เข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยให้ถูกต้อง หลังจากขั้นตอนการไกล่เกลี่ย รัฐบาลจะช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งการช่วยปรับระยะเวลา เงื่อนไขและกระบวนการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนชดใช้หนี้ได้อย่างมีศักดิ์ศรี

12 ธ.ค. ปลดปล่อยเลิกทาสหนี้ครบวงจร

“การแก้ไขหนี้ในวันนี้คงไม่ใช่ยาปาฏิหาริย์ที่จะทำให้หนี้นอกระบบไม่เกิดขึ้นอีก แต่มั่นใจว่าด้วยเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจะทำให้ประชาชนมีรายได้ดีขึ้น จนไม่จำเป็นต้องก่อหนี้อีกในอนาคต เพิ่มโอกาสให้ประชาชนรายเล็ก รายย่อยเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ได้มากขึ้น และวันที่ 12 ธ.ค.จะมีการแถลงเรื่องภาพรวมหนี้แบบครบวงจร จะครอบคลุมทั้งหนี้ในระบบ และหนี้นอกระบบอีกครั้งหนึ่ง และจะทำให้โครงการนี้ช่วยปลดปล่อยพี่น้องประชาชนจากการเป็นทาสหนี้นอกระบบ ลืมชีวิตที่เคยลำบาก มีกำลัง มีแรงใจที่จะทำตามความฝัน นับจากนี้เป็นต้นไป” นายกฯกล่าว เมื่อถามว่า การเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบ จะมีหลักเกณฑ์เรื่องดอกเบี้ยอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ห้ามคิดเกินร้อยละ 15 ต่อปี และต้องดูว่าตั้งแต่เป็นหนี้ไปแล้ว จ่ายเงินไปแล้วเท่าไหร่ หากจ่ายเกินไปแล้วต้องยกเลิกต่อกัน

จ่อถก นอภ. กับ ผกก.ขันนอตเข้มข้น 

เมื่อถามว่าขณะนี้มีการสำรวจอย่างจริงจังหรือไม่ว่า จำนวนหนี้นอกระบบมีเท่าไหร่ และมาตรการแก้หนี้นี้เหมือนทุกอย่างจะเป็นแบบเดิมที่เคยทำกันมาแล้ว ทำอย่างไรไม่ให้มีปัญหาหนี้นอกระบบเช่นเดิมอีก นายเศรษฐากล่าวว่า ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ที่ผ่านมาไม่ได้ทำแบบบูรณาการทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายมั่นคง และกระทรวงการคลัง ยังจะมีการแก้หนี้ในระบบด้วย จะเป็นอีกส่วนที่จะทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ จะไม่ให้เป็นหนี้เลยคงลำบาก แต่จะทำให้เป็นธรรมตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อถามว่าความเหลื่อมล้ำในประเทศมีเยอะ ผู้เข้ามาบริหารประเทศส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอีลิต อาจไม่เห็นความชัดเจนของปัญหา นายเศรษฐากล่าวว่า เรานำทุกภาคส่วนมาบูรณาการกัน ไม่ใช่ว่าเรามองไม่เห็น ถ้ามองไม่เห็นคงไม่มานั่งกันวันนี้ ยืนยันเราให้ความสำคัญ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี วันที่ 8 ธ.ค.จะมีการประชุมนายอำเภอและผู้กำกับทั่วประเทศ โดยจะให้นโยบาย มอบ KPI ติดตามผลงานต่อเนื่อง จะไม่เหมือนที่เคยทำกันมา เมื่อถามว่าคนปล่อยกู้นอกระบบส่วนใหญ่เป็นผู้มีอิทธิพล หากไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการการไกล่เกลี่ยจะดำเนินการอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลไม่ยอมรับผู้มีอิทธิพลนอกระบบหรือมาเฟีย ตรงนี้ต้องจัดการไป บ้านเมืองมีกฎหมาย อัตราดอกเบี้ยที่คิดไว้ต้องชัดเจน เราจะเรียกทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้มาคุย

เปิดให้คนถูกข่มขู่ลงทะเบียน 1 ธ.ค.

นายอนุทินกล่าวว่า ขอยืนยันจะนำแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามวาระแห่งชาตินี้ ไปดำเนินการทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ จะใช้เครือข่ายและกลไกการทำงานครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งประเทศและใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด ตั้งแต่ระดับ ผวจ. นายอำเภอ กำนันและผู้ใหญ่บ้าน เป็นจุดแข็งที่จะใช้ขับเคลื่อนภารกิจนี้ ที่ผ่านมาการแก้หนี้นอกระบบ มท. ดำเนินการผ่านศูนย์ดำรงธรรม นายอำเภอมีบทบาทในฐานะประธานคณะผู้ไกล่เกลี่ยร่วมกับประชาชนในนามคณะผู้ไกล่เกลี่ย มาตรการล่าสุดของรัฐบาล ต่อยอดช่วยเหลือประชาชนเชิงรุกผ่านศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ขอเชิญชวนผู้เดือดร้อนถูกข่มขู่มาลงทะเบียนเพื่อขอรับความช่วยเหลือได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป ที่ศูนย์ดำรงธรรมทุกแห่ง มาตรการการบังคับใช้กฎหมายกับเจ้าหนี้นอกระบบมีพฤติกรรมข่มขู่ใช้ความรุนแรง หรือเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด ฝ่ายปกครองจะประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จะสอดคล้องกับงานปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่ มท.ดำเนินการอยู่ เพราะหนึ่งในกลุ่มผู้มีอิทธิพลคือกลุ่มเจ้าหนี้นอกระบบด้วย ถือว่า Watch List ที่เรามีอยู่จะถูกนำมาใช้ประโยชน์จับตาพฤติกรรม เชื่อว่าหลังการแถลงวันนี้ทุกฝ่ายคงร่วมมือกันเต็มที่

ถ้าจ่ายเกินเงินต้นแล้วต้องพอ

เมื่อถามว่าบัญชีเจ้าหนี้จะเอาไปรวมกับบัญชีผู้มีอิทธิพลใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า กรณีเจ้าหนี้ไปข่มเหงหรือรังแกชาวบ้าน ไปใช้อิทธิพลต่างๆทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เข้าลักษณะผู้มีอิทธิพล และยิ่งมาใช้อาวุธปืนด้วยก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ กำลังจัดระเบียบสังคมให้เป็นนิติรัฐให้มากที่สุด กฎหมาย เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ฝ่ายตำรวจ ต้องดูแลความปลอดภัยของประชาชน จะทำงานร่วมกันทุกฝ่าย เราไม่ได้แก้หนี้ให้ชาวบ้านไม่มีหนี้ เพราะไม่สามารถยกหนี้ให้ได้ขนาดนั้นทั้งประเทศ แต่หาแหล่งเงินทุนมารีไฟแนนซ์ เรื่องหนี้เป็นความสมยอมระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้ ต้องแก้ปัญหาให้ทั้งสองฝ่ายเช่น กรณีจ่ายหนี้จนเกินเงินต้นต้องพอแล้ว ถ้ายังไม่ปล่อยต้องไล่บัญชีกัน เพื่อไม่ให้ข่มเหงรังแก ก่อความเดือดร้อนหรือเอาเปรียบ เมื่อถามว่ามีการกำชับข้าราชการที่เป็นผู้ปล่อยกู้เองหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่น่าจะมี ข้าราชการประจำน่าจะเป็นลูกหนี้มากกว่า เพราะเงินเดือนแค่ 3-4 หมื่น จะเอาที่ไหนไปปล่อยกู้ แต่ถ้ามีการปล่อยกู้จริง หากอยู่ในระบบหรือมีการร้องเรียนเข้ามา ไม่ได้มองว่าเขาเป็นข้าราชการ แต่มองเป็นเจ้าหนี้หรือเหาฉลามที่ข่มเหงรังแก เมื่อถามย้ำว่าจะมีโทษหนักกว่าคนที่ไม่ใช่ข้าราชการหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า กฎหมายต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

สั่งธนาคารของรัฐปล่อยกู้

 นายกฤษฎากล่าวว่า นายกฯได้สั่งการให้กระทรวงการคลังดูแลลูกหนี้นอกระบบ ภายหลังที่ปรับโครงสร้างหรือไกล่เกลี่ยกันเรียบร้อยแล้ว จะมีธนาคารของรัฐดูแล เช่น ธนาคารออมสิน มีโครงการอยู่แล้วในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จะให้กู้รายหนึ่งไม่เกิน 50,000 บาท ในระยะเวลา 5 ปี และอีกส่วนจะเป็นโครงการสินเชื่อสำหรับอาชีพอิสระรายย่อยเพื่อส่งเสริมอาชีพ นี่จะเป็นอีกโครงการหนึ่งที่ให้กู้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย ระยะเวลาสูงสุด 8 ปี อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามความสามารถของลูกหนี้แต่ละราย นอกจากนี้ ธ.ก.ส.มีโครงการรองรับ หากใครจะนำที่ดินมาฝากขายหรือติดจำนองที่เกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ธ.ก.ส.จะมีวงเงินให้เกษตรกรต่อราย 2.5 ล้านบาท ไปแก้ไขเรื่องที่ดินทำกิน ผู้ประกอบการที่สนใจจะดำเนินการให้ถูกกฎหมาย เรามีช่องทางให้ขออนุญาตเรื่อง pico finance มีผู้มาขออนุญาตแล้วพันกว่ารายทั่วประเทศ เรามีทุนจดทะเบียนให้ผู้ประกอบการแต่ละราย 5 ล้านบาท

ปรับเกณฑ์ปล่อยสินเชื่อ

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เร็วๆนี้กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการสินเชื่อเพื่อรองรับลูกหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบ ตามนโยบายของรัฐบาลให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบ โดยจะปล่อยสินเชื่อผ่านธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อให้โอกาสประชาชนได้เข้าถึงแหล่งทุน ต้องปรับหลักเกณฑ์เพื่อให้ลูกหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบได้ นอกจากจะปล่อยสินเชื่อให้แล้ว หน่วยงานของรัฐ จะมีมาตรการเสริมคือการส่งเสริมอาชีพ เพื่อสร้างรายได้นำมาผ่อนชำระได้ กระทรวงการคลังจะรับไม้ต่อ หลังนายอำเภอและผู้กำกับการฯลงพื้นที่สำรวจหรือเอกซเรย์พื้นที่ ได้รายชื่อเจ้าหนี้และลูกหนี้นอกระบบเรียบร้อยแล้วและเจรจาไกล่เกลี่ยกัน แล้วลูกหนี้ต้องการเข้าสู่ระบบ กระทรวงการคลังจะมีมาตรการสินเชื่อจากสถาบันการเงินของรัฐเข้าช่วยเหลือ พร้อมปรับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อเพื่อให้ลูกหนี้นอกระบบเข้าถึงแหล่งทุนจากสถาบันการเงินของรัฐ คนไปเป็นหนี้นอกระบบเพราะกู้เงินในระบบไม่ได้ รัฐต้องมาพิจารณาปรับเกณฑ์เพื่อให้ผ่อนชำระค่างวดได้

ตร.เผยจับผู้กระทำผิดแล้ว 134 ราย

พล.ต.อ.ธนากล่าวว่า ตร.รับผิดชอบบังคับใช้กฎหมาย เราเห็นความเดือดร้อนการทวงหนี้โดยใช้ความรุนแรง โดยมีสายด่วน 1559 เพื่อรับแจ้งปัญหา มอบหมายให้ตำรวจตรวจตราพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อสำรวจข้อมูลผู้ประกอบการหนี้นอกระบบทั้งหมด โดยตั้งแต่ 1 ต.ค.2566 ถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 134 ราย ยึดของกลางมูลค่า 8 ล้านบาท ทั้งนี้  ผบ.ตร.พร้อมทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานเพื่อให้เกิดการติดตามผลอย่างโปร่งใส

ตีปี๊บคืนอิสรภาพ–ความฝันคนไทย

ต่อมาเวลา 12.50 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ทวีตข้อความผ่าน X ว่า “รัฐบาลเห็นปัญหาหนี้นอกระบบเป็นปัญหาที่กัดกร่อนสังคมไทยมานาน และเป็นเรื่องใหญ่ของคนไทยจำนวนมาก เราจึงทำให้การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ สำหรับผมหนี้นอกระบบถือเป็น Modern World Slavery เป็น “การค้าทาสในยุคใหม่” ที่ได้พรากอิสรภาพและความฝันไปจากผู้คนในยุคสมัยนี้ ปัญหาหนี้เรื้อรังและใหญ่เกินกว่าที่จะแก้ปัญหาได้โดยไม่มีภาครัฐเป็นตัวกลาง วันนี้รัฐบาลจึงต้องบูรณาการหลายภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และกระทรวงการคลัง เพื่อไม่ให้ประชาชนกลับไปอยู่ในวงจรหนี้สินนอกระบบอีก ภาครัฐจะรับบทบาทเป็นตัวกลางสำคัญในการไกล่เกลี่ย “พร้อมกัน” ทั้งหมด โดยดูแลทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้อย่างเป็นธรรม ตั้งแต่ต้นกระบวนการจนถึงการปิดหนี้ และการทําสัญญาที่หลายครั้งไม่เป็นไปตามกฎหมาย มีดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม และกระบวนการทวงหนี้ที่ใช้ความรุนแรง ต้องจัดให้ทําสัญญาที่เป็นธรรม และเป็นไปตามกฎหมาย พูดง่ายๆคือการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ภาครัฐจะทํางานร่วมกันหลายหน่วยงาน เพื่อทําให้ลูกหนี้มีโอกาสหายใจ มีกำลังใจพอจะดำเนิน ชีวิต หาเงินมาปิดหนี้ให้ได้ การแก้ไขหนี้ในวันนี้คงไม่ใช่ยาปาฏิหาริย์ที่จะทําให้หนี้นอกระบบไม่เกิดขึ้นอีก แต่มั่นใจว่าด้วยเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จะทําให้พี่น้องประชาชนมีรายได้ที่ดีขึ้น จนไม่จำเป็นต้องก่อหนี้อีกในอนาคต และจะเพิ่มโอกาสให้พี่น้องประชาชน รายเล็ก รายย่อย เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้มากขึ้นครับ”

ครม.ปรับฐานเงินเดือน ปวช.–ป.ตรี

จากนั้นเวลา 13.30 น. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯแถลงว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เสนอ มีเป้าหมายการปรับฐานเงินเดือนใหม่และรายได้ต่างๆให้ผู้จบปริญญาตรีและระดับ ปวช.ที่บรรจุเข้ารับราชการใหม่ ตามผลการศึกษาของสำนักงาน  ก.พ.แบ่งเป็นกลุ่มดังนี้ 1.การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่บรรจุใหม่จะปรับเพิ่มให้ 2 กลุ่ม โดยให้ภายใน 2 ปี จะปรับเพิ่มปีละ 10% ประกอบด้วยผู้จบปริญญาตรีได้รับไม่ต่ำกว่าเดือนละ 18,000 บาท ผู้จบ ปวช.ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 11,000 บาท 2.เงินชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบ คือข้าราชการเดิมที่มีฐานเงินเดือนต่ำกว่าฐานของข้าราชการบรรจุใหม่ จะปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้นชดเชยย้อนหลังให้ได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

อัดเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว

นายชัยกล่าวต่อว่า 3.เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว โดยปรับฐานเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวจากเพดานเดิม แบ่งเป็นข้าราชการที่มีเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 13,285 บาท เดิมจะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวอีก 2,000 บาท แต่ไม่เกินเดือนละ 13,285 บาท โดยจะปรับเพดานใหม่เป็นข้าราชการที่มีเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 14,600 บาท จะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวอีก 2,000 บาท แต่ไม่เกินเดือนละ 14,600 บาท เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 10,000 บาท  เดิมจะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว แต่ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท โดยจะปรับเพดานใหม่เป็น 11,000 บาท หากใครที่ได้รับเงินไม่ถึงจะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว แต่ไม่เกินเดือนละ 11,000 บาท

ดีเดย์สตาร์ตเงินเดือนใหม่ 1 พ.ค.67

“การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการครั้งนี้จะใช้งบประมาณในปีแรก คือปี 2567 วงเงินประมาณ 7,200 ล้านบาท ส่วนปีที่ 2 คือ ปีงบประมาณ 2568 วงเงินประมาณ 8,800 ล้านบาท แต่ในการดำเนินการในปีแรกงบประมาณปี 2567 ยังไม่สามารถใช้ได้ ดังนั้นวงเงินที่ใช้จริงจึงใช้แค่ 5 เดือนเท่านั้น ส่วนงบประมาณช่วยเงินค่าครองชีพชั่วคราว ตั้งงบประมาณไว้ปีละไม่เกิน 3,000 ล้านบาท โดย ครม.มีมติเห็นชอบและให้หน่วยงานต่างๆไปดำเนินการตามที่ ครม.อนุมัติเริ่มดำเนินการได้เลย เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ค.2567” นายชัยกล่าว

ขรก.เก่าได้เยอะกว่าคนใหม่ชัวร์

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบในหลักการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ โดยปรับขึ้นในส่วนของข้าราชการบรรจุใหม่ปีละ 10% ใน 2 ปีงบประมาณ ทั้งปี 2567 และปี 2568 ทำให้เงินเดือนของข้าราชการจบปริญญาตรีบรรจุใหม่อยู่ 18,000 บาทต่อเดือน ในปีงบประมาณ 2568 จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน โดยการเริ่มปรับฐานเงินเดือนข้าราชการจบใหม่ 10% จะเริ่มต้นในเดือน พ.ค.ปี 2567 หลังจากที่ พ.ร.บ.งบฯปี 2567 ประกาศบังคับใช้แล้ว สำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อยอื่นๆ ที่เข้ามารับราชการก่อนและยังไม่ถึงระดับชำนาญการ (ซี 8) และยังมีเงินเดือนไม่ถึง 18,000 บาท จะปรับฐานเงินเดือนให้สูงกว่าข้าราชการบรรจุใหม่ โดยในช่วงเวลาที่ยังไม่ได้ปรับฐานเงินเดือนให้กับข้าราชการที่เข้ามารับราชการก่อนและเงินเดือนยังไม่ถึง 18,000 บาท จะได้รับการปรับขึ้นค่าครองชีพก่อน

ผู้บริหารระดับสูงซี 9 ขึ้นไปไม่ขึ้น

นายดนุชากล่าวด้วยว่า สำหรับข้าราชการที่เป็นระดับชำนาญการหรือซี 9 ขึ้นไป จะไม่ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนแต่อย่างใด ทั้งนี้ งบฯที่จะนำมาใช้ในปี 2567 จะใช้งบประมาณหลัก 5,000-6,000 ล้านบาท อาจใช้จากงบกลางสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วน ส่วนปีงบประมาณ 2568 จะใช้งบฯหลักหมื่นล้านบาทในส่วนนี้จะตั้งเป็นงบฯรายจ่ายประจำปี การปรับขึ้นเงินเดือนครั้งนี้จะให้กับข้าราชการที่บรรจุใหม่และข้าราชการที่รายได้น้อย โดยจะทำคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพราชการและปรับลดจำนวนข้าราชการด้วย

“ประเสริฐ” โวย ก.ก.อย่าโยงคนชั้น 14

อีกเรื่อง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมต.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่า คงต้องขอดูรายละเอียดก่อนว่ามีสาระสำคัญหลักการและเหตุผลเป็นอย่างไร ถ้าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน รัฐสภาจะพิจารณาช่วงหาเสียงพรรค พท.เน้นนโยบาย เรื่องนิรโทษไม่ค่อยได้พูดเท่าไหร่ อะไรที่ไม่เกี่ยวกับมาตรา 112 เราจะเห็นด้วย แต่ถ้าเป็นความผิดทางการเมืองที่เป็นเรื่องการเมืองจริงๆและเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนมาก ขอดูรายละเอียดตัวร่างอีกครั้ง ทั้งนี้ไม่อยากให้พาดพิงถึงคนที่อยู่ชั้น 14 เพราะเรื่องของท่านสิ่งที่ได้รับเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายทุกอย่าง ไม่ได้มีสิทธิพิเศษเหนือคนอื่น อย่าให้เป็นประเด็นทางการเมืองมาก บ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องเป็นเรื่องสำคัญที่เราทำอยู่ ขออย่าเล่นการเมืองจนเกินไป ขอให้พิจารณาหรือยกร่างด้วยความบริสุทธิ์ใจและนำเสนอ อย่ามีวาระซ่อนเร้น ถ้าต้องการช่วยเหลือประชาชนจริงๆพรรคพท.พร้อม

“ชลน่าน” ขอดูเนื้อหาเป็นคุณจริงๆ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า คงต้องให้กรรมการบริหารพรรคและคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พท. รวมถึงที่ประชุมพรรค พท.พิจารณา เพราะต้องดูเนื้อหาสาระ เราไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับต้องดูความเป็นไปได้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ได้รับผลกระทบตัวจริงหรือไม่ อย่างไร และต้องไปดูตัวบทว่าสอดรับวัตถุประสงค์และมีอะไรเป็นข้อจำกัด หรือจะนำไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่ เมื่อถามว่านายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.ระบุว่า ร่าง พ.ร.บ.พรรค ก.ก.ทุกคนจะได้รับสิทธิหมด เพราะวันนี้หลายคนไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนคนที่อยู่ชั้น 14 นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่ขอตอบประเด็นนี้ ขอดูรายละเอียดก่อนว่าร่างของพรรค ก.ก.เกิดประโยชน์โดยรวมจริงหรือไม่

“ต๋อม” ลุ้นพรรคอื่นชงนิรโทษเข้าสภาฯ

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรค ก.ก.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพูดคุยกับนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ “อดีตพระพุทธะอิสระ” เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อยและอดีตแนวร่วม กปปส. เรื่องร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมของพรรค ก.ก.ว่า ผลตอบรับโดยเฉพาะกลุ่ม กปปส.และกลุ่มพันธมิตรฯภาพรวมถือว่าดี แม้อาจจะมีบางกลุ่มยังคงมีคำถามอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยได้แลกเปลี่ยนกัน หวังว่ากระบวนการพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงฝ่ายความมั่นคง เมื่อสร้างความเห็นร่วมได้เป็นรูปธรรม จะทำให้พรรคต่างๆเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษของตัวเองเข้าสู่สภาฯเพื่อพิจารณาร่วมกับร่างของพรรค ก.ก. นี่คือสิ่งที่เราอยากเห็น ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคอื่น ที่จะมีผลอย่างมีนัยสำคัญคือ เสียงของกลุ่มการเมืองต่างๆที่เคยขัดแย้งกัน ถ้ามีความเห็นร่วมกันของฝ่ายต่างๆที่เคยขัดแย้งกันได้ จะทำให้พรรคการเมืองต่างๆ สบายใจมากขึ้นที่จะเสนอเรื่องนี้ เชื่อว่าการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองจะเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่กระบวนการปรองดองและคลี่คลายความขัดแย้งได้โดยสันติด้วยกระบวนการทางประชาธิปไตย

ภท.ตอกฝาโลง ม.112 แตะไม่ได้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีพรรค ก.ก. กำลังเดินสายขอความเห็นเพื่อ เดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่รวมถึงคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า เรื่องนี้ในสภาฯ พรรค ภท. มีจุดยืนอยู่แล้วว่ามาตรา 112 แตะไม่ได้

“วันนอร์” พร้อมถกร่างนิรโทษค่ายส้ม

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ กล่าวถึงการเปิดสมัยประชุมสภาฯวันที่ 12 ธ.ค.ว่า วาระการประชุมต้องให้รอกองการประชุมสภาฯเสนอบรรจุขึ้นมา ได้สั่งการให้เตรียมพร้อมห้องประชุมสภาฯ รอนัดประชุมวิป 2 ฝ่าย พิจารณาวาระร่วมกัน กฎหมายที่ผ่านการประชาพิจารณ์แล้ว หากไม่ใช่ร่างกฎหมายการเงินจะบรรจุเข้าระเบียบวาระทันที ส่วนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรค ก.ก. หากรับฟังความเห็นประชาชนเสร็จแล้วจะเตรียมบรรจุวาระต่อไป ยืนยันทันสมัยประชุมหน้าแน่นอน แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเงินหรือไม่ ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2567 สภาฯได้รับประสานเบื้องต้นจากสำนักงบฯจะส่งร่างมาที่สภาฯ ใช้เวลาแจกจ่าย สส.อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้าพิจารณา เบื้องต้นคาดว่าวาระแรกจะพิจารณาได้วันที่ 3 ม.ค.67

“มาดามเดียร์” นัดเปิดตัวชิง หน.ปชป.

 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ว่า การสรรหาหัวหน้าพรรค ปชป.คนใหม่ที่ยังคงเป็นปัญหายืดเยื้อ เกิดความขัดแย้งภายในของผู้มีอำนาจในพรรค 2 ขั้ว คือ “กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย” ที่มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเป็นแกนนำ กับกลุ่มผู้อาวุโสและอดีตหัวหน้าพรรคที่มีนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ที่สนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคกลับมานั่งตำแหน่งนี้อีกครั้งเพื่อกอบกู้พรรค โดยนายอภิสิทธิ์เรียกร้องให้พรรคมีความเป็นเอกภาพ แต่ไม่ได้รับการตอบรับจาก สส.ปัจจุบัน ล่าสุด น.ส.วทันยา บุนนาคหรือมาดามเดียร์ ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม.พรรค ปชป.ตอบรับสนใจจะลงสมัครแข่งขันชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค ปชป. โดยนัดสื่อมวลชนแถลงข่าวเป็นทางการเปิดตัวลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. คนที่ 9 ที่ลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม เวลา 10.00 น. วันที่ 29 พ.ย. โดยจะเข้าพรรคกราบสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม สัญลักษณ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค เวลา 09.09 น. ก่อนแถลงข่าวเปิดตัว

นายกฯขันนอตบินดูงานให้คุ้มภาษี

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมครม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ได้สั่งการให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)เร่งดำเนินการโครงการ Gold Crown Service ก้าวเข้าไปสู่ E Goverment เร็วที่สุด และมี E service ต่างๆให้ครบวงจร นอกจากนี้ได้กำชับรัฐมนตรีทุกกระทรวงให้พิจารณากรณีนำคณะไปดูงานและติดต่องานต่างประเทศ ขอให้รายงานว่าทำอะไรแล้ว ขอให้ประเมินโดยเน้นว่าได้คาดหวังผลอะไรเมื่อใดจะเห็นผล และเน้นย้ำว่าขอให้ได้ผลลัพธ์คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่ได้ใช้ไปในการเดินทางไปต่างประเทศแต่ละครั้ง นายกฯยังกำชับเหลืออีกเพียง 1 เดือน จะเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ ขอให้ทุกกระทรวงเตรียมของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ไม้เด็ดที่คิดว่าประชาชนจะมีความสุข และนอกจากนี้ยังได้ฝากถึงกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ช่วยตอบสนองต่อข่าวที่ระบุว่า ทักษะภาษาอังกฤษของไทยต่ำที่สุดในอาเซียน โดยนายกฯต้องการให้มีมาตรการเร่งด่วนออกมาเพื่อแก้ปัญหานี้ให้ได้

ครม.ไฟเขียวแต่งตั้ง ผวจ.18 จังหวัด

นายชัยกล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง 28 ตำแหน่ง โดยมีตำแหน่ง ผวจ. รวมอยู่ด้วย 18 จังหวัด ได้แก่ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รอง ผวจ.กระบี่ เป็น ผวจ.กระบี่ นายอนันต์ นาคนิยม รอง ผวจ.ระยอง เป็น ผวจ.ชัยภูมิ นายทรงกลด สว่างวงศ์ รอง ผวจ.ตรัง เป็น ผวจ.ตรัง นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร รอง ผวจ.ฉะเชิงเทรา เป็น ผวจ.ตราด ว่าที่ร.ต.ตระกูล โทธรรม รอง ผวจ.ปัตตานี เป็น ผวจ.นราธิวาส นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ รอง ผวจ.น่าน เป็น ผวจ.น่าน นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รอง ผวจ.บึงกาฬ เป็น ผวจ.บึงกาฬ นายนิติ วิวัฒน์วานิช รอง ผวจ.ชลบุรี เป็น ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ นายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็น ผวจ.พะเยา นายอดิเทพ กมลเวชช์ รอง ผวจ.ปทุมธานี เป็น ผวจ.พิจิตร นายชรินทร์ ทองสุข รอง ผวจ.นครราชสีมา เป็น ผวจ.ยโสธร นายนริศ นิรามัยวงศ์ รอง ผวจ.นครสวรรค์ เป็น ผวจ.ระนอง นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ รอง ผวจ.สมุทรปราการ เป็นผวจ.เลย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รอง ผวจ.หนองคาย เป็น ผวจ.สมุทรสงคราม นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รอง ผวจ.สมุทรสงคราม เป็น ผวจ.สมุทรสงคราม นายสุเมธ ธีรนิติ รอง ผวจ.เพชรบูรณ์ เป็น ผวจ.สิงห์บุรี ว่าที่ พ.ต.อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็น ผวจ.อำนาจเจริญ และนายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รอง ผวจ.ลำปาง เป็น ผวจ.อุตรดิตถ์

กห.-กษ.จับมือพัฒนาภาคเกษตร

ช่วงบ่าย ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกตกลงความร่วมมือ เรื่องการยกระดับ การพัฒนาภาคเกษตร ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กับกระทรวงกลาโหม (กห.) มีนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรฯ และนายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรฯร่วมพิธี โดยนายสุทินกล่าวว่า กระทรวงกลาโหม มีศักยภาพช่วยเหลือได้ทุกกระทรวง เรามีบุคลากรเยอะ มีหน่วยทหารพัฒนาที่จะช่วยพัฒนาได้ทั้งแหล่งน้ำ ราคาสินค้าเกษตร เรามีบุคลากรมากช่วยซื้อผลิตภัณฑ์การเกษตรได้ หรือแม้แต่ปัญหาหมูเถื่อนสนับสนุนได้

ดีอีเอสเร่งถอนรากถอนโคนแก๊งคอลฯ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดีอีเอส กล่าวถึงความคืบหน้าการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า มีมาตรการรับมือไว้แล้วคือ 1.ศูนย์ฮอตไลน์ 1441 2.บังคับใช้ พ.ร.บ.การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 3. เชิญเครือข่ายมือถือค่ายใหญ่มาพูดคุยเรื่องการใช้ซิมม้ากระทำความผิด 4.หารือคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ผู้ถือซิมเกิน 5 ซิมต้องลงทะเบียน ส่วนการขยายผลจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมืองเล้าก์ก่าย ผบช.ก.ในฐานะประธานอนุกรรมการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สืบประวัติและดูพฤติกรรมอยู่ หลายคนที่ออกมาจากเมืองเล้าก์ก่ายโดนดำเนินคดีต่อดีอีเอสอาจต้องแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษ คือ 1.พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2.พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และ 3.พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

“อุิ๊งอิ๊ง” แอ่วเชียงใหม่เดินตลาดแม่ข่า

เมื่อเวลา 18.30 น. ที่ จ.เชียงใหม่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) สวมชุดพื้นเมือง เดินตลาดคลองแม่ข่า เขตเทศบาลนครเชียงใหม่  เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน จ.เชียงใหม่ เพราะสะท้อนวิถีชีวิตชาวล้านนาที่มีอัตลักษณ์ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ โดยมีนายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช นายทะเบียนสมาชิกพรรค พท.ในฐานะที่ปรึกษา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม อดีต สส.เชียงใหม่ ในฐานะรองเลขาธิการนายกฯร่วมเดินด้วย ระหว่างทางมีประชาชนเข้ามาขอถ่ายภาพและเซลฟี่ด้วย ภายหลังจากเดินตลาดแม่ข่า น.ส.แพทองธาร ร่วมพิธีลอยกระทงและชมการประกวดขบวนกระทงใหญ่ชิงถ้วยพระราชทานฯในงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2566 ที่สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ ร่วมกับนายกฯที่เดินทางมาตรวจราชการ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 28-29 พ.ย.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่