“เศรษฐา” หารือผู้บริหาร “Meta” เจ้าของเฟซบุ๊ก ไอจี และ วอทส์แอพ ก่อนถกทวิภาคี “จัสติน ทรูโด” นายกฯแคนาดา และ “แอนโทนี แอลบาเนซี” ผู้นำออสเตรเลีย มุ่งเปิดการค้าเสรี ตอบรับเข้าร่วมสุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษ ร่วมชักภาพหมู่ผู้นำเศรษฐกิจเอเปก ดี๊ด๊าได้เซลฟี่ “โจ ไบเดน” กลางวงเอเปก “ภูมิธรรม” รอกฤษฎีกาตีความก่อน ยังไม่รู้ ก.ม.กู้เงิน 5 แสนล้านจะออกมาแบบไหน “ธนาธร” แนะวิธีใช้เงิน 5 แสน ล. “ศรีสุวรรณ” ชง ป.ป.ช.สอยนายกฯ “อิ๊ง” หวานชื่นพบ “ลุงเหลิม” ไร้รอยร้าว ย้ำสัมพันธ์แน่นปึ้ก “ไผ่” มาแล้วหนุนกาสิโนดึงเงินใต้ดิน แฉส่วยบ่อนเถื่อนเกลื่อนกลาด กกต.เร่งเครื่องฟัน 80 คดีร้องเลือกตั้ง

รัฐบาลพยายามเต็มที่กับการฟื้นความเชื่อมั่นดึงนักลงทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุนในไทย ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง หารือทวิภาคีกับนายกฯแคนาดา และนายกฯออสเตรเลีย เจรจาเปิดเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30 ที่สหรัฐอเมริกา

“เศรษฐา” หารือผู้บริหาร “Meta”

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 พ.ย. (ตามเวลาท้องถิ่นนครซานฟรานซิสโก ช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง) ที่โรงแรมเดอะริทซ์-คาร์ลตัน สหรัฐอเมริกา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ยังคงอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30 และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ที่นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 12-19 พ.ย. ได้พบหารือผู้บริหารบริษัท Meta บริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และวอทส์แอพ เป็นต้น รวมถึงพัฒนาจำหน่ายอุปกรณ์และให้บริการสำหรับ Virtual Reality (VR) หรือระบบเสมือนจริง เช่น Meta Quest แท่นชาร์จไฟ (Charging Dock) และแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban Meta Wayfarer

...

เจรจา FTA อาเซียน–แคนาดา

ต่อมาเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์ประชุมมอสโคนีเซ็นเตอร์ นายเศรษฐาพบหารือทวิภาคีกับนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา นายเศรษฐากล่าวว่า การเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้มาเพื่อประกาศให้ทราบว่าไทยเปิดแล้ว และพร้อมรับการลงทุนด้านนายจัสติน ทรูโดกล่าวว่า แคนาดาพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย ทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาค เพื่อสานต่อพลวัตความสัมพันธ์และความร่วมมือสาขาต่างๆ แคนาดามียุทธศาตร์อินโดแปซิฟิกที่หวังจะร่วมมือกับไทย ด้วยสถานการณ์ระหว่างประเทศทำให้ภาคเอกชนต้องเพิ่มศักยภาพความยืดหยุ่นในภาคการผลิตมากขึ้น รวมทั้งกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ไทยถือเป็นคู่ค้ารายสำคัญของแคนาดา แต่ไทยและแคนาดายังไม่มีข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องหากดำเนินการได้จะเป็นประโยชน์ต่อไทยและแคนาดามาก และเห็นว่าความตกลง FTA ระหว่าง ASEAN-Canada ที่กำลังเจรจากันอยู่น่าจะเป็นโอกาสดีให้ทั้งสองฝ่ายใช้ประโยชน์ จากนั้นหารือกลุ่มแนวร่วมธุรกิจเอเปก (U.S. APEC Business Coalition)

ตอบรับร่วมวงอาเซียนสมัยพิเศษ

จากนั้นนายเศรษฐาพบหารือทวิภาคีกับนายแอนโทนี แอลบาเนซี นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลีย นายเศรษฐากล่าวยืนยันความพร้อมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลีย ในเดือน มี.ค.2567 โดยจะนำภาคเอกชนร่วมคณะ ทั้งนี้ไทยและออสเตรเลียมีความคืบหน้าเขตการค้าเสรี (FTA) รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน เช่น การท่องเที่ยว บริษัทชั้นนำด้านรถยนต์ไฟฟ้า การตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ย้ายฐานการผลิตมาไทยจำนวนมาก และจะมาลงทุนในไทย นายกฯออสเตรเลียกล่าวว่า เชื่อมั่นความเป็นมิตรประเทศและความเป็นหุ้นส่วนสำคัญ ยินดีที่ไทยตอบรับเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษ มีคนไทยทั้งภาคธุรกิจ อาหาร อาศัยอยู่ในออสเตรเลียจำนวนมาก มีความร่วมมือสถาบันการศึกษาระหว่างกัน ปัจจุบันจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงมากทำให้สินค้าในประเทศราคาสูงขึ้น จึงให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลีย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ

ชักภาพหมู่ผู้นำเศรษฐกิจเอเปก

ต่อมาเวลา 12.10 น. นายเศรษฐาร่วมถ่ายภาพหมู่กับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก และร่วมการหารือระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน และการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้นำเศรษฐกิจเอเปกกับแขกพิเศษของประธาน (APEC Economic Leader’s Informal Dialogue and Working Lunch with Guests) (Session 1) นอกจากนี้ยังพบหารือกับ รมว.พาณิชย์สหรัฐอเมริกา จากนั้นเข้าร่วมกิจกรรมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF Summit) ที่ห้อง E24 (Family Photo Room) ชั้น B1 ศูนย์ประชุมมอสโคนีเซ็นเตอร์ กระทั่งเวลา 21.00 น. เข้าร่วมงานเลี้ยง อาหารค่ำผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก โดยนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าภาพเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่โถงเดอะคอร์ต ออฟออเนอร์ พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์แห่งซานฟรานซิสโก

ดีใจได้เซลฟี่ “โจ ไบเดน” ผู้นำสหรัฐฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐาทวิต X เป็นข้อความภาษาอังกฤษ แปลความได้ว่า “วันนี้เป็นโอกาสพิเศษที่ได้ถ่ายรูปเซลฟี่กับท่านประธานาธิบดี (โจ ไบเดน) ดีใจที่ได้มีโอกาสพบปะและพูดคุยกับผู้นำที่ทรงอิทธิพล” นอกจากนี้ ยังทวิต X เพิ่มเติมว่า “เอเปกเป็นหนึ่งในกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระดับภูมิภาคที่สำคัญที่สุด ประกอบด้วย 21 เขตเศรษฐกิจ มีประชากรรวมกันมากเกือบ 40% ของโลก ขณะเดียวกันยังมีสัดส่วนด้านการค้าเกือบ 50% ของการค้าโลก ปีนี้หัวข้อหลักของการประชุมเอเปกคือ การสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นสำหรับทุกคน สอดคล้องกับทิศทางของรัฐบาลไทยที่มุ่งเป้าไปข้างหน้าด้วยการพัฒนาการค้า การลงทุน การเติบโตที่ยั่งยืน และครอบคลุมสำหรับประชาชนและประเทศของเรา ขอบคุณเจ้าภาพและทุกท่านสำหรับการต้อนรับอันอบอุ่น”

นายกฯโอนเงินเดือนให้ 4 มูลนิธิ

ขณะที่นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ประกาศส่งต่อเงินเดือน และเบี้ยประชุมของทุกเดือนให้มูลนิธิต่างๆ ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง สำหรับเงินเดือนประจำตำแหน่งและเบี้ยประชุมในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้คัดเลือกมูลนิธิเพิ่มเติมอีก 4 แห่ง คือ 1.มูลนิธิคนพิการไทย 50,000 บาท เพื่อสมทบทุนในโครงการ “เป็นแขน-ขาให้ตากะยาย” ผลิตวีลแชร์เพื่อส่งเสริมกิจกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อเด็กพิการ คนพิการ และผู้สูงอายุทั่วประเทศ 2.มูลนิธิอิสรชน 50,000 บาท องค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินกิจกรรมกับผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะในประเทศไทย ที่ดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือ การแบ่งปันอาหาร หรือมอบถุงปันสุขให้แก่คนด้อย โอกาส และผู้ยากไร้ในช่วงภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ 3.มูลนิธิสายธารสุขใจ 50,000 บาท สมทบทุนซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง และจัดหาสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิตให้ผู้ชราและคนยากไร้ และ 4.มูลนิธิบ้านพระพร 50,000 บาท ช่วยเหลือและเป็นทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนผู้พ้นโทษ และเด็กที่พ่อแม่อยู่ในเรือนจำเพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“ภูมิธรรม” รอกฤษฎีกาตีความ

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 17 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตว่า คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตได้พูดคุยประเด็นต่างๆที่คณะกรรมการกฤษฎีการะบุว่าอยากช่วยดูรายละเอียด ถ้าเกิดความชัดเจนเรื่องข้อกฎหมายทุกฝ่ายจะได้สบายใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าคณะ กรรมการกฤษฎีกาจะปฏิเสธ คาดว่าน่าจะทำโดยเร็วที่สุด เราพยายามรับฟังเสียงข้อเสนอแนะให้ครอบคลุมมากที่สุด หากรัฐบาลจะออกเป็น พ.ร.ก.กู้เงินก็สามารถทำได้ เพียงแต่อยากให้ทุกคนสบายใจ และการเสนอกฎหมายเข้าสู่รัฐสภาน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เมื่อถามว่าขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกาอีกนานเท่าไหร่ นายภูมิธรรมตอบว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่คิดว่าเร็วที่สุด เพราะทุกคนรู้ว่าเป็นเรื่องด่วน

ยังไม่รู้ ก.ม.จะออกมาแบบไหน

ผู้สื่อข่าวถามว่าเงื่อนไขจะมีการปรับเปลี่ยนอีกหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ต้องรอฟัง ถ้าพิจารณาแล้วไม่มีปัญหาก็ผ่านได้เลย แต่ถ้ามีข้อท้วงติงต้องมีการประชุมกันอีก ถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อยจะเป็นการปรับและนำเสนอได้เลยเช่นกัน เมื่อถามว่าหากท้ายที่สุดแล้วโครงการดังกล่าวไม่สามารถทำได้ต้องยุติเลยหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ยังไม่รู้ว่าข้อกฎหมายจะออกมาแบบไหน การตัดสินใจอย่างไรขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงทางกฎหมาย

แจงภาพ “อิ๊ง” พบ “เหลิม” ไร้นัย

นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางไปเยี่ยม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่บ้านพักริมคลอง หลังจากก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม ประกาศตัดขาดกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า น.ส.แพทองธารได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ก่อนหน้านี้ได้ไปพบผู้อาวุโสภายในพรรคเพื่อรับฟังความคิดเห็น หลายคนที่ป่วยหรือติดขัดในภารกิจไม่ได้มาร่วมประชุม น.ส.แพทองธารจึงเดินทางไปเยี่ยมและขอคำแนะนำ บรรยากาศเป็นไปด้วยดี น.ส.แพทองธารไปทำหน้าที่หัวหน้าพรรค น้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกส่วน ภารกิจอีกอย่างคือการพยายามเชื่อมต่อสื่อสารคนหลายรุ่นในพรรค ถือเป็นเรื่องปกติของ น.ส.แพทองธารอยู่แล้ว เมื่อถามว่าเป็นการเคลียร์ใจหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่ต้องเคลียร์ใจ ความไม่พอใจหรือเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ วันเวลาผ่านไปก็เคลียร์ได้ เข้าใจได้ หากมีโอกาสจะเข้าไปกราบ ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนถือเป็นกำลังหลัก ร.ต.อ.เฉลิมก็ใช้ประสบการณ์ให้คำแนะนำ ขณะนี้ยังช่วยงานพรรคอยู่

“อุ๊งอิ๊ง” ย้ำสัมพันธ์ “ลุงเหลิม” ปึ้ก

ช่วงเย็นที่คลองโอ่งอ่าง เขตพระนคร กทม. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเดินทางไปพบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่บ้านริมคลองว่า บรรยากาศที่ได้พูดคุยดีมาก ก่อนหน้านี้สอบถามกับนายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.กทม.ว่าถ้ามีโอกาสอยากเข้าไปพูดคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม พอเจอกันก็ไม่มีอะไรมาก สอบถามว่าเป็นอย่างไร สบายดีหรือไม่ มีอะไรไม่สบายใจให้บอกกับตน ร.ต.อ.เฉลิมบอกว่ายังสนับสนุนพรรคเหมือนเดิม เชื่อว่าเรื่องบางเรื่องไม่สามารถยกหูหากันได้ พอเราได้ไปเจอก็ได้ความสบายใจ เมื่อถามว่าสรุป ร.ต.อ.เฉลิมหายงอนนายทักษิณแล้วหรือยัง น.ส.แพทองธารตอบว่า ร.ต.อ.เฉลิมกับนายทักษิณไม่ได้คุยกันเลย และตอนนี้นายทักษิณยังอยู่ข้างใน สอบถามท่านก็บอกว่าไม่มีอะไร ไม่รู้เรื่องเลย ไม่ทราบทำไมถึงมีการให้ข่าวแบบนั้น เข้าใจว่าไม่มีอะไรเลยจริงๆ “ไม่ได้ไปเจอลุงเหลิมในฐานะหัวหน้าพรรค แต่เข้าไปในฐานะที่รู้จักลุงเหลิม ตั้งแต่รุ่นคุณปู่ อิ๊งไปก็เพื่อความสบายใจของทั้งคู่ ไม่มีอะไร” เมื่อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์โครงการดิจิทัลวอลเล็ต น.ส.แพทองธารตอบว่า ขอให้เป็นฝั่งรัฐบาลชี้แจง จะได้ไม่มีปัญหากัน

ร่วมเทศกาลความสุข “ดิวาลี”

ที่บริเวณถนนพาหุรัด คลองโอ่งอ่าง กทม. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ พร้อมนายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช รมว.วัฒนธรรม นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ร่วมงานเทศกาลดิวาลี 2023 ถือเป็นเทศกาลสำคัญที่สุดของชาวอินเดียในการเฉลิมฉลองปีใหม่ โดยรัฐบาลร่วมกับภาคเอกชนจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “One day Trip 3 ศาสนา ศรัทธาแห่งบุญ” น.ส.แพทองธารเข้าสักการะพระพิฆเนศ และแวะชมการเต้นบูชา และเดินชมบรรยากาศตลาดคลองโอ่งอ่าง แวะชิมของว่างรวมถึงชาอินเดีย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ต้องการให้ประเทศ ไทยเป็นฮับของงานเฟสติวัล งานนี้ก็เป็นอีกงานที่เราสนับสนุน และยังเป็นเรื่องความสัมพันธ์คนไทยเชื้อสายอินเดีย เป็นเรื่องดีได้มาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน ความเชื่อความศรัทธา ถือว่าเป็นงานที่สวยงามอีกงาน

“แฮงค์” เดินหน้าเกษตรเชิงรุก

ที่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการบริหารจัดการการผลิตสินค้าเกษตร ตามแผนที่เกษตรเพื่อการบริการจัดการเชิงรุก (Agri-Map) และพบปะกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงวัว ที่แปลงเกษตรของนายยุทธนา ทัยบุตร หมู่ที่ 4 บ้านเขาดินไพรวัลย์ ต.นาขุนไกร อ.ศรีสำโรง นายอนุชากล่าวว่า กระทรวงได้ขับเคลื่อนโครงการ Zoning by Agri-Map เพื่อปรับโครงสร้างการผลิตในพื้นที่เหมาะสมน้อยหรือไม่เหมาะสม ให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนไปผลิตอย่างอื่นที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ สร้างมูลค่าสูงกว่าชนิดเดิม โดย จ.สุโขทัยใช้ประโยชน์และความเหมาะสมของดินเพื่อการเพาะปลูก (Agri-Map analytic) แบ่งเป็น พื้นที่เกษตรที่เหมาะสม 548,720 ไร่ และพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม 301,002 ไร่ ใน อ.ศรีสำโรง มีสภาพแห้งแล้งดินไม่สมบูรณ์ น้ำไม่ เพียงพอ ดังนั้นเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพึงพอใจมาก เนื่องจากได้ปรับปรุงให้มีแหล่งน้ำ สามารถทำเกษตรผสมผสานได้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนมาเลี้ยงโคคณิตศาสตร์ ส่งผลให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น จะสนับสนุนให้ ต.นาขุนไกร เป็นต้นแบบให้ลูกหลานเกษตรกรมีรายได้อย่างยั่งยืน

“พายัพ” ตอก สส.ก.ก.พวกสุขนิยม

นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษาของรองนายก รัฐมนตรี กล่าวว่า อยากถาม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ทำไมความรู้สึกช้านักว่าประชาชนต้องเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ ความยากจน ความอดอยากและทุกข์ยาก ทุกวันนี้ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเดือดร้อนเร่งด่วนหรือ ความจนและคนไม่มีกินไม่มีใช้เจ็บปวดแค่ไหน สส.บางคนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเพราะอาจไม่เข้าใจ ไม่เคยสัมผัสความยากจนเพราะเป็นพวกสุขนิยมพ่อแม่หาให้กิน แต่รัฐบาลนี้เห็นว่าความยากจนเป็นเรื่องเร่งด่วน การที่รัฐบาลทำเรื่องนี้ให้เป็น พ.ร.บ.กู้เงิน เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเพราะต้องการฟังเสียงประชาชน ไม่กังวลกับการตรวจสอบ เป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 140 และมาตรา 53 อยากให้ น.ส.ศิริกัญญาพิจารณาฟังเสียงให้รอบด้านด้วย

“ธนาธร” แนะวิธีใช้เงิน 5 แสน ล.

วันเดียวกัน เวลา 15.00 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก บรรยายหัวข้อ “ประเทศไทยควรได้อะไร หากต้องใช้ 5 แสนล้าน” ว่า เสนอว่าหากมีเงิน 5 แสนล้านบาท ควรกระจายเงินไปลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 5 ด้าน นอกเหนือจากงบประจำที่รัฐต้องจ่ายอยู่แล้ว ได้แก่ สาธารณสุข คมนาคม น้ำประปาดื่มได้ จัดการขยะ การศึกษา แบ่งเป็นสร้างระบบแพทย์ทางไกล หรือเทเลเมดิซีน ทั่วประเทศ 60,900 ล้านบาท รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด 88,000 ล้านบาท น้ำประปาดื่มได้ทั่วประเทศ 67,000 ล้านบาท ลงทุนเพิ่มศักยภาพโรงเรียน 121,000 ล้านบาท จัดการขยะอย่างถูกสุขลักษณะทั่วประเทศ 120,000 ล้านบาท รวม 456,900 ล้านบาท รัฐเลือกได้ว่าจะทำเองหรือให้เอกชนเข้ามาทำ ประเทศไทยวันนี้ไม่มีวันก้าวไปข้างหน้าเป็นประเทศที่เจริญได้โดยปราศจากเทคโนโลยี การใช้งบที่คุ้มค่าสูงสุด การใช้เงินเกือบ 5 แสนล้านบาท พัฒนาประเทศ 5 ด้านนี้ หากไม่ใช้เงินกู้ 5 แสนล้านบาท แต่ใช้งบแผ่นดินปกติ ทยอยทำ 8 ปี จะตกปีละ 60,000 ล้าน เชื่อว่าสามารถหาได้โดยไม่จำเป็นต้องกู้เพิ่ม และถึงแม้ 5 แสนล้านบาทเป็นจำนวนเงินที่มาก แต่ถือว่าคุ้มค่าหากนำมาใช้ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งประเทศ และยกระดับอุตสาหกรรมของไทย

“ศรีสุวรรณ” ชง ป.ป.ช.สอยนายกฯ

ช่วงสาย ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ กรณีเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ถือว่าส่อขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 140 และมาตรา 53 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ ไม่เข้าข่ายเป็นเรื่องเร่งด่วน เหตุผลที่นายเศรษฐากลืนน้ำลายตัวเองเพราะไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขในนโยบายหาเสียงได้ การกู้เงินมาแจกจึงมุ่งสร้างความนิยมทางการเมือง อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจประเทศและประชาชนในระยะยาว อาจเข้าข่ายจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนและมีความเห็น เพื่อเอาผิดนายกฯต่อไป

“พริษฐ์” เสนอตัดขั้นตอนแก้ รธน.

ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาปรับปรุง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติมาตรา 13 ว่าด้วยเกณฑ์ออกเสียงที่จะชี้วัดการผ่านประชามติว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ได้เชิญตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าชี้แจงกระบวนการแก้กฎหมายต้องให้รัฐบาลและฝ่ายค้านร่วมยื่นร่างแก้ไข ในช่วงเปิดสมัยประชุมเดือน ธ.ค.นี้ เบื้องต้นเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อกรอบเวลาทำประชามติสอบถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ ในช่วงเดือน ม.ค.2567 นอกจากประเด็นแก้ไขมาตรา 13 แล้ว ควรพิจารณาประเด็นอื่นควบคู่ คือแก้ปัญหาด้านธุรการที่ยุ่งยาก เช่น การกำหนดวันลงประชามติที่ยืดหยุ่น ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิมากขึ้น หรือการเข้าชื่อของประชาชนเพื่อเสนอคำถามประชามติที่สามารถลงชื่อทางออนไลน์ได้ เป็นต้น

“อรรถวิชช์” ลุยปฏิรูปเครดิตบูโร

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) นำตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน เข้ายื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทน ราษฎร เพื่อขอริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 10,000 รายชื่อ เสนอร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร มีนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาฯเป็นตัวแทนรับเรื่อง โดยนายอรรถวิชช์ กล่าวว่า เหตุการณ์ยิงลูกหนี้ที่ติดเงินค้างจ่าย 400 บาท เสียชีวิต สะท้อนถึงปัญหาหนี้นอกระบบนับวันจะร้ายแรงยิ่งขึ้น จำเป็นต้องเร่งแก้ไข หนี้ครัวเรือนตอนนี้สูงถึง 5.6 แสนบาทต่อครัวเรือนแล้ว สิ่งที่พวกเรานำเสนอ คือการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ด้วยการเสนอร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร ปฏิรูปการแจ้งข้อมูลจากการรายงานประวัติดีเสียปะปนตลอด 3 ปี เป็นการรายงานคะแนนเครดิต ใครคะแนนดีได้ดอกเบี้ยต่ำลงธนาคารจะเกิดการแข่งขัน ลูกหนี้เองก็มีกำลังใจสร้างเครดิตตัวเอง โดยใครสามารถชำระหนี้เสร็จสิ้นหรือกลับมาชำระหนี้ได้ปกติ 6 เดือนติดต่อกันจะลบประวัติทิ้งทันที และไม่ต้องเสียค่า ธรรมเนียมในการตรวจคะแนนเครดิตของตนด้วย วิธีนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยเฉพาะคนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้

จี้สางหนี้เป็นวาระแห่งชาติ

นายอรรถวิชช์กล่าวว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโรจะสร้างโอกาสให้กลับมาเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำได้ ไม่ต้องไปกู้หนี้นอกระบบดอกเบี้ยโหด หากทำสำเร็จ คนทำงานจะฟื้นตัวได้เร็ว เพราะขณะนี้ลูกหนี้ที่ถูกแช่แข็งทางการเงินมีกว่า 5 ล้านคน ภาคีเครือข่ายของเรามีทั้งภาคประชาชนและนักการเงินการธนาคารที่มาช่วยกันลงรายละเอียดในตัวร่างกฎหมาย อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ อดีตผู้จัดการใหญ่บริษัทข้อมูลเครดิต นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการองค์กรของผู้บริโภค และอีกหลายคนมาช่วยกัน หวังว่านายกฯเศรษฐา ทวีสิน ที่ประกาศให้การแก้หนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ จะร่วมสนับสนุนร่างกฎหมายภาคประชาชนฉบับนี้ เป็นทางออกแก้หนี้นอกระบบ และขอเชิญชวนผู้เดือดร้อน คนทำมาหากิน เข้ามาร่วมกันแสดงพลัง ลงชื่อสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโรให้เข้าสู่สภาฯ เมื่อทางสภาฯตรวจสอบและมีช่องทางให้ลงชื่อแล้ว เราจะเปิดตัวเว็บไซต์ให้ร่วมกันลงชื่อทันที

“ชัยชนะ” ตีปี๊บ 9 ธ.ค.ได้ หน.ใหม่

เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ จ.ภูเก็ต นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รักษาการรองเลขาธิการพรรค ปชป. กล่าวถึงการจัดประชุมวิสามัญประจำปี 2566 ของพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคและหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันที่ 9 ธ.ค.ว่า ผู้ที่จะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคที่แน่ชัดคือนายนราพัฒน์ แก้วทอง ส่วนคนอื่นๆต้องให้เจ้าตัวเป็นผู้ยืนยันเอง อยากให้เข้าใจว่าพรรค ปชป.เราเป็นสถาบันทางการเมืองก้าวสู่ปีที่ 78 วันนี้เราอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่าน 3 ชั่วอายุคน รุ่นเก่า รุ่นกลาง และรุ่นใหม่ จะให้คน 3 ยุคเข้าใจกันในทีเดียวก็คงไม่ได้ แต่ทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือ ต้องการฟื้นพรรคให้กลับมาเป็นพรรคหลัก ท้ายที่สุดแล้วต้องเปิดอกมาคุยกัน สิ่งไหน
ที่พรรคทำดีอยู่แล้วต้องรับไปทำต่อ ที่ต้องปรับให้เข้ายุคทันสมัยก็ต้องทำ มั่นใจว่าการประชุมวิสามัญวันที่ 9 ธ.ค.จะได้หัวหน้าพรรคแน่นอน

“ไผ่” หนุนกาสิโนดึงเงินใต้ดิน

นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมา ธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตั้งสถานกาสิโนและการพนันพื้นบ้านให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างรายได้และเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ เปิดเผยว่า รายได้ประเทศขณะนี้การท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลัก สาเหตุที่ตนมาศึกษาแนวคิดการตั้งกาสิโนให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อนำเงินมาพัฒนาได้ โดยส่วนหนึ่งพบว่านักท่องเที่ยวที่มาถ้าอยากเล่นพนันอาจต้องข้ามชายแดนไปที่เมียนมา ลาว กัมพูชา แต่ของประเทศเราที่มีสภาพภูมิประเทศสวยงามกว่าทุกที่ แต่กลับไม่มีกาสิโน นอกจากนี้ ถ้าไปสำรวจชายแดนพบว่าคนที่ไปเล่นพนันคือคนไทย แล้วเราจะปล่อยให้เงินออกนอกประเทศเช่นนี้หรือ ควรนำมาพัฒนาบ้านเมืองของเรา ประเทศอื่นเขามีกาสิโนกันมา 50 ปีแล้ว เราเดินช้ากว่าคนอื่น แต่ของเราตนเชื่อว่าดีกว่าเยอะ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม

แฉส่วยบ่อนเถื่อนเกลื่อนกลาด

นายไผ่กล่าวว่า ปัญหาที่หลายฝ่ายกังวลเยาวชนจะเข้าไปเล่นการพนันนั้น เป็นไปไม่ได้เลย เพราะระบบกาสิโนตามที่ได้ศึกษามาอย่างที่ประเทศสิงคโปร์ คนที่จะเข้าไปเล่นต้องกรอกเอกสารมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปมาก ถ้าอายุไม่ถึง เขาบอกเลยไม่ให้เล่น และมีจำกัดเวลา จำกัดเงิน เราทำได้หลายรูปแบบ แต่บ่อนเถื่อนที่อยู่รายล้อมลูกหลานเรา จำกัดอะไรได้หรือไม่ เชื่อว่าถ้ามีสิ่งที่ถูกต้องจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า และอีกสาเหตุที่ตนมาศึกษาแนวคิดการตั้งกาสิโนให้ถูกต้องตามกฎหมายก็เพราะไม่อยากให้มีส่วยที่ทำให้เกิดระบบผู้มีอิทธิพล ขณะที่การพนันออนไลน์ก็สูบเงินลูกหลานเราไปมหาศาล ถึงเวลาต้องเอาจริงเอาจัง เพราะวันนี้ระบาดไปทั่วแล้ว

กกต.เร่งเครื่องฟัน 80 คดีเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กกต.ถึงความคืบหน้าดำเนินการเกี่ยวกับคำร้อง สำนวน การวินิจฉัยและการดำเนินคดีการเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป 2566 ว่า ขณะนี้สำนักงาน กกต. คงเหลือเรื่องอยู่ระหว่างดำเนินการ 80 เรื่อง มีข้อมูลพบว่าเป็นกรณีคำร้องความปรากฏและข้อมูลเบาะแสที่ได้รับแจ้งมา โดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเป็น สส.และไม่ได้รับเลือกตั้ง รวมทั้งผู้ช่วยและทีมงานผู้สมัคร สส.จากพรรคต่างๆ ทั้งนี้ กระบวนการดังกล่าวอยู่ระหว่างขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนพยาน และเร่งหาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาคำร้องของอนุกรรมการวินิจฉัยและ กกต.จังหวัด เมื่อพิจารณาข้อมูลครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว จะเสนอเรื่องนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต. เพื่อวินิจฉัย หากที่ประชุมเห็นว่า ข้อมูลและพยานหลักฐานที่เสนอเข้ามายังมีน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ จะให้ไปสอบสวนเพิ่มเติม แล้วค่อยนำเรื่องเสนอกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง

“สมชัย” ฟ้องกลับ “พิชิต-พร้อมพงศ์”

ที่ศาลอาญา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. พร้อมนายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความ ยื่นฟ้องนายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษานายกฯ กับนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต สส.เพื่อไทย เป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานฟ้องเท็จ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา นายสมชัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2566 นายพิชิตมอบให้นายพร้อมพงศ์ยื่นฟ้องตนฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณากรณีโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการแต่งตั้งนายพิชิตเป็นรัฐมนตรีไม่มีความเหมาะสมเพราะเคยรับโทษทางอาญาคดีถุงขนม หลังตรวจคำฟ้องดังกล่าวพบมีบางส่วนเป็นความเท็จ และนายพร้อมพงศ์นำความเท็จมาให้สัมภาษณ์สื่อหลายหน ทำให้เสียหายต่อชื่อเสียง เกียรติยศ และการทำงาน เลยมาฟ้องว่านายพิชิตฟ้องเท็จ เรียกค่าเสียหาย 25 ล้านบาท และนายพร้อมพงศ์ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เรียกค่าเสียหาย 25 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย ศาลรับคำฟ้องไว้ไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 4 มี.ค.2567

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่