การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กลายเป็นห่วงผูกคอรัฐบาล ต้องทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน!!
ข้อสำคัญเป็น “นโยบายเร่งด่วน” ที่รัฐบาลแถลงต่อสภาฯ
ถ้ารัฐบาลเร่งรัดจัดลงประชามติให้มี ส.ส.ร.ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ใช้แทนรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจเผด็จการโดยเร็ว
ห่วงผูกคอรัฐบาลก็จะหลุดไป รัฐบาลจะหายใจโล่งปอดยิ่งกว่าเดิม
แต่ถ้ารัฐบาลไม่รีบทำตามสัญญา ห่วงก็จะยิ่งรัดคอแน่นขึ้นทุกที
และสุดท้าย...ถ้าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต??
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า นาทีนี้รัฐบาลยังไม่เปิดไต๋ว่าจะเอายังไงแน่กับนโยบายเร่งด่วนรัฐธรรมนูญ??
รัฐบาลจะให้มี ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ??
หรือจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา??
แถมบรรดาแกนนำรัฐบาลก็ให้การขัดแย้งกันเอง
นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ตอบแบบกำปั้นทุบดินว่ายังไม่แน่ใจว่ารัฐธรรมนูญจะแก้ไขเสร็จภายในกี่เดือนกี่ปี??
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รอง หน. พรรคเพื่อไทย คาดว่ากระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะใช้เวลา 1 ปีครึ่ง
บวกแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญอีก 6 เดือน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ประธาน กก.ศึกษาการทำ ประชามติรัฐธรรมนูญ ระบุว่าไม่เกิน 4 ปี
เนื่องจากต้องให้ทุกพรรค การเมืองและสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบร่วมกัน
แม้แต่คำถามในการลงประชา มติก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า การให้ประชาชนลงประชามติเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ให้มี ส.ส.ร.จากการเลือกตั้ง ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง
ไม่เห็นจะต้องใช้เวลาพิจารณาอะไรกันมากมาย
คำถามสั้นๆง่ายๆตรงไปตรงมาคือ “ท่านเห็นชอบหรือไม่ให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน”
...
ถ้าผลประชามติ ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย ก็เริ่มกระบวนแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดประตูให้มี ส.ส.ร. 200 คน ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้เลย
ผลประชามติจะบังคับ สว.ลากตั้ง ต้องยอมเปิดทางให้มี ส.ส.ร.ทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยไม่หือไม่อือ
ล่าสุด กกต. ได้ส่งรายชื่อประชาชน 159,000 คน ที่ลงชื่อสนับสนุนให้ทำประชามติ ไปถึงสำนักงาน เลขาธิการ ครม.
รายชื่อประชาชนกว่า 1.5 แสนคน เป็นห่วงผูกคอรัฐบาลเศรษฐา ต้องเปิดไฟเขียวให้มีการลงประชามติภายใน 90 วัน
ย้ำชัดๆ รัฐบาลต้องจัดให้มีการลงประชามติใน 90 วัน!!
เจอดอกนี้เข้าไป ยื้อไม่ได้เบี้ยวไม่ได้ซะแล้วโยม.
"แม่ลูกจันทร์"
คลิกอ่านคอลัมน์ "สำนักข่าวหัวเขียว" เพิ่มเติม