อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เผย ไอเอ็มเอฟประเมินเศรษฐกิจโลกให้ผู้นำเอเปกรับทราบ พบเงินเฟ้อลด จ้างงานเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของความขัดแย้ง อาจกระทบราคานำ้มัน
วันที่ 18 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ได้เข้าประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกในรูปแบบที่เป็นกันเอง โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปเอกสาร 2 ฉบับ คือ 1. ประกาศโกลเดนเกต ที่จะทำธุรกิจโดยช่วยดูแลผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ และ 2. การขับเคลื่อนการค้าภายใต้กรอบของ WTO
นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ระบุว่า ที่ประชุมผู้นำได้มาดูเศรษฐกิจภาพรวมของเอเชียแปซิฟิกร่วมกัน เริ่มจากผู้จัดการกองทุนไอเอ็มเอฟได้มองภาพรวมเห็นการเติบโตขึ้นของเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อลดลง การจ้างงานที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของความขัดแย้ง ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันและเศรษฐกิจในภาพรวม
ซึ่งนายกรัฐมนตรีของไทยได้ย้ำชัดในที่ประชุมว่า ไทยจะเดินหน้าเศรษฐกิจแบบเปิด โดยเฉพาะการขับเคลื่อน FTA ที่ต้องทำให้ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์อย่างครอบคลุม โดยหลังจากนี้ไป ธุรกิจที่จะทำการค้าจะต้องดูผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วย
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้ย้ำอีกครั้งถึงประโยชน์ของโครงการแลนด์บริดจ์ ที่จะช่วยเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งอย่างเต็มที่ และยังบอกด้วยว่า ขณะนี้การท่องเที่ยวของไทยเริ่มกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยไทยจะเร่งออกบัตร Apec travel card ให้กับนักธุรกิจของเขตเศรษฐกิจเอเปกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ผู้นำของไทย จีน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และแคนาดา ได้พูดถึงผลกระทบจากเทคโนโลยีเอไอแล้ว แม้จะยังไม่ได้เป็นหัวข้อหลักของการประชุม เชื่อว่าในอนาคตทุกประเทศคงต้องกลับมาหารือในประเด็นนี้ร่วมกันมากขึ้น.
...