นายกฯ เปิดอาคาร SAT-1 มั่นใจ รองรับนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น จุดประกายเครื่องยนต์เศรษฐกิจกลับมาเติบโต ชมเปาะ "ทักษิณ" วิสัยทัศน์กว้างไกล วางโครงสร้างสนามบินสุวรรณภูมิได้ดี ช่วยประหยัดงบประมาณ
วันที่ 29 ก.ย. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1: SAT-1) แบบ Soft Opening ณ อาคาร SAT-1 โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ AOT และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ
...
นายกฯ กล่าวระหว่างเดินมาร่วมพิธีเปิดอาคาร SAT-1 ว่า สนามบินสุวรรณภูมิ หลาย 10 ปีที่แล้ว ในการก่อสร้างสนามบิน โชคดีที่เราสร้างอุโมงค์ไว้ก่อน ทำให้การต่อเติมเป็นไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งงบประมาณสมัยก่อนในการดำเนินการสร้างอุโมงค์ก็มีราคาถูก ตอนนี้ก็สามารถเชื่อมต่อกับ SAT-1ได้ดี ทำได้เร็วและเป็นประโยชน์มาก ซึ่งสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทำไว้ก่อน ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ทำให้ตอนนี้ประหยัดงบประมาณได้มาก ซึ่งปัจจุบันถือว่าดีมาก และบังเอิญประจวบเหมาะกับเวลาที่เราเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ผ่านการท่องเที่ยว ถือว่าการท่าฯ ทำไว้ดีมาก ส่วนรถไฟฟ้า (APM) เชื่อมต่อจากสนามบินมา SAT-1 ระยะทาง 1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1.5 นาที ซึ่งเมื่อวันที่ 28 กันยายน ได้เปิดทดสอบนักท่องเที่ยววันแรกแล้ว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาท่าอากาศยานไทยทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพเพราะเป็นหนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ผ่านการใช้จ่ายจุดประกายให้เครื่องยนต์เศรษฐกิจกลับมาเติบโตอีกครั้ง การพัฒนาสนามบินให้นักท่องเที่ยวกลับมาท่องเที่ยวไม่เพียงแต่พัฒนาเศรษฐกิจแต่ได้ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น เพราะการท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้สำคัญกระจายสู่ประชาชนได้รวดเร็วสร้างงานสร้างอาชีพและธุรกิจมากมายให้กับภาคท่องเที่ยวการเปิดให้บริการสนามบินจะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสารและเที่ยวบินได้มากควบคู่กับการเปิดรันเวย์ในกลางปีหน้า และนอกจากอาคารที่เพิ่มขึ้นแล้วอยากให้การบริหารและการบริการในสนามบินไม่ติดขัดเพียงพอกับการรองรับผู้ โดยสารที่จะเข้ามาจำนวนมาก และฝากผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดช่วยเรื่องนี้ เพราะจะทำให้เกิดศักยภาพและประโยชน์กับทุกภาคส่วนทั้งผู้ใช้บริการและสายการบิน และรองรับการค้าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมากในระยะยาวหวังว่าทุกสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้พัฒนาขึ้นรวมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์การบินแห่งภูมิภาคในระยะระยะเวลาอันใกล้