กลายเป็นประเด็นฮือฮา แนวต้าน ฝ่ายค้านคึกคักทันที

วลีของ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย

“ผู้กำกับใหม่ ซึ่งผมมั่นใจว่าคงมีผู้ผิดหวังมากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ที่ขอตำแหน่งไป เพราะรู้สึกมันเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่ได้สมหวัง”

พูดแบบนี้ก็ทำให้เข้าใจตีความกันไปว่า เป็นเรื่องของการวิ่งเต้นเส้นสาย

ฝ่ายค้านพาเหรดกันออกมาทั้งประชาธิปัตย์ ก้าวไกล ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 ปมก้าวก่ายแทรกแซง แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ มาขู่เอาผิด “นายกฯนิด”

ตีปี๊บขยายผล หยิบเอาไปซักฟอกในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ

แน่นอนว่าตัวตึงค่ายส้ม มือแฉ “ตั๋วช้าง” วงการสีกากี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ไม่พลาดจี้ถามหาความรับผิดชอบนายกฯ

ลุยพิสูจน์ว่ามี “ตั๋วเพื่อไทย” จริงหรือไม่ สส.วิ่งเต้นขอตำแหน่งตำรวจระดับสูงใช่หรือเปล่า

เช่นเดียวกับตัวจี๊ด นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาขยี้ หลอกล่อให้นายกฯตอบสังคม มีใครบ้าง สส.คนไหนที่มาขอตำแหน่งผู้กำกับใหม่

...

คล้อยหลังวันเดียว “นายกฯนิด” รู้ว่าพลาดหลุดพูดไป ออกมายืนยันไม่มีอำนาจ ไม่เคยแทรกแซงก้าวก่ายแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ เพราะเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“สส.ไม่ได้มาขอ เราพูดเรื่องความ ไม่ใช่พูดเรื่องคน ความนี่คือ มีปัญหาในพื้นที่ อาจมีความไม่สบายใจกับทางเจ้าหน้าที่ เราพูดตรงนี้มากกว่า โดยเอาเรื่องความเป็นหลัก”

“ตั๋วเพื่อไทย” มีมั้ยไม่แน่ใจ หลักฐานคงไม่มี หายาก ตามที่ “รังสิมันต์” ยอมรับเองว่าไม่สามารถหาเอกสารทางราชการได้ เพราะใช้การพูดคุยทางโทรศัพท์ฝากกันได้

สังคมไทยกับระบบอุปถัมภ์ ช่วยเหลือเกื้อกูลแยกกันไม่ออก เรื่องฝากฝังเพื่อนสนิท มิตรสหาย คนใกล้ตัว มีทุกวงการ สำคัญคือจะลามปามเลยเถิดจนเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือเปล่าเท่านั้น

แต่สำหรับนายกฯเศรษฐายืนยัน “ตั๋วนิด” ไม่มีแน่นอน

แม้นายกฯจะพูดเยอะ พูดยาวเรื่องนี้ในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย แต่ก็ไม่มีที่บอกว่าไปจัดการให้แล้ว ดำเนินการเองแล้ว

เจตนาพูดเฮฮาเพื่อสร้างความใกล้ชิด เพราะแม้จะเป็นนายกฯ แต่ก็ยังใหม่กับการเมืองเป็นสมาชิกใหม่พรรคเพื่อไทย ต้องนอบน้อมเคารพรุ่นพี่ ต้องอาศัยพึ่งพากันและกันอยู่ตลอด

เรื่องนี้ทำให้นึกถึงดินเนอร์หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ที่ “นายกฯนิด” ออกมาเผยเองว่า “พี่อ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ได้เตือนว่าพูดตรงเกินไป

ถึงตอนนี้คงรู้แล้วว่าพูดเยอะ พูดตรง ไม่ดีเสมอไปในแวดวงการเมือง ยิ่งมีตำแหน่งเป็นถึงนายกรัฐมนตรี สปอตไลต์ฉายส่องทุกทิศทาง หน่วยซุ่มโป่งเพียบ

ต้องประหยัดถ้อยคำ นำไปพูดในสิ่งที่จำเป็นต้องพูดดีกว่า

อย่างเรื่อง “ดิจิทัลวอลเล็ต” ของรัฐบาลที่ยังเป็นประเด็นร้อน สังคมและประชาชนสนใจติดตาม

ต้องการรู้ความคืบหน้า ความเคลื่อนไหว เงินหมื่นจากรัฐบาลจะได้มั้ย ถึงมือตอนไหน

รัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจประเทศแย่ “นายกฯนิด” ชี้เป็นวิกฤติซบเซา ซึมยาวมานานหลายปี ต้องรีบกระตุ้น คนก็เข้าใจกันไปว่าตอนนี้เรื่องถึงมือคณะกรรมการกฤษฎีกา ในฐานะที่ปรึกษากฎหมายรัฐบาลแล้ว

แต่ปรากฏว่านายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาฯกฤษฎีกา ออกมาแฉกระทรวงการคลังยังไม่ได้ส่งหนังสือมาสอบถามเรื่องตีความกฎหมาย เกี่ยวกับ พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ที่จะใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

โวยวายถูกด่าฟรี เพราะคนเข้าใจว่ากฤษฎีกาทำงานช้า

พร้อมแจงขั้นตอนก่อนอื่นต้องถามว่ากู้เงินได้หรือไม่ แล้วค่อยยกร่างกลับมาให้กฤษฎีกาตรวจทานอีกครั้ง

ฟังแล้วหงุดหงิด “นายกฯนิด” ขอตอกกลับนิ่มๆ “ผมก็ไม่เห็นใครด่าเลขาฯกฤษฎีกานะ”

อย่างไรก็ตาม นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเรื่องใหญ่ กระบวนการเยอะ ประชาชนไม่น้อยตั้งความหวังเฝ้ารอด้วยใจจดจ่อ ดังนั้นจึงควรชี้แจงขั้นตอน ไทม์ไลน์ และความคืบหน้าเป็นระยะ

นโยบายเรือธงหวังกู้ศรัทธา ต้องชัดเจน จริงจัง จริงใจ

ปล่อยให้สงสัย เคลียร์ไม่ชัด เลยทำให้เจอข่าวลือ ข่าวลบ ด้อยค่าทุกที.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม