หลังปีใหม่นายกฯเศรษฐาขอดูฤกษ์ก่อนนอนค้างที่ห้องพักตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ปิดจ๊อบเอเปกปลื้มบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกแห่ลงทุน ปลายเดือน พ.ย. ผู้บริหารระดับสูงเทสลาบินมาดูทำเลสร้างโรงงาน เทียบเชิญ “โจ ไบเดน” เยือนไทยปี 67 ย้ำกลางวงสัมมนาหอการค้า เศรษฐกิจวิกฤติต้องกอบกู้ดันดิจิทัลวอลเล็ต “อนุทิน” ขยับพร้อมสนับสนุนนโยบายเด็ด “อดิศร” มั่นใจเงินกู้ 5 แสนล้าน ผ่านสภาฯ-วุฒิสภาฉลุย ไม่หวั่นมือดียื่นศาล รธน.ชี้ขาดร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ “ชนินทร์” แง้มที่มา ส.ส.ร. 2 สายจากเลือกตั้ง-กลุ่มอาชีพ “อภิสิทธิ์” ขอบายชิงหัวหน้า ปชป.
ทันทีที่บินกลับถึงประเทศไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ฟิตลุยงานต่อขอเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ตกลางงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ สุดปลื้มภารกิจประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30 ที่สหรัฐอเมริกา พร้อมส่งเทียบเชิญประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เยือนไทยอย่างเป็นทางการปี 67
นายกฯปลื้มสรุปภารกิจเวทีเอเปก
เมื่อเวลา 07.40 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นภารกิจร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30 ที่นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา จากนั้นเดินทางไปยังศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กทม. เพื่อกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 ในโอกาสครอบรอบ 90 ปี หอการค้าไทย โดยทันทีที่มาถึงนายกฯได้ให้สัมภาษณ์สรุปภาพรวมประชุมเอเปกและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องพบปะหารือผู้นำประเทศต่างๆ และผู้บริหารบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ อาทิ Tesla Walmart Citi TikTok Meta Microsoft Google AWS Tencent และ Alibaba ว่า บริษัท Microsoft และ Google ได้ลงนามเอ็มโอยูที่จะลงทุน ไม่ใช่บริษัทละแสนล้านบาท แต่เป็นบริษัทละหลายแสนล้าน โดยระยะเวลาลงทุน 1-10 ปี อยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯเป็นอย่างน้อย รวมแล้วเป็นหลายๆแสนล้านบาทอย่างบริษัท Tesla ในวันที่ 28 พ.ย. ผู้บริหารระดับสูงบริษัท Tesla จะเดินทางมาดูทำเลสร้างโรงงานมีเสนอทำเล 3 แห่ง ต้องการพื้นที่หลายพันไร่ โดยตนเรียนเชิญดูซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ชวนไป จ.เชียงใหม่ ในงานเทศกาลประเพณียี่เป็ง ที่เป็นงานใหญ่ซอฟต์พาวเวอร์ถือว่าการพูดคุยกับบริษัทเทสลาประสบความสำเร็จอย่างสูง
...
หนุนญี่ปุ่นใช้ไทยฐานผลิตรถยนต์อีวี
นายเศรษฐากล่าวถึงการพบปะหารือผู้นำประเทศต่างๆว่า ได้พบหารือนายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกฯญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดตลอด 50-60 ปี มีความสัมพันธ์ที่ดีตั้งแต่ระดับราชวงศ์ลงมา ปัจจุบันญี่ปุ่นอาจช้าไปนิดเกี่ยวกับรถยนต์อีวี ทั้งที่ฐานผลิตรถยนต์อีวีของญี่ปุ่นอยู่ในไทยเยอะมาก ก่อนไปตนได้พูดคุยกับประธานบริษัทโตโยต้าประเทศไทย ว่าสนับสนุนให้อยู่ต่อไปในประเทศไทย ยืนยันกับนายกฯญี่ปุ่นไปว่าประเทศไทยและคนไทยไม่เคยลืมบุญคุณ เพราะญี่ปุ่นมาลงทุนเยอะ ก่อนไปประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ที่โตเกียว วันที่ 15-18 ธ.ค.66 จะพบปะพูดคุยกับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่อยู่เมืองไทย เพื่อให้ได้ทางออกที่ชัดเจน และเห็นพ้องต้องกันยกเว้นวีซ่านักธุรกิจ โดยเดือน ธ.ค.จะได้เจอกันและเป็นเกียรติจะได้เข้าเฝ้าฯจักรพรรดิของญี่ปุ่น
เทียบเชิญ “โจ ไบเดน” เยือนไทยปี 67
นายเศรษฐากล่าวว่า ยังได้กล่าวถึงการหารือกับนางจีนา เอ็ม.เรมอนโด รมว.พาณิชย์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมาจากภาคธุรกิจเหมือนตน มองตาก็รู้ใจ ท่านบอกว่าเข้าใจและติดตามการทำงานของรัฐบาลนี้ ซึ่งท่านดีใจและเห็นด้วยกับการผลักดันการค้าการลงทุนของประเทศไทย จะโทรศัพท์หาอีลอน มัสก์ ซีอีโอ บริษัทเทสลา ให้จะผลักอุตสาหกรรมที่มีค่าตอบแทนในอนาคตให้หลายบริษัทมาลงทุน ถือเป็นรัฐมนตรีที่น่ารักมาก อนาคตไกล เป็นสตรีที่ทรงพลัง มีเอเนอร์จี เยอะ และให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวมาด้วย ต่อไปนี้พูดคุยติดต่อกันโดยตรง ทำให้การร่วมมือการค้าการลงทุนดีขึ้น ตนได้ยืนยันกับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯว่า ไทยพร้อมเป็นทางเลือกให้บริษัทใหญ่ๆของสหรัฐฯมาตั้งฐานการผลิต และได้เชิญนายโจ ไบเดน เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการปี 67 เพราะไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐฯมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ 10 ปีแล้ว
ขอโทษแจงสอนลูกพูดตรงไปตรงมา
นายเศรษฐากล่าวว่า ได้มีโอกาสพบปะชุมชนไทยในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มีปัญหาการเข้าเมือง เรื่องวีซ่าได้ฝากเอกอัครราชทูตไทยและกงสุลประจำลอสแอนเจลิสไปแล้ว และได้บอกว่าในฐานะผู้นำ รัฐบาลมีความตั้งใจทำให้ประเทศไทยมีการลงทุนที่สูงขึ้น ฉะนั้น ผู้ที่อยู่ในประเทศไทยต้องตื่นตัว และให้คนที่ปิดประตูว่าจะไม่กลับประเทศไทย ขอให้รู้ว่าอีก 3-5 ปีข้างหน้า ถ้าพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้น ก็มีโอกาสที่ทุกคนจะกลับมาช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้ประเทศ เป็นที่มาที่ไปในโซเชียลมีเดียล้อว่า ลูกตนอยู่เมืองนอกอะไรแบบนี้ ก็เข้าใจดีว่าประเทศไทยยังต้องพัฒนา จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องเดินเข้ามาสู่เวทีการเมือง เพื่อยกระดับประเทศไทยให้ดีขึ้นให้เป็นที่หมายปองของทุกๆคน อยากให้คนไทยกลับมาทำงานในเมืองไทยกันเยอะๆ และมีนักศึกษาคนหนึ่งถามว่า มีคำแนะนำอย่างไร “ผมบอกว่าได้แนะนำลูกของผมให้ไปเป็นขี้ข้าเขาก่อน เพราะผมเป็นคนพูดตรงไปตรงมา ก็มีดราม่าไปพูดว่าผมพูดจาไม่สุภาพ ถ้าเผื่อตรงนั้นมีมุมมองเช่นนี้ผมก็ต้องขอโทษ แต่อันนั้นผมพูดกับลูกผม เพื่อให้เขาเห็นภาพ”
แนะคนรุ่นใหม่สร้างตัวเป็นลูกจ้างก่อน
“จริงๆแล้วการไปทำงานเป็นลูกจ้างก็ลำบาก เราเพิ่งจบมาใหม่ๆต้องมีความอดทน เขาใช้อะไร ผู้บังคับบัญชาพูดจาหรือใช้อะไรอาจไม่ถูกหู แต่ต้องมีความอดทน บางครั้งอาจใช้ศัพท์แสงก็เป็นการบริหารความคาดหวังของลูกผมมากกว่า แต่ยืนยันเนื้อหาเหมือนเดิม คือถ้าจะถามผมส่วนตัวมีคำแนะนำอะไรให้กับคนรุ่นใหม่ ก็อยากให้ไปทำงานก่อนอย่าไปทำสตาร์ตอัพก่อน ตรงนี้ขึ้นอยู่ที่แต่ละคน ถ้าส่วนตัวก็อยากให้ไปทำงานบริษัทใหญ่ๆสัก 2-3 ปี ไปเรียนเรื่องระเบียบวินัย ไปสร้างคอนเนกชัน ไปสร้างเพื่อนฝูงในบริษัทใหญ่ๆแล้วค่อยออกมาทำงาน ก็เป็นคำแนะนำส่วนตัว ก็เห็นต่างได้ไม่เป็นไร”
ปลื้ม “เจ้าสัวธนินท์” หนุนดิจิทัลวอลเล็ต
เมื่อถามว่านายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ สนับสนุนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ท่ามกลางมีเสียงต่อต้านการกู้เงินมาใช้ในโครงการนี้ นายเศรษฐาตอบว่า พร้อมรับฟังความเห็นต่าง ขอบคุณเจ้าสัวธนินท์ที่สนับสนุน ต้องไปดูว่าความจริงแล้วประเทศต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลต้องการวิธีใหม่ๆกระตุ้นเศรษฐกิจ
ย้ำเศรษฐกิจวิกฤติต้องทุ่มหมดหน้าตัก
ต่อมาเวลา 09.00 น. ที่ห้องภิรัชฮอลล์ 1-3 ชั้น 2 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค นายเศรษฐาขึ้นเวทีกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา หอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 ในโอกาสครบรอบ 90 ปี หอการค้าไทย เรื่อง “The time to act is now พลิกวิกฤติ ฟื้นเศรษฐกิจไทยให้ยั่งยืน” โดยตอนหนึ่งกล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตว่า มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เมื่อวันที่ 18 พ.ย ประธานธนินท์ได้แสดงความคิดเห็น จริงๆปัจจัยหลักมีแค่เร่งด่วนและจำเป็นหรือไม่ วิกฤติหรือไม่ มีบางคนเห็นว่าไม่เร่งด่วน ไม่จำเป็น ไม่วิกฤติ แต่รัฐบาลนี้เห็นว่าจำเป็นและเร่งด่วน สภาพเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะวิกฤติ หากบอกว่าถ้าวิกฤติอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ต้องติดลบ ท่านพูดถูก ถ้าอย่างนั้นก็ไม่วิกฤติ แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก เราอยู่บนโลกของการแข่งขันที่สูงมาก ย้อนไปดูจีดีพีประเทศคู่แข่ง ทราบกันดีอยู่แล้วตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเขาเท่าไหร่ เชื่อว่าทราบกันดีว่าเราสามารถไปไกลได้อีก ทำได้อีก เป็นหน้าที่ของรัฐบาลนี้ ที่อาสาเข้ามาแก้ปัญหา เราต้องทำให้ได้ นอกจาก 2 เดือนที่ผ่านมาจัดการไปแล้ว พักหนี้เกษตรกร ลดค่าไฟ ลดค่าน้ำมันเบนซินและดีเซล ฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน คาซัคสถาน อินเดีย ไต้หวัน เหล่านี้ถือเป็นมาตรการที่พยายามเร่งด่วนทำขึ้นมา รัฐมนตรีทุกท่านทำงานหนักลงรายละเอียดทุกเม็ด เพื่อก่อให้เกิดผลทางเศรษฐกิจ ดิจิทัลวอลเล็ตก็เป็นนโยบายหนึ่ง ยืนยันเวทีวันนี้ไม่ได้เป็นการโน้มน้าว เพราะเป็นเรื่องที่พูดกันไปเยอะแล้ว
ลุยแก้หนี้นอกระบบสิ้น พ.ย.แถลงใหญ่
นายเศรษฐากล่าวอีกว่า เรื่องที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือปัญหาเรื่องหนี้สิน หนี้ที่รัฐบาลพยายามแก้ไขไม่ได้ดูแค่หนี้ในระบบอย่างเดียว หนี้นอกระบบถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด สิ้นเดือน พ.ย.รัฐบาลจะเปิดแถลงใหญ่เกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของประชาชน เนื่องจากปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ได้กัดกร่อนสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรม เป็นความขมขื่นของประชาชน รัฐบาลนี้ต้องเร่งแก้ บางรายเป็นหนี้นอกระบบ ทำงานเพื่อจ่ายดอกเบี้ยอย่างเดียวก็ยังไม่หมด เบื้องต้นจะให้นายอำเภอ ตำรวจ ผู้กำกับในพื้นที่เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้ เพราะเรียกเก็บดอกเบี้ยที่สูงเกินกฎหมาย ลูกหนี้ต้องรับภาระหนี้จ่ายไม่จบไม่สิ้น ตนได้ปรึกษากับกระทรวงมหาดไทย จะออกนโยบายมาที่เคยใช้มาในอดีตให้นายอำเภอ หรือตำรวจในพื้นที่เรียกเจ้าหนี้ลูกหนี้มาเจรจาไกล่เกลี่ย เพราะหนี้นอกระบบดอกเบี้ยสูงเกิน เช่น เป็นหนี้อยู่หนึ่งแสน แต่เจอดอกเบี้ยเข้าไปใช้ไป 3 แสนแล้วก็ยังไม่หมด ต้องเรียกมาเจรจาที่ชาร์จอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด เป็นการกระทำผิดกฎหมาย หนี้ที่มีอยู่ต้องยกเลิกกันไป เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล เป็นการทำงานร่วมกันของกระทรวงการคลัง ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายการปกครอง ต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ในรัฐบาลนี้
หลังฉลองปีใหม่นอนค้างทำเนียบฯ
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า หลังปีใหม่จะเข้าพักบนตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อถามว่าได้ฤกษ์แล้วใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า ไม่ใช่ได้ฤกษ์ แต่ก็ต้องดูฤกษ์อีกทีและดูความพร้อม โดยเฉพาะระบบน้ำต้องพร้อมก่อน จะพิจารณานอนเป็นวันๆตามภารกิจ เมื่อถามว่า เดินทางกลับจากการร่วมประชุมเอเปกมาร่วมงานปาฐกถาการสัมมนาหอการค้าต่อเลย ไม่รู้สึกเจ็ตแล็ก (Jet Lag) ใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า “ไม่ครับ ไม่เจ็ตแล็ก”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า นายเศรษฐาอาจจะไม่นอนพักค้างที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว เพื่อไม่เพิ่มภาระให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่ล่าสุดแหล่งข่าวเปิดเผยว่า นายเศรษฐายืนยันเสียงหนักแน่นว่าจะนอนค้างที่ห้องพักตึกไทยคู่ฟ้า เป็นที่พักชั่วคราวในระหว่างปฏิบัติราชการและอาจใช้เวลาช่วงค่ำลงมาเดินสำรวจสถานที่
ห่วงสถานการณ์ฉนวนกาซาย่ำแย่ลง
ต่อมาเวลา 15.21 น. นายเศรษฐา ได้ทวีตข้อความผ่าน X ระบุว่า “ผมมีความกังวลต่อสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาที่ย่ำแย่ลง จนส่งผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากประชาคมระหว่างประเทศจำเป็นต้องตอบสนองต่อความต้องการด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน ประเทศไทย ขอสนับสนุนการเรียกร้องให้ขยายเวลาการหยุดยิงชั่วคราว จัดตั้งระเบียงมนุษยธรรมในฉนวนกาซา สนับสนุนการแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติ บนพื้นฐานของแนวทางสองรัฐที่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศโดยด่วน”
“อนุทิน” ชมนายกฯทำงานเร็ว-เฉียบขาด
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย กล่าวปาฐกถาในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 และมอบรางวัลสำเภาทอง ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับรางวัลว่า รางวัลนี้เป็นขวัญกำลังใจแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่แสดงถึงการให้ความสำคัญต่อความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่วนการทำงานร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง 3 เดือน เห็นถึงความพร้อมพาประเทศไทยไปสู่ความเจริญก้าวหน้าอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นคนทำงานรวดเร็ว ว่องไว ตัดสินใจเฉียบขาด ทุกเรื่องที่ได้รับนโยบายมาก็มีความสบายใจว่านโยบาย หรือคำสั่งจากนายกฯให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตประชาชนกับวิถีชีวิตคนไทยและเศรษฐกิจประเทศ ไม่ได้นึกถึงพรรคการเมือง ทั้งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เป็นนโยบาย ครม.และข้าราชการต้องปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะมีอุปสรรคปัญหาใดๆ ต้องหาหนทางแก้ไข ดำเนินการให้นโยบายที่รัฐบาลบรรลุผลสัมฤทธิ์ให้ได้ โดยนายกฯมีความตั้งใจทำนโยบายให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย มั่นใจภารกิจที่ได้ให้สัญญาเอาไว้จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ขอให้คำยืนยันให้ความร่วมมือกับนายกฯในทุกๆนโยบาย ที่จะทำให้ประเทศเกิดประโยชน์
ย้ำไม่ขัด ก.ม.พร้อมหนุนเงินดิจิทัล
ต่อมา นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตว่า ในส่วนพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะตนให้สัมภาษณ์มาโดยตลอดว่านโยบายรัฐบาล ถ้าไม่มีสิ่งใดที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย พรรคร่วมรัฐบาลพร้อมสนับสนุน นโยบายที่ปรากฏอยู่คำแถลงนโยบายของนายกฯต่อรัฐสภา เราต้องสนับสนุน แต่ทุกอย่างมีขั้นตอน ทางหน่วยงานที่เกี่ยวกำลังเร่งหาหนทางที่จะนำมาปฏิบัติให้เร็วที่สุด ต้องเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน เมื่อถามว่าแนวทางที่นายกฯจะให้กระทรวงมหาดไทยดูแลหนี้นอกระบบ นายอนุทินตอบว่า วันที่ 28 พ.ย.จะแถลงถึงความร่วมมือปราบปรามและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้หมดสิ้นไป โดยวางแนวทางว่านายอำเภอ ผู้กำกับ เจ้าหนี้ ลูกหนี้และผู้ที่ดูแลเรื่องกฎหมาย โดยสิ่งที่ต้องมาแจ้งว่าการคิดอัตราดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนดทำไม่ได้ ผิดกฎหมาย สรรพากรดูเรื่องภาษี แต่ละหน่วยงานจะทำหน้าที่ของตัวเองไป เราต้องทำตัวเป็นที่พึ่ง หลายคนถูกเอาเปรียบมานาน ส่วนอำเภอต้องประกาศรับลงทะเบียนจากเจ้าหนี้และลูกหนี้ที่ส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้ รวมทั้งสำรวจด้วยตัวเองด้วยกรณีคนที่ไม่กล้า เพราะเกรงกลัวอิทธิพล เป็นไปตามนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล จะเร่งดำเนินการหลังประชุมหารือกัน
“อดิศร” มั่นใจเงินกู้ 5 แสนล้านผ่านสภาฯ
นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ขณะนี้รัฐบาลให้ฝ่ายสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายละเอียด คาดใช้เวลาสักพักก่อนเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเบื้องต้นก่อนส่งเนื้อหาให้สภาฯต้องทำประเด็นที่เป็นข้อสงสัยต่างๆ ให้กระจ่างก่อน รัฐบาลพร้อมเมื่อใด วิปรัฐบาลในฐานะมือไม้ที่ดูแลงานกฎหมายพร้อมปฏิบัติให้ โดยเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงินดังกล่าวต่อสภาฯจะถูกบรรจุให้เป็นเรื่องด่วนที่พิจารณาอันดับแรก ส่วนกรอบการพิจารณาวาระแรก เบื้องต้นอาจใช้ 1-2 วัน ต้องมีเวลาเพียงพอให้ฝ่ายตรวจสอบได้ซักถาม และรัฐบาลได้ชี้แจง เมื่อผ่านวาระแรกแล้ว ขั้นตอนตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ (กมธ.) ตามปกติอยู่ที่ 30-90 วัน เมื่อ กมธ. พิจารณาแล้วเสร็จต้องนำกลับมาให้สภาฯพิจารณาวาระ 2-3 มั่นใจในความมั่นคงของพรรคร่วมรัฐบาลจะโหวตเห็นชอบ
เฉ่งก้าวไกลจ้องตีกินแก้หมูเถื่อน
น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายณรงเดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงประเด็นหมูเถื่อนโจมตีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังว่า ไม่แปลกใจท่าทีนายณรงเดช บ่อยครั้งมักออกมาตีกินเป็นประเด็นที่สังคมจับตามองอยู่ รวมถึงปัญหาหมูเถื่อน เป็นแค่การประดิษฐ์วาทกรรมตามสไตล์ที่ถนัด ทั้งที่นายกฯได้สั่งการจัดการขบวนการหมูเถื่อนไปแล้ว ต้องทำให้รวดเร็ว เร่งจัดการผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่รัฐต้องทำให้ได้รวดเร็วที่สุด ยิ่งปล่อยเวลาเนิ่นนาน ผู้เดือดร้อนคือผู้ประกอบการหมูรายย่อยและประชาชน คนทำผิดต้องถูกลงโทษ เรื่องหมูไม่ได้หมูอย่างที่ท่านคิด รัฐบาลกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อประชาชน ฉะนั้นอยากถามนายณรงเดชว่า ตั้งแต่นายกฯเข้ามาบริหารประเทศ เคยเห็นวันไหนที่หยุดทำงาน แม้กำลังขึ้นเครื่องบินไปประชุมผู้นำเอเปก ยังสั่งงานจนวินาทีสุดท้าย
โพลต้านรัฐบาลกู้เงิน 5 แสนล้าน
วันเดียวกัน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หรือนิด้าโพล เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “OK ไหม กับนายกฯ สรุปเอง เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท” ระหว่างวันที่ 13-16 พ.ย.66 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ รวม 1,310 หน่วยตัวอย่าง เมื่อถามประชาชนต่อหลักเกณฑ์ผู้มีสิทธิได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทต้องเป็นคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป มีรายได้ไม่ถึง 7 หมื่นบาทต่อเดือน และ/หรือมีเงินฝากทุกบัญชีรวมกันต่ำกว่า 5 แสนบาท พบว่า ร้อยละ 40.53 ระบุว่า เห็นด้วยมาก รองลงมา ร้อยละ 25.80 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 20.31 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย ร้อยละ 12.67 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ส่วนความคิดเห็นของประชาชนต่อเงื่อนไขการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยสามารถใช้ซื้ออาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภคได้เท่านั้น ร้อยละ 34.66 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 28.47 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 20.69 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 16.03 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ส่วนความคิดเห็นของประชาชนต่อแหล่งที่มาของงบประมาณจัดทำนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลจะออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท และงบประมาณประจำปีอีก 1 แสนล้านบาท ร้อยละ 50.69 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 18.70 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 14.89 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 13.35 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ภายหลังนายกฯแถลง ร้อยละ 29.92 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 25.97 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 25.11 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 18.24 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย
“ชนินทร์” แง้มที่มา ส.ส.ร. 2 สาย
สำหรับความคืบหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น วันเดียวกัน นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และเลขานุการคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 กล่าวถึงความคืบหน้า การรับฟังความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับแนวทางทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการจัดทำประชามติได้รับฟังความคิดเห็นประชาชนครอบคลุมหลายภาคส่วน การจัดการรับฟังความคิดเห็นครั้งล่าสุดที่ทำเนียบรัฐบาล มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานนั้น มีความเห็นจากตัวแทนภาคประชาสังคมต่างๆที่หลากหลายในหลายประเด็น เช่น องค์ประกอบของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่บางส่วนอยากให้มาจากเลือกตั้ง 100% ขณะที่บางกลุ่มอยากให้คำนึงถึงความหลากหลายและครอบคลุม หรือมีองค์ประกอบผู้ชำนาญเฉพาะทางด้วย และความเห็นการดำรงความในหมวด 1 หมวด 2 รัฐธรรมนูญว่าจะเป็นการดึงการมีส่วนร่วมให้กว้างขวางขึ้นได้หรือไม่ เป็นต้น
แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างประชามติ
นายชนินทร์กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการฯ ได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้แทนพรรคก้าวไกล เช่นกัน เนื่องจากไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมอยู่ในคณะกรรมการฯ การเข้าพบในวันนั้นพรรคก้าวไกลเสนอทำประชามติหลายประการ มีการเสนอปรับเปลี่ยนคำถามให้กระชับว่า “เห็นชอบหรือไม่ ควรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร.” ต่างจากที่เคยเสนอเข้าสภาฯ เพราะเชื่อว่าสามารถโอบรับความเห็นต่างได้มากขึ้น เพื่อเอาชนะเงื่อนไขมาตรา 13 พ.ร.บ.ประชามติ เรื่อง “เสียงข้างมากสองชั้น” หรือ Double Majority ที่ต้องมีผู้ให้ความเห็นชอบต่อคำถามมากอย่างกว้างขวาง สอดคล้องความเห็นอื่นๆที่คณะอนุกรรมการรวบรวมความเห็นมาว่า สังคมมีความเห็นแตกต่างหลายประเด็น จึงน้อมรับความเห็นไว้เพื่อพิจารณาแนวทางที่รัดกุมต่อไป รัฐบาลพรรคเพื่อไทยตั้งใจอย่างถึงที่สุดแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง เดินหน้าสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่สอดคล้องกับบริบทประชาชน น้อมรับความเห็นแตกต่าง เพื่อออกแบบการดำเนินการที่รัดกุม ยึดเอาจุดร่วมที่สังคมเห็นพ้องร่วมกันเป็นแกนหลัก ให้มั่นใจว่าการขับเคลื่อนครั้งนี้จะได้รับความเห็นชอบมากพอให้สำเร็จ จะได้มีรัฐธรรมนูญใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นตามที่ประกาศไว้
กมธ.เรียก “วุฒิพงศ์” แจงบ่อขยะ
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ประธานกรรมาธิการ อุตสาหกรรม (กมธ.) กล่าวว่า กรณีนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ที่ถูกพรรคก้าวไกลขับพ้นสมาชิกพรรค ระบุมีข้อพิรุธการซื้อที่ดินสร้างบ่อขยะ มีนายทุนที่ดินเข้ามาเกี่ยวข้องสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ โดยมีอดีตผู้ช่วย สส. น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เกี่ยวข้อง ในวันที่ 22 พ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. กมธ.มีประชุมเพื่อพิจารณาปัญหาบ่อขยะที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยเชิญนายวุฒิพงศ์ พร้อมนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล น.ส.เบญจา และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม จ.ปราจีนบุรี เข้ามาชี้แจง
แม่ทัพเพื่อไทยเปิดสาขาอุตรดิตถ์
วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พบประชาชนชาว จ.พิษณุโลกและสักการะพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาทักทายให้กำลังใจ จากนั้นเวลา 11.00 น. น.ส.แพทองธาร และคณะเยี่ยมชมสาขาพรรคและเข้าร่วมประชุมจัดตั้งสาขาพรรคเพื่อไทย จ.อุตรดิตถ์ โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบชาวอุตรดิตถ์ ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจ สส.พรรคเพื่อไทย มารับใช้โดยตลอด มีโอกาสมาที่ จ.อุตรดิตถ์เป็นที่แรกหลัง รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ได้รับการต้อนรับความอบอุ่น การเปิดสาขาพรรคเพื่อไทย จ.อุตรดิตถ์ เพื่อให้ใกล้ชิดกับประชาชนยิ่งขึ้น หากชาวอุตรดิตถ์มีปัญหา ขอให้บอกพรรครับทราบ จะได้รวบรวมแก้ไขปัญหาโดยด่วน เราจะผลักดันนโยบายพรรค เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้สำเร็จ ให้ประชาชนมีความสุข รวยขึ้นจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ปั้นหมูกระทะเป็นซอฟต์พาวเวอร์
ต่อมา น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ว่า พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายตั้งสาขาในพื้นที่ต่างๆให้ใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น โดยมีเครือข่ายครอบครัวเพื่อไทยให้ประชาชนได้ใกล้กับพรรคเพื่อไทย สะท้อนปัญหาอย่างแท้จริง เพราะแต่ละพื้นที่มีปัญหาแตกต่างกัน ส่วนการเยี่ยมชมสินค้าโอทอป จ.อุตรดิตถ์ รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนสินค้าประชาชนในพื้นที่ต่างๆ สร้างเป็นซอฟต์พาวเวอร์ให้กับประเทศ หากแต่ละพื้นที่มีของดีประจำจังหวัดก็อยากสนับสนุน อุตรดิตถ์เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและโอกาส เมื่อถามถึงกรณีมีแนวคิดผลักดันหมูกระทะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ น.ส.แพทองธารตอบว่า ที่ระบุไปก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่บอกว่าหมูกระทะก็สามารถดึงคนเข้ามาร่วมกันได้ อาหารหากทำให้อร่อย สะอาดขึ้น สามารถทำให้ชาวต่างชาติเข้าถึงได้ง่าย เราก็ได้เห็นของเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่นที่มีอาหารสไตล์จิ้มจุ่มหรือปิ้งย่างราคาสูงมาก แต่ของเราราคาดีมากๆ ก็อยากสนับสนุน เพราะมีสินค้าดี มีวัฒนธรรมดีอยู่แล้ว อาหารของประเทศไทยได้เปรียบ จะผลักดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ได้แน่นอน หมูกระทะในแต่ละจังหวัดก็มีซิกเนเจอร์ไม่เหมือนกัน เป็นเสน่ห์อีกอย่าง น่าจะสามารถดึงแต่ละจังหวัดให้มาร่วมกันได้ รวมไปถึงเมนูอื่นๆในแต่ละจังหวัดด้วย
“อภิสิทธิ์” บายชิงหัวหน้าพรรค ปชป.
สำหรับความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์ ที่แบ่งเป็น 2 ขั้ว ระหว่างกลุ่มอาวุโสกับกลุ่มเพื่อนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางจับตาดูการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ว่าจะหักดิบหรือเจรจากันลงตัวนั้น วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดขั้วฝ่ายผู้อาวุโสผู้ใหญ่ในพรรคได้นัดเพื่อเจรจากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค เพื่อขอให้กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยนายอภิสิทธิ์ยืนยันเช่นเดิมว่า หากให้กลับมานำพาพรรคประชาธิปัตย์ ภายในพรรคต้องมีเอกภาพ ไม่มีการแข่งขันชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค ที่ผ่านมาได้แสดงจุดยืนชัดเจนมาโดยตลอดแล้วว่า จะเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบ ไม่ร่วมรัฐบาล ดังนั้น หากในพรรคยังมีความเห็นต่าง มีการแข่งขัน ลำพังเฉพาะตนแม้เป็นหัวหน้าพรรค แต่ไม่ได้เป็น สส. และคณะกรรมการบริหารพรรค ที่ส่วนใหญ่ก็มาจากกลุ่มเพื่อนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคและรักษาการหัวหน้าพรรค ก็ทำอะไรได้ยาก จึงได้ปฏิเสธลงแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ ปัจจุบันเสียง สส.ส่วนใหญ่ สังกัดอยู่กลุ่มเพื่อนนายเฉลิมชัย ที่มีนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลาและรักษาการรองหัวหน้าภาคใต้ และนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราชและรักษาการรองเลขาธิการพรรค เป็นแกนนำสำคัญ โดยคุมสัดส่วนคะแนนของการโหวตที่ 70% แสดงออกชัดเจนว่า ไม่สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เพราะยืนยันชัดเจนว่าไม่ร่วมรัฐบาล
“มาดามเดียร์” สู้ “ชัยชนะ” พร้อมหนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายชัยชนะ เดชเดโช ที่มีผู้สนับสนุนจะเสนอชื่อชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่พร้อมสนับสนุน น.ส.วทันยา บุนนาค หรือมาดามเดียร์ ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพมหานคร พรรค ปชป. จับคู่เป็นปลาท่องโก๋บริหารพรรค แม้เพิ่งเข้าเป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 5 ปี แต่ข้อบังคับพรรคเปิดช่องให้หากได้เสียงของสมาชิกพรรคในที่ประชุมใหญ่วิสามัญ 3 ใน 4 รับรอง ก็สามารถงดเว้นข้อบังคับเรื่องอายุของสมาชิกพรรค สามารถลงสมัครชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคได้ ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องรวบรวมเสียงให้ได้ 3 ใน 4 โดย น.ส.วทันยาเองยังเก็บตัวเงียบ แต่คนใกล้ชิดยืนยันว่า เจ้าตัวพร้อมสู้และผู้ใหญ่ในพรรคก็ให้การสนับสนุน แต่ต้องจับตาว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน จะสนับสนุนหรือไม่ ดังนั้นหากนายชัยชนะจะหนุน น.ส.วทันยา เท่ากับว่า เสียง สส.ในกลุ่มเพื่อน นายเฉลิมชัยจะแตกเป็น 2 ขั้วคือ ขั้วของนายเดชอิศม์ ขาวทอง ที่มีชื่อตั้งแต่ต้นว่าจะลงชิงเลขาธิการพรรค และขั้วของนายชัยชนะ เดชเดโช ที่มีเพื่อน สส.คนรุ่นใหม่อยู่ในมือราว 8-9 เสียง
ก.ม.นิรโทษฉบับ ปชช.ล้างผิดคดี 112
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ อาคาร ALL RISE รัชดา- ลาดพร้าว เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ประกอบด้วยแนวร่วมม็อบราษฎรต่างๆ อาทิ นาย ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายของประชาชน หรือไอลอว์ หัวหอกเคลื่อนไหวแก้ไข ม.112 น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ผู้ดูแลด้านคดีให้ม็อบราษฎร และผู้ถูกดำเนินคดี ม.112 นายกรกต แสงเย็นพันธุ์ แกนนำม็อบราษฎร พร้อมตัวแทนกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ร่วมแถลงเปิดตัวร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชน โดยนิรโทษกรรมเฉพาะประชาชน ไม่รวมเจ้าหน้าที่รัฐ ให้นับการกระทำตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.49 ถึงเวลาที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ ส่วนคดีที่ได้รับนิรโทษกรรม โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนิรโทษกรรมประชาชน คือ 1.คดีความผิดตามประกาศและคำสั่ง คสช. 2.คดีพลเรือนที่ถูกดำเนินคดีในศาลทหารตามประกาศ คสช. 3.คดีตาม ม.112 4.คดี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปี 48 5.คดี พ.ร.บ.ประชามติร่างรัฐธรรมนูญปี 59 6.คดีตามฐานความผิดที่เกี่ยวโยงกับ (1)-(5) และให้มีคณะกรรมการนิรโทษกรรมประชาชนรวม 19 คน พิจารณาว่า คดีนอกเหนือจากนี้มีเหตุจูงใจที่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ประกอบด้วย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธาน ผู้นำฝ่ายค้าน ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล สส.แต่ละพรรค ตัวแทนประชาชนผู้ถูกดำเนินคดี ตั้งแต่รัฐประหาร 49 ถึงม็อบราษฎร เป็นต้น ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะเปิดให้ประชาชนร่วมเข้าชื่อ เสนอเป็นร่างกฎหมายเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ช่วงต้นปี 2567
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่