รักษาราชการแทนอธิบดีราชทัณฑ์ ยอมรับภาพ “ทักษิณ” ในชุดคนไข้นอนเตียง ผู้ป่วยที่ถูกแชร์ว่อนโซเชียลเป็นภาพจริง เป็นภาพขณะถูกนำตัวออกไปทำซีทีสแกน และเอ็มอาร์ไอ เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ขณะนี้อาการปลอดภัย แต่บอกรายละเอียดไม่ได้ เผยแพทย์ยังไม่ได้แจ้งกลับมาว่าจะขยายระยะเวลาการรักษาสิ้นสุดตอนไหน โดยวันที่ 22 ต.ค.ที่จะถึง จะเป็นการพักรักษาตัวนอกเรือนจำเกิน 60 วัน ถึงตอนนั้นทีมแพทย์ต้องส่ง ความเห็นเสนอ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อขอความเห็นชอบจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พิจารณา ความเห็นและนำเสนอไปยังปลัดกระทรวงยุติธรรมไปตามลำดับชั้น “เศรษฐา” รับเห็นภาพแล้ว ยันไม่มี การทำอะไรนอกเหนือกฎหมาย

ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ถูกนำตัวเข้ากระบวนการกฎหมายส่งตัวขึ้นศาลฎีกา บังคับโทษ 3 คดี นับโทษรวมจำคุก 8 ปี และถูกคุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯทันที แต่ในคืนเดียวกันนายทักษิณถูกนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ เพราะมีอาการแน่นหน้าอกกะทันหัน ค่าออกซิเจนต่ำและค่าความดันโลหิตสูงมากและยังคงรักษาตัวมาตลอด โดยอยู่ที่ ห้องพักชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา รพ.ตำรวจ เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน ล่าสุดปรากฏภาพถ่ายในโซเชียลมีเดีย เป็นภาพเคลื่อนย้ายนายทักษิณในชุดคนไข้สีฟ้า สวมหน้ากากอนามัยนอนอยู่บนเตียงรถเข็นของผู้ป่วย อีกทั้งยังมีบุคคล 2 รายยืนขนาบข้างเตียง ลักษณะคล้ายบุตรสาวทั้งสองคนนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 14 ต.ค. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า รับรายงานจากนายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มหานคร ว่า เมื่อช่วงเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ต.ค. ทีมแพทย์รักษาและประเมินสุขภาพของนายทักษิณนำอดีตนายกรัฐมนตรีไปซีทีสแกน และเอ็มอาร์ไอ เสร็จสิ้นในเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน ขณะนี้อาการปลอดภัย กลับไปนอนพักรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยดังเดิม การรักษาทั้งหมดเป็นไปตามระบบการรักษาผู้ป่วยของแพทย์ ส่วนรายละเอียดการเจ็บป่วย ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นไปตามหลักการคุ้มครองสิทธิของผู้ป่วยและตามจรรยาบรรณของแพทย์

...

เมื่อถามว่าการนำตัวนายทักษิณไปทำซีทีสแกนและเอ็มอาร์ไอนั้น จะเกี่ยวข้องกับระบบสมองหรือไม่ นายสหการณ์ปฏิเสธว่าไม่ทราบจริงๆ เพราะที่ผ่านมาอดีตนายกรัฐมนตรีมีการเจ็บป่วยหลายโรครุมเร้า ต่อข้อถามว่า เพราะเจ้าตัวมีอาการเจ็บป่วยขึ้นมาเองเป็นสาเหตุทำให้เจ้าพนักงานเรือนจำที่ดูแลแจ้งแพทย์ รพ.ตำรวจใช่หรือไม่ นายสหการณ์ระบุว่า ปกติแพทย์จะดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เพราะการรักษาในลักษณะของการเจ็บป่วยตั้งแต่ช่วงย้ายตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เจ้าพนักงานเรือนจำไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องแต่จะรับผิดชอบในเรื่องความปลอดภัยและป้องกันไม่ให้ผู้ต้องขังหลบหนีหรือเกิดเหตุอันตรายใดๆขึ้น เป็นทางแพทย์ รพ.ตำรวจที่ส่งตัวนายทักษิณไปเข้ากระบวนการซีทีสแกนดังกล่าว

สำหรับประเด็นการส่งตัวนายทักษิณไปซีทีสแกนและเอ็มอาร์ไอ ครอบครัวรับทราบหรือไม่ นายสหการณ์ ยืนยันว่า ปกติญาติสามารถเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังป่วยได้อยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติที่ญาติจะรับทราบกระบวนการการรักษาทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้งนี้แพทย์ผู้รักษายังไม่ได้แจ้งกลับมาที่ราชทัณฑ์เพิ่มเติมว่าจะขยายระยะเวลาการนอนพักรักษาตัวของนายทักษิณไปสิ้นสุดที่ห้วงเวลาใด

นายสหการณ์ยังระบุด้วยว่า หลังจากนี้ในช่วงวันที่ 22 ต.ค.ที่จะถึง นายทักษิณจะเข้าสู่ระยะการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำฯเกินกว่า 60 วัน หากเป็นเช่นนั้น ทีมแพทย์ผู้รักษาจะต้องนำส่งความเห็นการวินิจฉัยเสนอต่อผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อขอความเห็นชอบจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ จากนั้น อธิบดีกรมราชทัณฑ์จะพิจารณา ความเห็นดังกล่าวของแพทย์ และนำเสนอไปยังปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นไปตามลำดับชั้น เพื่อให้รับทราบถึงกระบวนการการรักษาผู้ต้องขังป่วย ส่วนถ้าหากจะมีการรักษาเกินกว่า 120 วัน จะต้องนำเสนอไปยังชั้นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

ก่อนนี้เมื่อเวลา 08.45 น. วันเดียวกัน ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ตอบคำถามนักข่าวหลังมีภาพคณะแพทย์พยาบาลเข็นเตียงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตำรวจ มีหลายคนจับจ้องว่ารัฐบาลจะไปช่วยเหลืออะไรเป็นพิเศษหรือไม่ว่า ได้เห็นภาพแล้ว ทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็ยืนยันว่าเป็นภาพจริงตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวไปแล้ว ยืนยันกรมราชทัณฑ์ให้ความเป็นธรรมกับผู้ป่วย และนักโทษทุกคน ไม่มีการทำอะไรที่นอกเหนือกฎหมาย

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่