นายกฯประกาศทวงคืนศักดิ์ศรีไทยบนเวทีโลก พบทูตไทย-กงสุลใหญ่-ผู้ช่วยทูตพาณิชย์จากทั่วโลก เร่งผลักดันการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก ลั่นถ้า พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านผ่านสภามาได้ ถือว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตมีความชอบธรรม เผยไม่กี่วัน ก.ม.กู้เงินถึงมือกฤษฎีกา ย้ำไทม์ไลน์ยังเป็นเดือน พ.ค. ยืนยันไม่เคยก้าวก่ายโยกย้าย ผกก. “อุ๊งอิ๊ง” เปิดภาพ “เศรษฐา” ร่วมเบิร์ธเดย์ครบ 67 ปี “คุณหญิงอ้อ” เลี่ยงตอบปม “ตั๋วเพื่อไทย” “เสรีพิศุทธ์” ไล่บี้โชว์สปิริตผู้นำ ลาออกแสดงความรับผิดชอบ “วิโรจน์” แกะรอย ผกก.หน้าใหม่ โยงใยถึงคนถือตั๋ว “โรม” จ่อเรียกเข้าชี้แจง กมธ.ความมั่นคง ปชป.ท้ากล้าพูดก็ต้องกล้ารับ สว.เหน็บทำปืนลั่นใส่ สส.พวกเดียวกัน ยุคนเสียประโยชน์ลุกขึ้นสู้

จากกรณีที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ยอมรับว่าการจัดทำร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทยังไม่เสร็จ ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ยืนยันว่าอีกไม่กี่วันจะพิจารณาเสร็จ ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาต่อไป พร้อมระบุว่าไทม์ไลน์การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ยังคงเป็นช่วงเดือน พ.ค.ตามเดิม

นายกฯคืนศักดิ์ศรีไทยบนเวทีโลก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 พ.ย. ที่เพลนารีฮอลล์ 1-4 ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM หัวข้อ “FUTURE READY THAILAND เศรษฐกิจไทยในอนาคตแห่งความเปลี่ยนแปลง” ว่า รัฐบาลอยากเอาศักดิ์ศรีประเทศไทยคืนกลับสู่เวทีโลก เรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว มีพลเรือนเป็นนายกฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชน เหนือสิ่งอื่นใดมาตรการสนับสนุนต่างๆประเทศเราไม่ด้อยกว่าประเทศอื่น เป็นองค์กรที่แข็งแกร่ง ระหว่างที่เรากำลังคอยได้หว่านเมล็ดพืชออกไป ไม่ว่าจะเรื่องการลงทุน การยกระดับสู่อุตสาหกรรมไฮเทค สิ่งเหล่านี้ใช้เวลา บางอันใช้เวลาน้อย บางอันใช้เวลามาก ทราบกันดีว่าเศรษฐกิจไม่ดี แต่จะวิกฤติหรือไม่วิกฤติเป็นข้อถกเถียง คุยกับผู้ว่าการแบงก์ชาติอยู่ มั่นใจว่าทุกคนก็เห็นว่าเศรษฐกิจไม่ดีในช่วงนี้

...

ทุกฝ่ายเห็นชอบถือว่าชอบธรรม

นายเศรษฐากล่าวว่า นโยบายหลักของรัฐบาลต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เป็นความจำเป็นที่ต้องทำ และเป็นที่มาของดิจิทัลวอลเล็ต ต้องเข้าใจว่าทีแรกบอกไม่ต้องกู้ แต่รับฟังความคิดเห็นของหลายฝ่ายมา ทุกภาคส่วนนักวิชาการด้วย จะทำอย่างไรให้โปร่งใส ชอบธรรม ถูกหลักนิติรัฐ จึงเป็นที่มาในการตัดสินใจออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน ถ้า ครม.เห็นด้วย ครม.คือตัวแทนของ สส. และ สส.คือตัวแทนประชาชน แสดงว่าพี่น้องประชาชนเห็นด้วย และหากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นชอบ ถือว่าถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.ต้องผ่านสภาก็เป็นหน้าที่ของสภาต้องลงรายละเอียด ถ้ารัฐสภาผ่านความเห็นชอบก็ถือว่าเป็นนโยบายที่มีความชอบธรรม ผ่านการตรวจสอบของทุกภาคส่วน อาจช้าบ้างแต่ถือเป็นขั้นตอนที่ชอบธรรมโปร่งใสตรวจสอบได้ มีเรื่องที่ต้องทำอีกเยอะ เป็นความตั้งใจจริงของรัฐบาลที่จะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกคน ยินดีรับคำติชม รับคำแนะนำจากทุกคน

ผลักดันการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก

ต่อมาเวลา 10.30 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เข้าร่วมรับฟังการนำเสนอเรื่องประเทศเป้าหมายสำคัญสำหรับการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก โดยมีเอกอัครราชทูตไทย กงสุลใหญ่ไทย ผู้ช่วยทูตฝ่ายพาณิชย์ ผู้ช่วยทูตด้านการลงทุน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ก่อนประชุมนายกฯร่วมถ่ายรูปกับเอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ไทยจากทั่วโลกที่ได้เดินทางมาร่วมประชุมในครั้งนี้ จากนั้นเข้าร่วมรับฟังการนำเสนอ มีนายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เป็นผู้กล่าวรายงาน ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์นำเสนอกลยุทธ์ 7C : Common Goal ประกอบด้วย Customer-centric, Co-creation, Cooperation, Connectivity, Care และ Can do ขณะที่ผู้แทนจากบีโอไอได้นำเสนอยุทธศาสตร์ส่งเสริมลงทุนในไทย

ฝากอนาคตไว้กับทีมไทยแลนด์

นายเศรษฐากล่าวในงานว่า แม้การทำงานจะเจออุปสรรค แต่ถ้าเรามี Can Do Attitude และทำลายกำแพงได้ เชื่อว่าศักยภาพไทยจะนำมาเผยแพร่ในเวทีโลกได้แน่นอน อยากเห็นกระทรวงการต่างประเทศเป็นกระทรวงเกรดเอ ช่วยผลักดันและเอื้อให้การปฏิบัติหน้าที่ในเวทีโลกได้อย่างสมบูรณ์ อยากให้มีคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยเสริมสร้างศักยภาพการทำงาน การประชุมและรับฟังการนำเสนอในการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ ผู้ช่วยทูตฝ่ายพาณิชย์และฝ่ายส่งเสริมการลงทุน ช่วงเวลา 2 วันที่ผ่านมานี้ ทำให้มีความชัดเจนในนโยบายการทำงานร่วมมือกันในหลายภาคส่วน เพื่อนำศักยภาพของไทยไปสู่เวทีโลก ขอชื่นชมแนวทางการจัดประชุมร่วมกันของหน่วยงานที่ประกอบเป็นทีมไทยแลนด์นี้ และขอฝากอนาคตประเทศไทยไว้ในมือทุกคน

ไม่กี่วัน ก.ม.กู้เงินถึงมือกฤษฎีกา

นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงการพูดตอกย้ำความจำเป็นในการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า จริงๆแล้ว พ.ร.บ.กู้เงินเป็นเรื่องระหว่างที่เราเข้ามาบริหารประเทศ ได้พูดคุยหลายภาคส่วน และเป็นเรื่องที่หลายภาคส่วนเรียกร้องมา อยากให้ผ่านทุกขั้นตอน เมื่อถามว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งเบื้องต้นหรือไม่ว่าต้องใช้เวลาพิจารณาเท่าไหร่ นายกฯตอบว่า ยังไม่ได้คุยกัน แต่เคยย้ำไปครั้งนึงว่าขอให้ทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน เมื่อถามว่ารัฐบาลส่งเอกสารไปถึงมือกฤษฎีกาแล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่ทราบ ต้องถามนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ต้องมีขั้นตอนอีก เมื่อถามว่านายจุลพันธ์ระบุว่ายังไม่ได้ส่งเรื่องให้กฤษฎีกา จะทำให้ไทม์ไลน์ยืดออกไปหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า “คงอีกไม่กี่วัน คิดว่าเดี๋ยวก็คงจะส่งแล้ว” เมื่อถามย้ำว่าไทม์ไลน์ที่วางไว้ยังเป็นเดือน พ.ค.ใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า “ครับ ก็ยังอยู่ในไทม์ไลน์นี้”

ย้ำไม่เคยก้าวก่ายโยกย้าย ผกก.

นายเศรษฐายังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเชิญเข้าชี้แจงกรณีที่พูดในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) เรื่องการขอตำแหน่งโยกย้ายนายตำรวจระดับผู้กำกับว่า ได้ชี้แจงไปแล้วว่าจริงๆแล้วไม่ได้มีการก้าวก่าย ถ้ามีการเรียกมาก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบ.ตร. ระบุว่าสิ่งที่นายกฯให้สัมภาษณ์เท่ากับความผิดสำเร็จไปแล้ว และเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง นายเศรษฐายิ้มแต่ไม่ตอบคำถามก่อนจะพูดตัดบทว่า “ขอคำถามต่อไป”

จิบกาแฟรีแลกซ์หน้าตึกไทยฯ

ช่วงบ่ายที่ทำเนียบรัฐบาล หลังนายโทชิโอะ คุวาฮาระ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอนด้า สำนักงานใหญ่ ประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า นายเศรษฐาได้ลงจากตึกไทยคู่ฟ้ามานั่งที่บันไดสนามหญ้าตึกไทยคู่ฟ้า จิบกาแฟอเมริกาโนเย็นและหันมายิ้มโบกมือให้ผู้สื่อข่าวที่มายืนสังเกตการณ์ โดยนั่งอยู่ประมาณ 5 นาที ก่อนกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ทั้งนี้ นายกฯบอกกับทีมงานว่าขอออกมาสูดอากาศสักหน่อย เพราะมีประชุมหลายวงติดต่อกัน ก่อนจะกลับไปประชุมต่อเรื่องน้ำกับนายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ และบันทึกเทปอีก 4 รายการ

“อิ๊ง” เลี่ยงตอบปม “ตั๋วเพื่อไทย”

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เดินทางมาร่วมประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลกล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิดคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อายุครบ 66 ปี ว่า นายกฯแวะไปแป๊บเดียวเพียงแค่ 5 นาที เมื่อถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตีความอย่างไรกรณีที่นายเศรษฐาพูดกลางวงประชุม สส.พรรคถึงประเด็นการแต่งตั้งนายตำรวจในระดับผู้กำกับ น.ส.แพทองธารตอบว่า “อ่อ นายกฯได้ออกมาพูดแล้วนี่” ก่อนจะเดินขึ้นห้องประชุมตึกบัญชาการไปทันที

“เศรษฐา” ร่วมเบิร์ธเดย์ “หญิงอ้อ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสายวันที่ 23 พ.ย. น.ส.แพทองธารโพสต์ภาพที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เข้าอวยพรวันเกิดอายุครบ 67 ปี คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. มีการถ่ายภาพร่วมกับครอบครัวชินวัตร ทั้งนายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พร้อมระบุข้อความว่า “ขอบพระคุณท่านนายกฯ แวะมา happy birthday คุณหญิงค่า”

“บรู๊ค” อ้าง สส. แค่สะท้อนปัญหา

นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย และการประชุม สส.ทุกครั้งแม้นายกฯอยู่หรือไม่อยู่ จะมีการนำปัญหาในพื้นที่มาพูดคุยแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร เช่น เรื่องหนี้นอกระบบ มี สส.จากภาคอีสานหยิบยกเรื่องหัวปิงปอง (นายทุนทวงหนี้นอกระบบ) เก็บดอกรายวันกับชาวบ้าน จนมีการระดมความคิดให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจในพื้นที่กับนายอำเภอเรียกเจ้าหนี้ ลูกหนี้มาคุยมาไกล่เกลี่ยกัน รวมถึงปัญหายาเสพติด พนันออนไลน์ มีการยกประเด็นกันว่าผู้กำกับในพื้นที่หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจรู้เห็นกับการกระทำผิดกฎหมายเหล่านี้ นายกฯก็รับเรื่องไปว่าจะส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าผู้กำกับหรือเจ้าหน้าที่คนไหนเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมายบ้าง ถ้ามีก็ให้ดำเนินการสอบสวนหรือโยกย้ายก็ว่ากันไป นายกฯรับเรื่องนี้ไป จนการประชุม สส.วันที่ 21 พ.ย. นายกฯกลับมาแจ้งว่าส่งเรื่องไปหมดแล้ว ส่วนจะสมหวังหรือผิดหวังท่านไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้ เพราะนายกฯมีอำนาจเพียงเสนอชื่อ ผบ.ตร.คนเดียวเท่านั้นเอง สิ่งที่นายกฯพูดมาไม่ใช่ตัวบุคคลเป็นเรื่องของเนื้อหา เรื่องทั้งหมดเป็นอย่างนี้ไม่ใช่การเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โต้นายกฯไม่ได้หลุดปากล้วงลูก

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐาหลุดพูดกับ สส.พรรคเพื่อไทย จนถูกวิพากษ์วิจารณ์แทรกแซงการโยกย้ายนายตำรวจว่าไม่ใช่เรื่องหลุด เป็นดำริของนายกฯตั้งแต่ต้นที่จะร่วมประชุมรับฟังปัญหาที่ประชาชนสะท้อนมายัง สส. เป็นการทำงานที่ใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลกับ สส. หลายเรื่องที่ประชาชนคาดหวังรอคอยจะถูกสะท้อนผ่าน สส. เช่น เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต และการแก้หนี้นอกระบบในระบบอย่างครบวงจรที่รัฐบาลกำลังจะแถลง ต้องทำงานร่วมกับฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงมีการหยิบยกเรื่องนี้มาคุยกัน เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่ต้องการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ซึ่งต้องดูว่ามีรายได้มาจากไหน สส.เพียงฝากความหวังไว้กับรัฐบาลที่จะแก้ปัญหาของประชาชน

“เสรีพิศุทธ์” บี้โชว์สปิริตลาออก

วันเดียวกัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ถึงท่านนายกฯที่เผลอพูดเรื่องการแต่งตั้งผู้กำกับการ ที่บรรดา สส.พรรคเพื่อไทยขอการสนับสนุน มีทั้งสมหวังและผิดหวังก็คงจริงเพราะจะให้ได้ทุกตำแหน่งคงเป็นไปไม่ได้ ตำแหน่งมีจำกัด ท่านเพิ่งเข้าสู่วงการเมืองคงอ่านรัฐธรรมนูญยังไม่จบ โดยเฉพาะมาตรา 186 วรรคสอง รัฐมนตรีต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการใด ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่รัฐเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่น หรือพรรคการเมืองโดยมิชอบ คำพูดของท่านเปรียบเสมือนใบเสร็จรับเงินที่ออกให้ประชาชนไปแล้ว คงไม่อาจปฏิเสธเป็นอย่างอื่นได้ หนทางเดียวคือการแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก ให้มีกระบวนการสรรหานายกฯตามรัฐธรรมนูญกันใหม่ อย่างไรประวัติศาสตร์ก็จารึกไว้แล้วว่าท่านคือนายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย อย่าไปเสียดาย วาสนามีเท่านี้ก็ต้องเท่านี้ มิฉะนั้นต้องอับอายไปทั่วโลก สู้ลาออกเดินเชิดหน้าอย่างสง่าผ่าเผยไม่ดีกว่าหรือ คดีอาจไม่มีก็ได้ เชื่อผมเถอะ”

“วิโรจน์” แกะรอย ผกก.หน้าใหม่

ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับผู้กำกับว่า ที่บอกว่ามีคนขอมาเยอะ ตกลงแล้วคนที่ขอเป็นคนหรือเป็นสัมภเวสี ท่านพูดในที่ประชุม สส.พรรคเองใช่หรือไม่ เปิดสมัยประชุมมาคงต้องตั้งกระทู้ถามว่า ที่บอกมีคนขอมาเยอะเหลือเกิน คือใคร ต้องยอมรับกันตรงๆอย่าบิดพลิ้ว หลุดปากพูดแล้วอีกวันมาแก้ตัว ควรยอมรับสภาพฟังแล้วอยากเอายาไปทาสีข้างให้คงอักเสบพอสมควร ไหนๆสารภาพมา 80% แล้ว อีก 20% ก็พูดมาเถอะว่า สส.ที่มาฝากผู้กำกับใหม่กับท่านคือใคร ฝากกี่คน จริงๆไม่ได้ยากเกินวิสัยเดี๋ยวไปหาทางโยงจนได้เครือข่ายความสัมพันธ์โยงใย เครือข่ายกับ สส.คนไหน แล้วค่อยไปถามนายกฯเรียงคนว่าคนนี้อยู่ในบัญชีฝากหรือไม่ สมหวังหรือผิดหวัง จริงๆคนผิดต่อสังคมเกิดขึ้นแล้ว แต่ต้องหาหลักฐานเพิ่ม ต้องแสวงหาข้อเท็จจริง เดี๋ยวก็รู้เพราะผู้กำกับใหม่มีไม่กี่คน โดยเฉพาะพื้นที่ สส.พรรค พท.ชนะ

แซะผู้นำโดนคุณไสยพูดไปยิ้มไป

เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะทำให้พ้นสภาพจากการเป็นนายกฯได้หรือไม่ นายวิโรจน์ตอบว่า เรื่องนี้ต้องถูกตั้งคำถาม แต่คำสารภาพของผู้ต้องหาไม่ใช่หลักฐาน จะทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่าต่อไปนี้จะเชื่อคำพูดอะไรจากนายกฯได้อีก ส่วนกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เรียกร้องให้ลาออกนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่การตัดสินใจอยู่ที่นายกฯ คนที่ชื่อเศรษฐาพูดตอนหาเสียงว่าจะขจัดเส้นสายให้หมดไป วันนี้เป็นนายกฯจะมาบอกว่าถูกบังคับ หรือว่าโดนคุณไสยหรือโดนของพูดไปยิ้มไป หวังว่านายกฯที่ยืนยันตัวเองว่าอยากยืนอยู่ในสังคมที่ถูกต้อง และทำธุรกิจมาอย่างถูกต้องตลอด จะไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้

“โรม” จ่อเรียกชี้แจง กมธ.มั่นคง

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาฯ แถลงว่า ที่ประชุมมีมติให้นำเรื่องตั๋วตำรวจของนายกฯ เข้าหารือกันในที่ประชุม กมธ.วันที่ 7 ธ.ค. โดยให้เรียกนายกฯมาชี้แจงประเด็นดังกล่าว หวังว่าจะได้รับความร่วมมือ นายกฯจะได้ใช้พื้นที่ กมธ.อธิบายว่าตกลงแล้วนายกฯ หรือ สส.ที่สังกัดในพรรคเดียวกัน เข้าไปเกี่ยวข้องกับตั๋วตำรวจหรือไม่ นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติให้ส่งหนังสือถึงรัฐบาล ให้เตรียมรับมือสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมา อาจส่งผลให้คลื่นผู้อพยพเข้ามาในไทย คาดว่าจะมีประมาณ 3 แสนคน กมธ.จะเดินทางไปหารือในประเด็นความมั่นคงร่วมกับกองทัพบก ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ด้วย

ปชป.แนะกล้าพูดก็ต้องกล้ารับ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าชัดเจน ความหมายที่นายเศรษฐาพูดในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย สาระสำคัญหมายความว่าอย่างไร มีการวิ่งเต้นฝากแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับผู้กำกับ (ผกก.) จริงหรือไม่ ทั้งภาพและเสียงเป็นคำตอบทั้งหมดว่าใครตำแหน่งไหนเป็นคนฝาก การแก้ตัวมั่วๆ น้ำขุ่นๆ ประชาชนดูออก นายกฯยังมีอีกตำแหน่งคือเป็นประธาน ก.ตร. ที่บอกว่าพูดเรื่องความไม่ใช่เรื่องคน แต่ความจริงคือคนพูดเรื่องความ คนพูดคือนายกฯที่มีหน้าที่ต้องเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ส่วนความคือมีคนฝากโยกย้ายแต่งตั้งผู้กำกับ และความตามรัฐธรรมนูญ คือห้าม สส.ก้าวก่ายแทรกแซงแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 185 (3) และมาตรา 186 ระบุไว้ชัดว่ารัฐมนตรีต้องไม่ใช้สถานะ หรือตำแหน่งไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมก้าวก่ายแทรกแซงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือพรรคการเมือง กรณีนี้ย่อมมีผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งนายกฯแน่นอน ควรตัดสินใจรับผิดชอบคำพูด รับผิดชอบทางการเมือง เป็นผู้นำกล้าพูดก็ต้องกล้ายอมรับ อย่าให้ใครมาตำหนิได้ว่าตัวใหญ่แต่ใจเล็ก

สว.เหน็บนายกฯทำปืนลั่นใส่ สส.

ขณะที่นายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ผลพวงจากคำพูดนายเศรษฐา พูดเรื่องฝากย้ายตำรวจเท่ากับทำปืนลั่นใส่ สส.กลางวงที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ส่งผลต่อความเสี่ยงที่จะถูกร้องต่อป.ป.ช. หรือศาล กล่าวหาว่า “ใช้ตำแหน่งหน้าที่และอำนาจ กระทำการก้าวก่ายแทรงแซงในการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ อันเป็นขัดรัฐธรรมนูญ” โดย สส.ที่ฝากย้ายตำรวจน่าจะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 185 (3) ส่วนนายกฯเข้าข่ายถูกร้องขัดมาตรา 186 แต่งานนี้จับมือใครดมยากหน่อย เพราะสายสืบต้องควานหาพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นตั๋วฝาก จดหมายน้อย หรือหลักฐานแชตไลน์ คลิปวิดีโอ หรือคลิปเสียง ฯลฯ ทำปืน ลั่นดังขนาดนี้ท่าทางฝ่ายกลบเกลื่อนทำลายหลักฐานคงทำงานหนัก เคลียร์เรียบร้อยแล้ว ยากจะหาใบเสร็จเจอ เว้นแต่ตำรวจที่โดนย้ายถูกแทรกแซงกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรม จะลุกขึ้นมาต่อสู้ รวบรวมหลักฐานเป็นพยานดำเนินการในคดีให้ถึงที่สุด อีกหนึ่งบททดสอบ พ.ร.บ.ปฏิรูปตำรวจสร้างความเป็นธรรมให้ข้าราชการตำรวจ คืนความยุติธรรมให้สังคมไทย

“ศรีสุวรรณ” จ่อยื่น ป.ป.ช.สอย

นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน กล่าวว่า วันที่ 24 พ.ย.นี้ จะนำหลักฐานยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ หลุดปากพูดในทำนองมี สส.วิ่งเต้นฝากฝังการโยกย้ายตำรวจระดับ ผกก. ถ้อยคำที่นายกฯพูดอาจบ่งบอกถึงพฤติการณ์ใช้อำนาจในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) สามารถเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในการแต่งตั้งนายตำรวจระดับ ผกก.ได้ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ผู้อื่น หรือพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ถือเป็นข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 185 (3) และมาตรา 186 วรรคสอง เข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง และให้ไต่สวนว่านายกฯฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่

“เล็ก” ปัดผัวจัดเด็กพัวพันสีเทา

อีกเรื่อง น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน หรือเล็ก สส.จันทบุรี พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีถูกเพจ“วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” ระบุว่ามีผู้ช่วยสส.รับงานเอนเตอร์เทนจัดหาเด็กชงเหล้า ปาร์ตี้ชายและหญิงในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออก และแต่งตั้งสามีตัวเองเป็นผู้ช่วย สส.ว่า การแต่งตั้งสามีเป็นผู้ช่วย สส.จริง มีหน้าที่ชัดเจนให้ช่วยขับรถไปประชุมสภาฯ และลงพื้นที่ รวมถึงทำงานด้านสื่อ ถ่ายรูปลงในเพจ ทำกราฟิก ทำคลิปลงในเพจ และประสานงานในพื้นที่ ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ และธุรกิจสีเทาอย่างที่บางเพจพยายามโยงแน่นอน

“วิโรจน์” ถาม ก.ม. PDPA มีไว้ทำไม

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้เจ้าตัวชี้แจงได้ เคยเจอผู้ช่วยคนนี้ในพื้นที่อยู่ตลอดเวลา เคยมีภาพถ่ายทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ภาพถ่ายตอนสังสรรค์ ต้องฟังทั้ง 2 ฝ่ายด้วย สิ่งที่น่ากังวลคือพฤติกรรมที่เป็นสตอล์กเกอร์ (Stalker) คอยสอดแนม ติดตาม แอบถ่าย ละเมิดความเป็นส่วนตัว เอาภาพถ่ายบางส่วนมาเขียนข่าวในทางร้าย ตอนนี้การกล่าวหามีการพ่วงไปถึงประชาชนปกติ จากเพจที่ไม่มีตัวตน แบบนี้กฎหมาย PDPA จะมีไว้ทำไม วิงวอนว่าถ้าใครที่สงสัยพรรค ก.ก.พร้อมเปิดเผยอยู่แล้ว ร้องเรียนมาได้เราพร้อมตรวจสอบ ให้เกียรติทุกคน

“เศรษฐา” ลุยตรวจงานสระแก้ว

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ
จ.สระแก้ว ในวันที่ 25 พ.ย. เพื่อติดตามงานและตรวจเยี่ยมงาน 3 จุดที่ อ.อรัญประเทศ 1.ติดตามคืบหน้าพื้นที่ก่อสร้างอาคาร CIQ ของกรมศุลกากร 2.ตรวจเยี่ยมจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก และ 3.ตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ร่วมคณะ สำหรับอาคาร CIQ ของกรมศุลกากรจะช่วยอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าข้ามแดน และลดความแออัด รองรับการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) อย่างเป็นทางการ ส่วนจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก หรืออีกชื่อคือด่านอรัญประเทศ เป็นช่องทางการค้าหลักที่ใหญ่ที่สุดของไทย-กัมพูชา เป็นที่ตั้งตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดนภาคตะวันออกใหญ่ที่สุดในไทย

พท.ตีปี๊บอวยนายกฯแก้หนี้ ปชช.

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายกฯเตรียมแถลงแก้หนี้ครบวงจรว่า นายกฯทำงานอย่างหนักตามยุทธศาสตร์ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส และมีผลสัมฤทธิ์ของนโยบายต่างๆมากมาย ทั้งลดค่าไฟฟ้า ลดค่าน้ำมัน รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในห้วงเวลา 60 วัน เดินทางไปเยือนหลายประเทศ เข้าร่วมการประชุมสำคัญของโลกทุกเวที การแก้หนี้สินที่จะแถลงวันที่ 12 ธ.ค.เป็นเรื่องใหญ่ เป็นอุปสรรคสำคัญกับชีวิตประชาชน มาตรการนี้ไม่ใช่การแก้แบบปะผุ ลูบหน้าปะจมูก แต่จะแก้ทั้งระบบแบบครบวงจรทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันการเงิน ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการร่วมกัน ควบคู่กับการส่งเสริมให้มีการฝึกทักษะวิชาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชนยืนด้วยตัวเองอย่างมั่นคง

ปลัด มท.เดินเครื่องช่วยลูกหนี้

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยดำเนินการเชิงรุกบูรณาการความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับพื้นที่แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและการทวงถามหนี้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย สั่งการไปยัง ผวจ.ทุกจังหวัด และ นอภ.ทุกอำเภอ เร่งตั้ง “ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ” ให้ ผวจ.เป็น ผอ.ศูนย์ และรายงานทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือนตามที่เห็นสมควร และประชาสัมพันธ์ให้ลูกหนี้ลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. ที่เว็บไซต์ https://debt.dopa.go.th  หรือไปลงทะเบียนในพื้นที่ตนเอง ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขต กทม.ได้ทุกแห่ง หรือผ่านช่องทางสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังให้อำเภอกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้านเฝ้าระวังสอดส่องหากพบนายทุนปล่อยเงินกู้ข่มขู่หรือใช้ความรุนแรงทวงหนี้ ให้ชุดปฏิบัติการพิเศษประสานการปฏิบัติกับทุกหน่วยงานในพื้นที่ปราบปรามผู้กระทำผิดอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเป็นธรรมตามกฎหมาย

“สุทิน” รอ สส.ชี้ขาดซื้อเรือดำน้ำ

ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดการประชุมผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กลุ่มประเทศอาเซียน ครั้งที่ 24 (ASEAN Chiefs of Armies Multilateral Meeting-24th ACAMM) พร้อมให้สัมภาษณ์กรณีกองทัพเรือ (ทร.) ทำหนังสือสอบถามทางออกปัญหาเครื่องยนต์เรือดำน้ำที่จัดซื้อจากจีนต่อสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ว่า คิดว่า ทร.คงกังวลว่าทำอะไรจะถูกต้องที่สุดมากกว่า แม้ได้เรือดำน้ำมาต้องถามว่าได้มาถูกหรือไม่ ถ้าไม่ได้เรือดำน้ำไปเอาอย่างอื่นทำได้หรือไม่ มองว่า ทร.ต้องเดินให้รอบคอบ ทร.อยากได้เรือดำน้ำ แต่เหตุสุดวิสัยเมื่อไม่ได้ ถ้าวันนี้ได้สเปกเดิมเอาเลย แต่ไม่หนักใจเพราะทำโดยสุจริต ถ้าคิดไม่สุจริตอยากมีโน่นมีนี่ได้นั่นได้นี่อันนั้นต้องคิดหนัก มีกระบวนการขั้นตอนอยู่เดินตามนั้นก็จบ ยอมรับว่าจีนไม่อยากให้เปลี่ยนเพราะเสี่ยงขาดทุน แต่ทุกอย่างต้องจำนนจีนต้องยอมรับว่าเขาผิดพลาดหาเครื่องยนต์มาไม่ได้ และไม่อยากโทษว่าใครบกพร่อง รอให้สำนักงานอัยการสูงสุดตอบมาจะเดินหน้าได้แบบมั่นใจทุกฝ่าย

เย้ย ก.ก.แค่โชว์พาวดึงเข้าสภา

นายสุทินกล่าวว่า ที่พรรคก้าวไกลอยากให้รัฐสภาหาทางออกเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำ เขาคิดแบบนั้นเพราะเป็นฝ่ายค้านอะไรก็อยากลากเข้าสภาฯ ถ้าไม่เข้าสภาฯไม่ได้โชว์ เขาอยากมีส่วนร่วมเสนอแนะเป็นเรื่องธรรมดา มองในแง่บวกว่าเป็นกุศลและเจตนาที่ดี แต่เราเป็นฝ่ายบริหารต้องดูว่าเข้ามาตรา 178 ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร บอกว่าตนอ่านกฎหมายรัฐธรรมนูญไม่แตก อ้างเป็นสัญญาระหว่างประเทศต้องเข้าสภาฯ ถ้าบอกว่าต้องนำเข้าสภาฯต้องเข้าตั้งแต่ทำครั้งแรกรัฐบาลก่อน ตอนนั้นนายวิโรจน์ก็เป็นฝ่ายค้านกับตน ทำไมไม่พูดไม่ท้วงติง

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่