เพิ่งบริหารประเทศได้หนึ่งสัปดาห์ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรัฐมนตรีคลัง ก็มาร่วมงานเสวนา Thairath Forum 2023 เป็นเวทีแรกในหัวข้อ “เปิดมุมคิดพลิกอนาคต” 09.00 น. วันจันทร์ เสวนาเสร็จก็กลับไปประชุม ครม.ต่อในเวลา 11.00 น. ช่วงบ่าย 16.00 น. ก็บินไปสหรัฐฯเพื่อร่วมประชุม องค์การสหประชาชาติ ครั้งที่ 78 ที่นครนิวยอร์ก ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจริงๆ การประชุม ครม.นัดที่สองนี้ นายกฯเศรษฐา ได้ฝากของขวัญให้กับประชาชนได้ดีใจด้วยการ อนุมัติลดค่าไฟฟ้าเพิ่มอีกหน่วยละ 11 สตางค์ เหลือหน่วยละ 3.99 บาท มีผลทันทีในบิลค่าไฟเดือนกันยายน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน หลังจากที่เพิ่งลดค่าไฟไปในการประชุม ครม.นัดแรก จากหน่วยละ 4.35 บาท เหลือ 4.10 บาท

เห็นการทำงานของ นายกฯเศรษฐา แล้ว ก็ต้องชมว่า ทำงานรวดเร็วฉับไวจริงๆ ติดดินมีความเป็นประชาชนคนธรรมดา ไม่ทำตัวเป็นนายกฯเจ้าขุนมูลนายเหนือประชาชน

นายกฯเศรษฐา กล่าวบนเวทีเสวนาว่า เศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในภาวะที่ไม่ค่อยดีประชาชนมีค่าใช้จ่ายสูง เงินในกระเป๋าน้อยลง จึงต้องเร่งทำเรื่องการลดค่าใช้จ่ายของประชาชน อะไรที่ทำได้ก่อนก็ทำทันที เช่น การพักหนี้เกษตรกร พักไป 13 ครั้งใน 9 ปี พักแล้วพักอีก แต่ก็ยังเดือดร้อนแล้วเดือดร้อนอีก และเดือดร้อนต่อไปเรื่อยๆ แสดงว่าภาพใหญ่ในระยะกลางและระยะยาวไม่มีการบูรณาการอย่างชัดเจน แต่การพักหนี้ก็จำเป็น ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ให้ข้อคิดเห็นว่า หากพักแล้วพักอีกโดยไม่มีแผนระยะยาวที่จะทำให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้ อยู่อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ก็ต้องกลับมาพักอีก (ผมได้เขียนความเห็นและข้อท้วงติงของผู้ว่าการแบงก์ชาติไปในคอลัมน์นี้เมื่อวานนี้แล้ว)

นายกฯเศรษฐา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พี่น้องเกษตรกรไม่ได้อยากพักหนี้ เขาก็อยากอยู่อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี สามารถใช้หนี้ได้ แต่เรื่องการพักหนี้เป็นเรื่องแรกที่จำเป็นต้องทำ อะไรที่ทำได้ก็ทำก่อน มีการมอบหมาย ครม.ไปแล้วว่ามีอะไรต้องทำอีก อาทิ การผ่อนหนี้รถ หนี้ส่วนตัว จะมีนโยบายทยอยออกมา บำบัดทุกข์บำรุงสุขระยะสั้น ช่วยลดรายจ่ายประชาชน

...

นายกฯเศรษฐา กล่าวว่า การเพิ่มรายได้ระยะสั้นที่สุด คือ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะพยายามให้จบเร็วที่สุด ไม่น่าเกินไตรมาส 1 ปี 2567 ยืนยันว่าตรงจากภาครัฐสู่ประชาชน ไม่มีการเข้ากระเป๋าใคร ไม่มีการละลายระหว่างทางแน่นอน เรื่องระยะเวลาระยะทาง ประเภทสินค้าในการใช้ก็สำคัญ แต่ยืนยันว่าเป็น one time หนเดียว ปีเดียว งบประมาณ 560,000 ล้านบาท ไม่ใช่งบผูกพัน เป็นการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ในระยะสั้น หวังให้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ถ้าผมสามารถประกาศ สมมตินะครับว่าเป็น 1 กุมภา ผมมั่นใจครับว่า เม็ดเงิน 560,000 ล้านที่จะเข้าไปในตลาดวันที่ 1 กุมภา คงมีหลายๆธุรกิจที่เร่งผลิตเร่งจ้างงาน เพื่อเอาสินค้ามารองรับ จริงๆ แล้วการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเกิดก่อนวันที่ดิจิทัลวอลเล็ตจะถูกLaunch ออกไปด้วยซ้ำ”

การไปร่วมประชุมยูเอ็นครั้งนี้ นายกฯเศรษฐา เปิดเผยว่า จะถือโอกาสไปพูดคุยกับบริษัทใหญ่ๆระดับโลกให้มาลงทุนที่เมืองไทย รัฐบาลที่แล้วมีการปูทางไว้บ้าง แต่เราจะทำมากขึ้น จุดขายของประเทศไทยดีกว่าประเทศในอาเซียน ทั้งจุดที่ตั้งประเทศ ความพร้อมของสนามบิน ท่าเรือ กฎหมาย ภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมาก และเรื่องที่ไม่ได้มีการพูดถึงอย่าง ชีวิตความเป็นอยู่ของคนต่างประเทศที่จะเข้ามา เรามี World Class Healthcare มีโรงเรียนนานาชาติระดับโลกหลายโรงเรียน รวมทั้ง sea sand and sun อาหารการกิน รอยยิ้ม พร้อมหมด เราจะพยายามเป็นรัฐที่สนับสนุนให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น

นี่แค่หนังตัวอย่างในสัปดาห์แรกที่เป็นนายกฯ ก็หวังว่าคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรัฐมนตรีคลัง จะสามารถ “พลิกอนาคตประเทศให้ฟื้นกลับมาสดใสได้อีกครั้ง” หลังจากที่ซบเซามายาวนานถึง 9 ปีเลยทีเดียว.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม