“นายกฯ เศรษฐา” ย้ำค้านรัฐประหารแต่ไม่ใช่ต้องไม่คุยทหาร แจงเรื่องที่ไม่ได้แถลงไม่ได้แปลว่าหายไป บอกอีก 2 สัปดาห์ได้ที่มาแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทแน่ ยัน ไม่มีทุจริตแน่นอนเพราะให้โดยตรง ย้ำแก้ รธน.ไม่แตะหมวดพระมหากษัตริย์ 

วันที่ 15 ก.ย. 2566 เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ผ่านเพจ THE STANDARD มีเนื้อหาสรุปว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้เป็นเพราะความจำเป็นทางคณิตศาสตร์ โดยการเรียกความศรัทธาของพรรคเพื่อไทยหลังจากนี้ก็จะให้การทำงานของเรา ส่วนภาพที่เดินชมทำเนียบรัฐบาลร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ เป็นการพูดคุยกันของผู้ใหญ่สองคนที่ส่งมอบงานกัน อะไรที่ดีอยู่แล้วก็จะทำต่อ เพราะตนไม่ได้ยึดที่คนยึดกับความมากกว่า เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่าตอนนี้มีความเกรงใจหรือกลัวทหารหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้กลัว ที่ผ่านมาตนไม่เคยใช้คำว่าปฏิรูปกองทัพใช้คำว่าพัฒนามาโดยตลอด จุดยืนตนไม่ได้เปลี่ยน คือเรื่องทหารเข้ามาช่วยพัฒนา เช่นเรื่องภัยพิบัติ การพัฒนาพื้นที่ทำกินของประชาชน ส่วนเรื่องเกณฑ์ทหารโดยความสมัครใจ ตนไม่เคยบอกให้ยกเลิก แต่ให้เป็นการสมัครใจในการเกณฑ์ทหาร ทุกอย่างอยู่ในกรอบที่พูดคุยกัน ดูการซื้ออาวุธให้ดี ก่อนซื้ออาวุธต้องแลกกับอย่างอื่นด้วย เช่นซื้อข้าวเราได้หรือไม่ ถึงยืนยันไม่ได้เปลี่ยนจุดยืน เมื่อถามว่านโยบายเพื่อไทยคือป้องกันการรัฐประหาร นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร แต่ไม่เห็นด้วยไม่ได้หมายความว่าต้องไม่พูดคุยกัน อะไรเห็นด้วยกันก็ทำกันไป ไม่มีประโยชน์ที่จะไม่พูดกันเพราะอย่างไรก็ต้องทำงานร่วมกัน ยืนยันไม่กลัวไม่เกรงใจ เราอยู่ด้วยกันอย่างผู้ใหญ่ พูดจากันด้วยเหตุผล อาจไม่เห็นตรงกันทุกเรื่องแต่เวลานี้คนประสบปัญหาเยอะ 

...

เมื่อถามถึงการดึงบางนโยบายออกจากการแถลงต่อรัฐสภาจนถูกวิจารณ์เป็นนโยบายนินจา นายเศรษฐา กล่าวว่า การที่จะทำอะไรต้องมีความชัดเจนมีความแม่นยำ ถ้าพูดแล้วทำไม่ได้จะมีปัญหา ตัวชี้วัดต่างๆ จะทยอยออกมาว่าเมื่อไรอย่างไร การประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้งก็จะมีนโยบายต่างๆ ตามมา หลังจากนี้จะมีตัวชี้วัดที่ชัดเจนกว่านี้ ยืนยันรายละเอียดของตัวเลขต่างๆ ที่ไม่ได้แจ้งในการแถลงนโยบายไม่ได้แปลว่าหายไป แต่เดี๋ยวจะเอาความชัดเจนออกมา การแถลงนโยบายเป็นการบอกทิศทาง เข้าใจว่าประชาชนอยากเห็นแผนทั้งหมด แต่ขอความเห็นใจ เราเพิ่งเข้ามาไม่อยากพูดอะไรที่ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในภายหลัง การประชุม ครม.ที่ผ่านมาก็ทำให้เห็นแล้วว่าอะไรทำได้ทำไปก่อน อะไรที่ทำไม่ได้ก็อยู่ในกระบวนการอยู่ เมื่อถามย้ำว่า มีการตั้งข้อสังเกต บอกไม่รับลุงก็เปลี่ยนคำพูด ในนโยบายตอนหาเสียงให้ตัวเลขไว้ แต่พอแถลงนโยบายก็ไม่มีอีก ทำให้เกิดคำถามว่าอะไรที่เราเชื่อได้บ้างจากนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องที่ยังไม่ได้พูดไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำ การประชุม ครม.นัดแรกเราก็ทำให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นดิจิทัลวอลเล็ตหรือเรื่องอื่นๆ ที่จะตามมาความชัดเจนจะมีมาแน่นอน 

เมื่อถามถึงความชัดเจนนโบบายดิจิทัลวอลเล็ต นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลมีแน่นอน 10,000 บาท แน่นอน 4 ตารางกิโลเมตร เมื่อมีการพูดคุยกันมากก็ต้องดูอีกทีจะขยับหรือไม่ ส่วนระยะเวลา 6 เดือนไม่ขยับเพราะเราต้องการให้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เรื่องงบประมาณอีก 2 สัปดาห์จะมีตัวเลขว่างบประมาณมาจากไหน ขอให้มีความชัดเจนก่อนแล้วจะชี้แจงทีหลัง บล็อกเชนแน่นอน ใช้ดาต้าของกรุงไทยแต่ไม่ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ไม่ใช่คริปโตฯ เทรดไม่ได้ เป็นการให้ประชาชนเอาเงินไปใช้ในระยะทางที่จำกัด เมื่อถามว่าจะเป็นการเอื้อนายทุนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ไม่ได้มีทุกจังหวัดต้องให้หมดทุกอัน ความเสมอภาคทั่วถึงจะดีกว่า มีเงินเข้าไป 5 แสน 6 หมื่นล้าน สมมุติว่าเป็นวันที่ 1 ก.พ. การกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้เกิดวันนั้น แต่จะเกิดขึ้นก่อนต้องเพิ่มกำลังผลิต พอเรากำหนดวันที่ได้จะมีการออกอะไรมาอีกหลายอย่าง ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง โดยภายใน 2 สัปดาห์จะชี้แจงที่มาของเงินอย่างแน่นอน เพราะจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังจะมีมีงบประมาณที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นมา 2 แสนกว่าล้าน ส่วนอื่นๆ ก็จะชี้แจงให้ทราบ เมื่อถามว่าหากนโยบายดังกล่าวทำมาแล้วเกิดปัญหาจะรับผิดชอบอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่าทำไมไม่ถามบ้างว่าหากทำมาแล้วดีจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้ทุจริตไม่มีแน่นอนเพราะให้โดยตรง หลายเรื่องทำอยู่แล้วแจกเงินให้ประชาชนอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้มีสถานที่ใช้อยู่แล้วไม่มีคอร์รัปชัน 

เมื่อถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีมีการตั้งคณะทำงานเพื่อทำประชามติหรือไม่เป็นการซื้อเวลาหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ใช่การซื้อเวลาแน่นอน เป็นการตั้งคณะทำงานเพื่อรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน เราทำประชามติแน่นอน ผ่านกลไกรัฐสภา ที่เป็นตัวแทนประชาชนอยู่แล้ว โดยไทม์ไลน์จะเป็นอย่างไรนั้น สสร.ต้องฟังประชามติก่อน ตอนนี้เริ่ม แล้วยืนยันทำตามไทม์ไลน์ไม่ใช่การซื้อเวลา เราต้องการให้คนเห็นต่างร่วมพูดคุยว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาอย่างไร โดยสิ่งที่ไม่แก้คือหมวดพระมหากษัตริย์ชัดเจน ส่วนเรื่องอื่นก็รอฟังประชามติ ส่วนเรื่อง 112 ยืนยันไม่มีการปรับแก้ ขณะที่นักโทษทางการเมืองก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม