นายกรัฐมนตรี ลงนามแต่งตั้ง ที่ปรึกษา ให้ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” นั่งประธาน พ่วงอีก 8 ที่ปรึกษา มีชื่อ “เทวัญ-ชัย-พิมล-พิชิต” ดูงานข้อร้องเรียน และด้านเบิกจ่าย
วันที่ 15 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่234/2566 เรื่องแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้แก่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษา
ขณะที่ที่ปรึกษานายกฯ ประกอบด้วย
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ
นายพิชัย ชุณหวชิร
นายศุภนิจ จัยวัฒน์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิมล ศรีวิกรม์
นายพิชิต ชื่นบาน
นายชลธิศ สุรัสวดี
นายชัย วัชรงค์
และนายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์
โดยให้ส่วนราชการสนับสนุนการดำเนินงานของที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตามที่ได้รับการร้องขอและให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของที่ปรึกษาฯ สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน ให้เป็นไปตามระเบียบของราชการโดยให้เบิกจ่ายจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. 2566
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษา เคยเป็นรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ และ รมว.กระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และเคยเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันยังคงช่วยเหลือทำงานด้านเศรษฐกิจให้พรรคอยู่ตลอด
นายพิชัย ชุณหวชิร เคยเป็นอดีตกรรมการบริษัทในกิจการพลังงานหลายแห่งทั้งในไทยออยล์ บางจากปิโตเลียม และ ปตท. ช่วงระหว่างปี 2539-2552 เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ธปท. เป็นหนึ่งในพยานปากเอกคดีโครงการรับจำนำ มิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เสียสละยอมมาให้ปากคำเพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรมในการวินิจฉัยของ ป.ป.ช.
...
นายศุภนิจ จัยวัฒน์ ประธานกรรมการบริษัท อาโนส์ กรุ๊ป 2020 จำกัด เป็นเพื่อนสนิทกับนายเศรษฐา โตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งเป็นนักธุรกิจ นายศุภนิจประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมสไตล์บูติก คือ โรงแรมสีลม ศิรีนทร์ โรงแรมโพธิ ศิรีนทร์ จ.เชียงใหม่ และโรงแรมบ้านบาหยัน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ดูแลงานด้านกฎหมายให้กับนายกฯ มาแล้วถึง 4 คน ตั้งแต่ นายทักษิณ ชินวัตร นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดิมทีนายเศรษฐา วางตัวนายพิชิตเป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ ใน ครม.เศรษฐา 1 แต่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบประวัติโดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นายพิชิตได้ประกาศขอถอนตัวเพื่อให้นายเศรษฐาสามารถนำรายชื่อ ครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ ตามกระบวนการโดยไม่ล่าช้า ต่อมา ในเวลาไล่เลี่ยกัน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้แจ้งกลับมายัง สำนักเลขาธิการ ครม. ถึงผลการตรวจสอบประวัติ นายพิชิต ว่าไม่ติดขัดในเรื่องคุณสมบัติต้องห้าม หรือจริยธรรมใดๆ ในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐา เห็นว่าขณะนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะทูลเกล้าฯ รายชื่อรัฐมนตรีที่ว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง อีกทั้งยังไม่มีความชัดเจนในส่วนตำแหน่งของพรรคพลังประชารัฐ จึงแต่งตั้ง นายพิชิต เป็นที่ปรึกษานายกฯ เพื่อช่วยกลั่นกรองข้อกฎหมายก่อน
สำหรับ นายพิชิต ถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ นายพิชิต และพวกอีก 2 ราย เคยต้องโทษจำคุก 6 เดือน ตามคำสั่งศาลฎีกา ฐานละเมิดอำนาจศาล นำเงิน 2 ล้านบาทจูงใจให้เจ้าหน้าที่ศาลฯ กระทำการอันมิชอบระหว่างการพิจารณาคดีที่ดินรัชดาภิเษกของนายทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร อดีตภรรยา แต่ภายหลังมีการเปิดเผยว่าเงิน 2 ล้านบาท ไม่ใช่สินบน เป็นเหตุให้อัยการขณะนั้นมีคำสั่งไม่ฟ้องเป็นคดี ตรงกับข้อมูลในชั้นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ระบุว่า ไม่ถือว่า นายพิชิต มีความผิดทางอาญา และในรายละเอียดคำสั่งศาลฎีกาก็ไม่ได้ระบุว่า นายพิชิต เป็นผู้นำถุงเงิน 2 ล้านบาท ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ศาล โดน นายเศรษฐา ต้องการให้นายพิชิตมาเป็นมือทำงานด้านกฎหมายของรัฐบาลที่ยังขาดอยู่