มือเป็นระวิงอยู่บนเวทีโลก ทำหน้าที่เซลส์แมนหาพันธมิตรมาร่วมลงทุนในประเทศไทย

ภารกิจลัดฟ้า “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

ได้ยืดอกกระทบไหล่ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้นำมหาอำนาจโลก ตลอดจนเหล่าผู้นำโลก ทั้งออสเตรเลีย ญี่ปุ่น แคนาดา วางแนวทางเชื่อมการค้าการลงทุน

ตีคู่กับการเจรจาซีอีโอภาคธุรกิจโลก โชว์บิ๊กดีลดึงบริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าดัง อาทิ “เทสลา–อะเมซอน–ไมโครซอฟท์–กูเกิล–TikTok” จ่อขนเงินมาลงทุนในไทยหลายแสนล้านบาท

“นายกฯนิด” เหยียบคันเร่งเปิดประตูรับนักลงทุนทั่วโลก ปักหมุดให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางใหญ่ในเอเชีย ขับเคลื่อนไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล

ถึงการประชุมเอเปกยังไม่จบทริป แต่เห็นผลสัมฤทธิ์ออกมาในทิศทางดี เตรียมความพร้อมพัฒนาประเทศไทยเป็น smart city เกิดการสร้างงานเป็นจำนวนมากตามมา

สัญญาณลงทุนจากต่างประเทศสดใส ตรงข้ามกับเรื่องในประเทศที่ยังมีเรื่องปวดหัวรายวัน

ล่าสุดสะดุดคิวปัญหาน้ำมันเบนซิน ปรับขึ้นราคาถี่ๆต่อเนื่อง เล่นงานรัฐบาลเสียเครดิต ระดับที่เห็นอาการเหวี่ยงผู้รับผิดชอบโดยตรง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน แสดงอารมณ์เดือดโดนผู้ประกอบการฉีกหน้า ปรับขึ้นราคาน้ำมันอ้างสถานการณ์โลก ขึ้นตามใจยังกะตลาดหุ้น

แต่คนถูกด่ากลายเป็นรัฐบาล โดนประชาชนถล่มหูชา เพิ่งออกมาตรการหั่นราคาน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ลงไป 1-2.50 บาท ยังไม่ทันไร ราคาก็ดีดกลับขึ้นมาใหม่

รัฐบาลโดนผู้ประกอบการลูบคม ปล่อยให้ขึ้นราคา เหมือนไม่มีหลักเกณฑ์ควบคุม พาลกระทบแต้มนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ทำงานเหนื่อยฟรี เรียกแต้มอยู่ได้ไม่กี่วันก็ทำคะแนนวูบ

...

เรื่องใหม่ก็เข้าประดังมาให้แก้ ขณะที่เรื่องเก่าก็ยังหัวหมุน ถูกตามกระหน่ำไม่ลดราวาศอก

โจทย์ใหญ่ “โครงการดิจิทัลวอลเล็ต” ยังอลเวง แม้จะทุบโต๊ะได้ข้อสรุปแจกเงินหมื่นลงตัวแล้ว แต่แรงเสียดทานกลับไม่ลดลง ขั้นตอนดำเนินการยังอีนุงตุงนัง เสี่ยงติดล็อกข้อห้ามกฎหมายเต็มไปหมด

เส้นทางประชาชนคว้าเงินหมื่นต้องลุ้นฝ่าอีกหลายด่าน ผู้นำรัฐบาลยังหายใจได้ไม่ทั่วท้อง ลุ้นนโยบายเรือธงจะไม่ล่มระหว่างทาง

แค่ด่านแรกคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ต้องเงี่ยหูฟังใจจดใจจ่อ ที่ปรึกษากฎหมายรัฐบาลจะตีความการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท แจกประชาชน เข้าเงื่อนไขความจำเป็นเร่งด่วน สามารถออกเป็นกฎหมายกู้เงินได้หรือไม่

แต่ยังไม่หนักเท่าขั้นการพิจารณาในสภาฯ ท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังเก็บอาการนิ่ง มีแค่ค่ายภูมิใจไทยที่พอเปิดตัวชัดขอสนับสนุนเป็นแนวร่วม

ส่วนชาติไทยพัฒนา-รวมไทยสร้างชาติ เก็บทรงนิ่ง รอชั่งใจ ขอฟังความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา

ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ โยนให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตัดสินใจชี้ขาด

เพื่อนร่วมรัฐบาลยังรอจังหวะไม่กดปุ่มไฟเขียวพร้อมหน้า ไม่นับด่านหินของจริงอย่าง สว. ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. และองค์กรอิสระอื่นที่พร้อมสแกนรายละเอียดโครงการถี่ยิบ

ขืนสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่เช็กข้อมูลกฎหมายให้ชัวร์ อาจเสียวสันหลัง ถูกยื่น ป.ป.ช.เอาผิดตามมา

เส้นทางวิบากหลายด่านตระหง่านรอรับ ต้องลุ้นระทึกตอนจบจะรอดหรือไม่

ภาวะฝุ่นตลบที่ฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้านสู้กันอุตลุด เถียงกันไม่จบมุมมองคำว่า “วิกฤติเศรษฐกิจ”

ฝ่ายรัฐบาลมองเศรษฐกิจประเทศหยุดชะงัก ผ่านมาเกือบ 10 ปี จีดีพีโตไม่ถึง 2% ต้องเร่งแจกเงิน ต่างจากมุมมองฝั่งฝ่ายค้าน นักวิชาการเห็นว่า ประเทศไทยไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ไม่ต้องกระตุ้นด้วยการใช้เงิน

โจทย์สำคัญที่รัฐบาลควรตอบคำถามให้ชัดเจน อธิบายด้วยข้อมูลความจริงทางเศรษฐกิจและกฎหมายถึงความจำเป็นต้องกู้เงิน 5 แสนล้านบาท สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่ตอบโต้โดยใช้อารมณ์ความรู้สึกที่ไม่ช่วยคลายความสงสัย

นโยบายเรือธงพรรคแกนนำรัฐบาล ถึงรู้ว่าเสี่ยง แต่ต้องลุยไฟสู้ถึงที่สุด ยังไงก็ต้องเทหมดหน้าตัก เพื่อทวงคืนความเชื่อมั่น ถ้าติดลมประสบความสำเร็จก็มีต้นทุนคะแนนนิยมมหาศาลไว้ขับเคี่ยวกับพรรคก้าวไกล

เดิมพันอนาคตเพื่อไทยผูกไว้กับดิจิทัลวอลเล็ต!!!

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม