“จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร” รักษาการรองเลขาธิการ ปชป. ชู ทัพนักกีฬาไทย คว้าอันดับ 7 เอเชียนพาราเกมส์ จี้ เงินอัดฉีดต้องเท่ากัน เท่าเทียมนักกีฬาปกติ เพื่อฮีโร่นักกีฬาคนพิการของไทย ยกตัวอย่างในสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2566 น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรค ปชป. โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว ร่วมแสดงยินดีกับกองทัพนักกีฬาไทย ในการแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน มีใจความว่า ปิดฉากการแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ที่หางโจว ประเทศจีน ทัพนักกีฬาทีมชาติไทย อยู่อันดับที่ 7 ของเอเชีย คว้ามาได้ 108 เหรียญ แบ่งเป็น 27 เหรียญทอง 26 เหรียญเงิน และ 55 เหรียญทองแดง ซึ่งผลงานดีขึ้นกว่าครั้งก่อน อีกทั้งยังทำลายสถิติการแข่งขันหลายรายการอีกด้วยค่ะ ที่ผ่านมา ตั๊นได้มีโอกาสเดินทางไปให้กำลังใจในการฝึกซ้อมของนักกีฬาในหลายประเภท ทำให้ได้เห็นทั้งความมุ่งมั่น ตั้งใจ และเห็นถึงศักยภาพของนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก ตั๊นขอแสดงความยินดีกับทัพนักกีฬาและทีมงานทุกท่าน ขอบคุณที่สร้างความสุขให้คนไทยทั้งประเทศ ซึ่งถ้าคุณพ่อ นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี อดีตประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย รับรู้ด้วยญาณวิถี ก็คงจะมีความสุขไม่แพ้กันค่ะ
...
“จากความสำเร็จของนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยในครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านนายกรัฐมนตรี จะผลักดันเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ให้เท่าเทียมกับนักกีฬาปกติ อย่างที่ได้เคยเรียกร้องมาก่อนหน้า เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักกีฬาให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีเทียบเท่ากับคนปกติค่ะ ข้อมูลกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในส่วนของนักกีฬาที่ทำผลงานในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ เหรียญทองละ 2 ล้านบาท เหรียญเงิน 1 ล้านบาท เหรียญทองแดง 5 แสนบาท แต่สำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ของคนพิการ เหรียญทองได้เพียง 1 ล้านบาท เหรียญเงิน 5 แสนบาท เหรียญทองแดง 2.5 แสน ตามลำดับ
จากการอ้างอิงข้อมูลจากเพจวิเคราะห์บอลจริงจัง ปรากฏว่า เงินรางวัลอัดฉีดของนักกีฬาปกติที่เทียบเท่ากับพิการ มีอยู่จริงในสหรัฐอเมริกา ซึ่งวุฒิสมาชิก มาเรีย แคนท์เวลล์ จากพรรคเดโมแครต และวุฒิสมาชิกเชลลีย์ มัวร์ คาปิโต้ จากพรรครีพับลิกัน ได้ร่วมมือกันผลักดันกฎหมายเงินรางวัลนักกีฬาคนปกติและคนพิการให้ "เท่ากัน" ในชื่อ Equal Pay for Team USA ถึง 3 ปี ในที่สุดกฎหมายก็ผ่านวาระ การพิจารณาจากวุฒิสมาชิกอย่างเป็นเอกฉันท์ และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศใช้กฎหมายนี้อย่างเป็นทางการในวันที่ 5 มกราคม 2023 ในชื่อกฎหมาย Equal Pay for Team USA Act of 2022” น.ส.จิตภัสร์ ระบุทิ้งท้าย.