พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพรนายกฯ-ครม. ให้มีกำลังใจ กำลังกาย และปัญญา ปฏิบัติหน้าที่เพื่อความสุข และประโยชน์ส่วนรวม ต่อประเทศชาติและประชาชน ทรงชมนายกฯเป็นคนเก่งอยู่แล้ว ครม.ก็มีความสามารถ “เศรษฐา” น้อมนำพระราชดำรัสมาปฏิบัติ ยันเป็นรัฐบาลของประชาชน รอแถลงนโยบายต่อรัฐสภา 11 ก.ย. จะสร้างความชอบธรรม ฟื้นฟูหลักนิติธรรม สร้างโอกาสเท่าเทียม ย้ำ ครม.ไม่มีเวลาฮันนีมูน อะไรทำได้ก่อนให้ทำทันที ขีดเส้นแจกเงินดิจิทัล 1 ก.พ.67 แบ่งงานรองนายกฯคุมกระทรวงสังกัดพรรค “ภูมิธรรม” บิ๊กเบิ้มคุมความมั่นคง-ตร. ศรภ.ส่งทีมคุ้มกัน “สุทิน” “พัชรวาท-ผู้กอง” ประสานเสียง “ลุงป้อม” ยังไม่วางมือ “แบงก์ชาติ” มั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัว พลขับผู้นำสายมูจัดของขลังเต็มหน้าคอนโซลรถ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราช ดำรัสต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ที่นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ พระราชทานพรให้ ครม.มีกำลังใจ กำลังกายและปัญญา ที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนมีความสุข

...

“เศรษฐา” ยิ้มแย้มเข้าทำเนียบฯ

เมื่อเวลา 10.35 น. วันที่ 5 ก.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ทันทีที่มาถึงนายเศรษฐาเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนเดินลงมาบริเวณทางเชื่อมส่งยิ้มทักทายพร้อมหยุดให้สื่อมวลชนถ่ายภาพอย่างอารมณ์ดี ก่อนเข้าตึกสันติไมตรีถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ในเวลา 14.00 น. ขณะที่บรรยากาศภายในทำเนียบรัฐบาลเป็นไปอย่างคึกคัก บรรดารัฐมนตรีทยอยเข้าถ่ายภาพทำบัตรประจำตัวรัฐมนตรี มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เดินทางมาถึงเป็นคนแรกในเวลา 09.30 น. ตามด้วยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว. วัฒนธรรม นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข ฯลฯ

รัฐมนตรีคึกคักถ่ายภาพทำบัตร

ระหว่างช่วงพักคอย นายเศรษฐาได้นั่งพูดคุยกับรองนายกฯ และรัฐมนตรี อย่างเป็นกันเอง มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ พล.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข และนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ จนเวลา 11.30 น. นายเศรษฐาพร้อม ครม.ขึ้นรถตู้ออกจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ในเวลา 14.00 น.

พลขับสายมูจัดเต็มหน้าคอนโซล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรถยนต์ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ใช้เดินทางเข้าทำเนียบวันนี้ เป็นรถตู้ยี่ห้อ Lexus LM 350h Executive ป้ายแดง เลขทะเบียน ถ 6506 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนตัว เป็นที่น่าสังเกตว่าบริเวณด้านหน้าคอนโซลของรถได้แขวนพระสมเด็จวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ที่ด้านหลังเป็นหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นพระประธานองค์ใหญ่ของวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร รวมถึงสายสิญจน์ลูกประคำครูบาบุญชุ่ม พระเกจิ อาจารย์ชื่อดังแห่งล้านนา โดยได้รับการเปิดเผยว่าทั้ง 2 อย่างเป็นของคนขับรถประจำตัวนายเศรษฐา ที่ได้มาช่วงไปภารกิจลงพื้นที่หาเสียงกับนายเศรษฐา ที่ย้ายมาจากรถยนต์คันเก่านำขึ้นบูชาบนรถยนต์คันใหม่ด้วย

ศรภ.ส่งทีม รปภ.อารักขา “สุทิน”

มีรายงานว่า พล.ท.ทวีศักดิ์ มณีวงศ์ ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) จัดทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เข้ารายงานตัวกับนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม หรือฉายา “สนามไชย 1” พร้อมแนะนำทีมดูแลรักษาความปลอดภัยที่บ้านพักส่วนตัว โดยจัดชุดรักษาความปลอดภัย 2 ชุด รวม 14 นาย ให้สับเปลี่ยนกันเข้าเวรรักษาความปลอดภัย ซึ่งในวันนี้นายสุทินเดินทางเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวคณะรัฐมนตรี มีรถนำมอเตอร์ไซค์จำนวน 2 คัน และรถปิดท้ายขบวน

8 รมต.ภท.รวมตัวชักภาพที่ระลึก

สำหรับบรรดารัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ พากันรวมตัวที่ตึกบัญชาการ 1 ก่อนเดินไปถ่ายรูปติดบัตรพร้อมกันที่ตึกสันติไมตรี นายอนุทินกล่าวว่า รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ได้รับการโปรดเกล้าฯมาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ ขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่ให้ความไว้วางใจให้มาร่วมบริหารราชการแผ่นดิน เมื่อถามว่ามีคำแนะนำรัฐมนตรีใหม่ 5 คนหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า แต่ละคนมีประสบการณ์การเมือง บริหาร รับราชการมาทุกคน

“เสี่ยหนู” ยังไม่ชินสื่อเรียก มท.1

เมื่อถามว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่อยู่ในการดูแลของกระทรวงมหาดไทย จะมีทิศทางอย่างไร นายอนุทินตอบว่า ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่ามีปัญหาอุปสรรคอะไร จะทำทุกอย่างไม่ให้เกิดความเสียหายกับประชาชน และตนจะเข้าทำงานที่กระทรวงมหาดไทยในวันที่ 7 ก.ย. เพราะวันที่ 6 ก.ย.มีประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เพื่อจัดเตรียมการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินออกจากตึกบัญชาการ 1 ไปยังตึกสันติไมตรี ช่างภาพและผู้สื่อข่าวตะโกนเรียกนายอนุทินว่า มท.1 แต่นายอนุทินยังไม่ค่อยชินก่อนจะกล่าวตอบว่า รู้สึกตกใจที่ถูกเรียก “มท.1” เพราะคุ้นชินกับคำว่า“หมอหนู”มากกว่า

รมต.หน้าใหม่รับตื่นเต้นมาก

ด้าน น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. กล่าวทักทายผู้สื่อข่าวว่า ตื่นเต้นมาหลายวัน จะเข้าทำงานในกระทรวงหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา คือหลังวันที่ 15 ก.ย. เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ที่ต้องมาดูแลงานด้านการศึกษาและการวิจัย นางสาวศุภมาสตอบว่า ดีใจมากกว่า ที่มีโอกาสมาทำงานด้านการพัฒนาประเทศ เยาวชน และพัฒนาคน ตนยังมีลูกเล็กอายุ 5 ขวบ และ 9 เดือน อยากให้ลูกโตขึ้นมาในระบบการศึกษาที่ดี

ขณะที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า จะทำงานตามนโยบายของรัฐบาล ด้านนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตื่นเต้นมาก แต่จะทำงานให้ดีที่สุดในตำแหน่งที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนจะมีแต่ความภาคภูมิใจ ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ ทุกคน แต่ตนคงต้องรอ รมว.ศึกษาธิการมอบหมายงานให้ชัดเจนก่อน เชื่อว่าจะมีนโยบายด้านการศึกษาหลายเรื่องออกมา

“หนูนา” ให้พร “ท็อป” ถึงชั้นนายกฯ

ช่วงเช้าที่บ้านศิลปอาชา ย่านจรัญสนิทวงศ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นำพวงมาลัยไหว้ขอพรคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา มารดา และ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา พี่สาว ในโอกาสได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ก่อนเข้าทำเนียบรัฐบาล คุณหญิงแจ่มใสให้พรนายวราวุธ ให้มีสติปัญญาในการทำงาน ให้เจริญในหน้าที่การงาน ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน อายุมั่นขวัญยืนให้มีตำแหน่งสูงขึ้นๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรง น.ส.กัญจนาอวยพรให้มีสุขภาพแข็งแรง มีสติปัญญาเฉียบแหลม ให้ทำงานสำเร็จลุล่วง เจริญก้าวหน้าในเส้นทางทางการเมืองอย่างไร้อุปสรรค และขอให้เส้นทางการเมืองถึงจุดสูงสุดที่พ่อบรรหารเคยเป็น

34 รัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์

กระทั่งเวลา 13.53 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่ ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน นางพวง เพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายกฤษฎา จีนะ วิจารณะ รมช.คลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬานายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ นายชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม รวมจำนวน 34 คน

ปฏิญาณจงรักภักดี-ซื่อสัตย์สุจริต

นายเศรษฐานำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณว่า “ข้าพระพุทธเจ้า นายเศรษฐา ทวีสิน ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

ในหลวงให้กำลังใจปฏิบัติหน้าที่โอกาสนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชดำรัสแก่นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ว่า “ข้าพเจ้ามีความ ยินดีที่ได้พบกับคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้มาถวายสัตย์ในวันนี้ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้รู้จักกัน เพราะหลายคนก็เคยรู้จักกันแล้ว หลายคนก็ยังไม่เคยรู้จัก จะได้รู้จักกันและแสดงความยินดีที่มีศรัทธาเข้ามาบริหารประเทศ ก็ขอถือโอกาสให้พรให้มีกำลังใจ กำลังกาย และปัญญาที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อความสุข และเพื่อประโยชน์เป็นส่วนรวมสำหรับประเทศชาติ และประชาชน ข้าพเจ้ามีความมั่นใจว่าท่านมีความตั้งใจดีทุกคน มีศรัทธาทุกคน ก็ขอให้พรให้ท่านมีกำลังใจต่อไปในการปฏิบัติหน้าที่”

จากนั้น นายเศรษฐาและคณะรัฐมนตรีได้ถวายความเคารพและนั่งลงกราบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีว่า “ขอให้มีความสุขความเจริญ และมีกำลังใจ เพราะท่านนายกฯ ก็เป็นคนเก่งอยู่แล้ว คณะรัฐมนตรีก็มีความสามารถ”

น้อมนำพระราชดำรัสมาปฏิบัติ

กระทั่งเวลา 14.16 น. ภายหลังเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯนำ ครม.ชุดใหม่เดินทางกลับมายังทำเนียบเพื่อถ่ายภาพหมู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นนายเศรษฐานำ ครม.ร่วมแถลงข่าวว่า ตนและ ครม.จะน้อมนำกระแส พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการต่อไป ยืนยันรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชน วันนี้มาเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนทุกคน ปัญหามีมากมายเราจะทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยทุกวัน ทุกนาที จะเอาความต้องการของประชาชนทุกคนเป็นที่ตั้ง เริ่มจากวันที่ 8 ก.ย.เตรียมลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย พูดคุยรับทราบปัญหาประชาชนทุกคนเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป และสัปดาห์หน้าวันที่ 11 ก.ย.จะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา รัฐบาลนี้เราจะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ภายใต้หลักการมีส่วนร่วมของประชาชน รัฐบาลจะสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้ประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในอนาคต

ย้ำอะไรทำได้ก่อนให้ทำทันที

เมื่อถามถึงวาระการประชุม ครม.นัดพิเศษวันที่ 6 ก.ย. มีเรื่องอะไร นายเศรษฐาตอบว่า เป็นเรื่องการเตรียมตัวแถลงนโยบายในวันที่ 11 ก.ย. ส่วนจะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเองหรือไม่นั้น เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ ขอไปพูดคุยกันภายในพรรคร่วมรัฐบาลก่อน หลายคนอาจมีความคิดที่ดีและจะแจ้งให้ทราบ เมื่อถามว่าจะมอบรองนายกฯคนใดดูงานด้านความมั่นคง นายเศรษฐาตอบว่า ขอไปพูดคุยกันก่อน ส่วนการดูแลงานด้านกฎหมายของรัฐบาลมีการวางตัวไว้แล้ว ไม่ใช่อยู่ดีๆเราจะไปตัดสินใจ ต้องถามความเห็นจากรัฐมนตรีทุกคน เมื่อถามว่าเป็นห่วงงบประมาณล่าช้าหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ตนและรัฐมนตรีทุกคนทราบถึงปัญหานี้ คิดว่าคงไม่เป็นอุปสรรคต่อการบริหาร อะไรทำได้ก่อนเราจะทำทันที

มั่นใจ รมต.รู้ปัญหาไม่มีแบ่งก๊วน

เมื่อถามว่าให้เวลาประเมินผลงานรัฐมนตรีกี่เดือน นายเศรษฐาตอบว่า คงแล้วแต่เรื่อง รัฐมนตรีทุกคนเข้าใจและตระหนักดีถึงปัญหาประชาชน ขอโอกาสให้ทำงานก่อน เมื่อถามว่านโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท จะอยู่ใน 100 วันแรกที่รัฐบาลจะทำได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ยังไม่เคยบอกว่า 100 วัน แต่จะพยายามทำให้ได้เร็วที่สุด คิดว่าไม่เกินไตรมาสแรกของปีหน้า ยืนยันจ่ายรวดเดียวหนเดียว เมื่อถามว่าการมีพรรคร่วมจำนวนมากจะทำให้รัฐบาลมีเอกภาพอย่างไร นายเศรษฐาตอบว่า เราเป็นรัฐบาลของประชาชน เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนเข้าใจและตระหนักดีถึงปัญหาที่เราเผชิญอยู่ ไม่มีการแบ่งก๊วน แบ่งพวก และแบ่งฝ่าย เมื่อถามถึงนโยบายการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเศรษฐาตอบว่า
จะแจ้งให้ทราบในการแถลงนโยบายรัฐบาลวันที่
11 ก.ย. จะมีรายละเอียดตรงนั้น

จ่อใช้เวทียูเอ็นดึงกลุ่มนักลงทุน

เมื่อถามว่าการไปประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 78 (The 78th UN General Assembly หรือ UNGA 78) ระหว่างวันที่ 18-26 ก.ย. ณ กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จะบอกแต่ละประเทศอย่างไรให้หันกลับมาสนใจประเทศไทย นายเศรษฐาตอบว่า มีหลายเรื่องที่ต้องไปพูดคุยกัน แล้วแต่เรื่องที่เราจะไปเจอกับผู้นำในหลายประเทศ อาจไปเจอกับนักธุรกิจด้วย ขอเตรียมงานก่อน เมื่อถามว่าตั้งเป้าหรือไม่ภายใน 1-2 ปีประชาชนจะมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น นายเศรษฐาตอบว่า เป็นคำถามที่ประชาชนทุกคนอยากทราบ วันนี้ปัญหาปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่ง มั่นใจว่ารัฐมนตรีทุกคนจะทำงานหนักพยายามเข็นนโยบายออกมา เมื่อถามว่าที่เคยระบุว่างานไหนที่ทำไม่ได้ต้องเปลี่ยนคน นายเศรษฐารีบปฏิเสธว่า ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น หมายความว่าอะไรที่ทำได้ก็ทำไปก่อน อะไรที่ติดขัดก็ทำต่อไป แต่ไม่ใช่เหตุผลจะไม่ทำอะไรเลย

ลั่นรัฐบาลชุดนี้อบอุ่นตลอดไป

เมื่อถามว่ามีช่วงเวลาฮันนีมูนหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่มี ตั้งแต่เริ่มฟอร์มรัฐบาลมาก็ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเพียงแต่ยังสั่งการบริหารจัดการแผ่นดินไม่ได้ วันที่ 8-9 ก.ย. ย้ำว่าไม่มีฮันนีมูน เริ่มงานทันที เมื่อถามว่าถ้าจะพูดประโยคหนึ่งให้เข้าหูประชาชนอยากพูดว่าอะไร นายเศรษฐานิ่งคิดครู่หนึ่งก่อนตอบว่า “เป็นอะไรที่ยาก ถ้าต้องพูดประโยคเดียว ผมขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ว่าพวกเรามีความตั้งใจจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความแตกแยกทางความคิด รัฐบาลจะให้ความสำคัญเท่าเทียมกัน และพยายามเดินไปข้างหน้า รวมถึงจะพยายามจัดการปัญหาเหล่านี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด” เมื่อถามว่าหวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ด้วยกันตรงนี้จะอบอุ่นตลอดไปหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวย้ำว่า มั่นใจ เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน

“ประเสริฐ” เร่งเครื่องลุยแก๊งคอล

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ภารกิจแรกที่จะเริ่มทำคือเร่งดำเนินการเรื่องคอลเซ็นเตอร์เฟกนิวส์ เว็บต่างๆที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การหมิ่น สถาบันที่กระทบกับชีวิตประชาชน สร้างความรำคาญและเสียหาย มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาได้ ต้องทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขไม่ถูกรบกวนจากภัยคุกคามเหล่านี้ ทั้งการป้องกันและปราบปราม เมื่อถามว่ากรณีผู้กระทำผิดอยู่ต่างประเทศจะดำเนินการได้หรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า ทำได้ อาจต้องแก้กฎหมายบางฉบับ เมื่อถามถึงเว็บหมิ่นสถาบันจะปราบปรามอย่างไร นายประเสริฐตอบว่า เป็นเรื่องที่ดำเนินการอยู่แล้ว รวมถึงปัญหาการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่รั่วไหล

“สุทิน” เดินสายเยี่ยมเหล่าทัพ

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวว่าจะเข้ากระทรวงกลาโหม วันที่ 13 ก.ย. เวลา 09.00 น. พร้อมสร้างมาตรฐานว่าพลเรือนก็สามารถบริหารงานกระทรวงกลาโหมได้ จะไม่ทำให้กองทัพและประชาชนผิดหวัง สำหรับการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของเหล่าทัพ เช่น การจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ ทดแทน F-35 ของกองทัพอากาศยังไม่มีข้อมูลพอ แต่คิดว่าทางเหล่าทัพคงมีข้อมูลมาเสนอ มาอธิบาย เมื่อถามถึงการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่ประชาชนต้องการให้เกิดความโปร่งใสและคุ้มค่าที่สุด นายสุทินตอบว่า เป็นความตั้งใจอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของตนและรัฐบาลที่ต้องเข้าไปดูแล ส่วนการประชุมสภากลาโหมนั้น หากไม่มีอะไรเร่งด่วนให้เป็นไปตามกำหนดการเดิม แต่หากมีเรื่องเร่งด่วนอาจประชุมก่อน ส่วนกรณีที่ ศรภ.ส่งชุดรักษาความปลอดภัยมาดูแล นายสุทินตอบว่า ถือเป็นหน้าที่เขา กำชับไปว่าเอาที่จำเป็น เพราะมีตำรวจที่ใกล้ชิดคอยติดตามระหว่างลงพื้นที่อยู่แล้ว จากนี้จะจัดลำดับ การตรวจเยี่ยมทุกเหล่าทัพ รวมถึงข้าราชการชั้นผู้น้อยทหารตามแนวชายแดน และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

“ชลน่าน” ปีติในหลวงให้กำลังใจ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปฏิสันถารที่ทำให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจอย่างมาก ตรัสให้กำลังใจหลังจากถวายสัตย์ปฏิญาณเสร็จสิ้นพระองค์ทรงเดินเข้ามาหานายกฯด้วยพระพักตร์ที่ยิ้มแย้ม และทรงพูดให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่านายกฯจะทำหน้าที่ได้ดี พระองค์ท่านยังทรงชมนายกฯว่าเชื่อมั่นว่าเป็นคนเก่งอยู่แล้ว และทรงมีพระสรวล เราเองก็มีความปีติตามที่ถวายสัตย์ปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประเทศชาติและบ้านเมือง และปฏิบัติตามบทบัญญัติ รัฐธรรมนูญทุกประการ ส่วนการขับเคลื่อนงานกระทรวงสาธารณสุข อะไรที่ยึดโยงกับประชาชนดีอยู่แล้ว เราก็ทำต่อไป อะไรที่ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองประชาชนได้ดีขึ้น ก็ต้องดำเนินการ เราตั้งใจมุ่งมั่นที่จะใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ รวมถึงการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบไอที

แฟนคลับกดดัน “ชลน่าน” คัมแบ็ก

ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 15.30 น. กลุ่มประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ายื่นหนังสือถึงนายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผ่านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขอให้พิจารณาเลือก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตามเดิม เพราะไม่มีความผิด การหาเสียงบนเวทีต่างวาระกับสถานการณ์ในช่วงต่างๆ นพ.ชลน่านเสียสละทำงานด้วยความอดทนจนจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จลุล่วง กระแสการให้ลาออกจากหัวหน้าพรรคมาจากกลุ่มคนที่ไม่ได้เลือกพรรคเพื่อไทย แต่เลือกพรรคอื่นที่พยายามขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เมื่อ นพ.ชลน่านรักษาคำมั่นที่ให้ไว้จบลงแล้ว จึงขอเรียกร้องให้เลือก นพ.ชลน่านกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยดังเดิม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้คนทำงาน

เจ้าตัวขอสงวนท่าทีรอถก กก.บห.

ขณะที่ นพ.ชลน่านกล่าวกับตัวแทนกลุ่มที่มาให้กำลังใจว่า การลาออกเป็นการแสดงความรับผิดชอบตามที่เคยประกาศไว้ สิ่งที่ประกาศไปไม่ใช่ความผิดหรือถูก แต่เป็นสัจจะและเงื่อนไขการเมือง ไม่ยึดติดตำแหน่ง แต่หลายคนไปโจมตีว่าลาออกเพื่อไปเป็นรัฐมนตรี ส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ คณะกรรมการบริหารพรรคจะเรียกประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และ กก.บห.พรรคภายในเดือน ก.ย. ตามข้อบังคับพรรค หากมีการเสนอชื่อตนเข้ามาอีก ต้องขอไปพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าเกิดประโยชน์กับพรรคมากน้อยแค่ไหน

กระตุ้น สส.ไม่มีเวลานั่งหายใจชิลๆ

ต่อมานายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ร่วมประชุม นายเศรษฐากล่าวว่า ได้พูดคุยกับ 16 รัฐมนตรีของพรรคถึงนโยบายโดยรวม เราไม่ได้มาด้วยต้นทุนที่สูงอย่างเดียวแต่เราเทหมดหน้าตัก ไม่มีเวลาหายใจ ตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชน เก็บข้อมูลมาคิดนโยบาย เมื่อแถลงนโยบายเสร็จจะทำงานเต็มที่ หลายเรื่องเป็นปัญหาใหญ่ ใช้เวลานาน ต้องอาศัยหลายหน่วยงาน บางเรื่องอาศัยกฎหมายด้วย แต่ความเดือดร้อนประชาชนรอเวลาขนาดนั้นไม่ได้ ระหว่างนี้ถ้าทำอะไรได้หรืออะไรเป็นเรื่องเร่งด่วนจะทำทันที ขอความกรุณา สส. ถ้ามีเรื่องแนะนำให้ ครม. หรือมีเรื่องอยากให้ทำก็แจ้งมาได้ เราอยากทำทันที ตนและ ครม.จะลงพื้นที่รับฟังปัญหา จัดการบริหารทันที ขอให้ทุกคนช่วยกันเต็มที่ เราไม่มีเวลา ความคาดหวังของสังคมสูง

เดินหน้าแจกเงินดิจิทัล 1 ก.พ.67

นายเศรษฐากล่าวอีกว่า เมื่อตั้งรัฐบาล 3 เดือน จะเจอภัยแล้งและเอลนีโญแน่นอน ปัจจุบันยังไม่มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน เป็นหนึ่งในหลายเรื่องเร่งด่วนใน ครม.นัดแรก ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เราทำงานเต็มที่อยู่แล้ว ประสานกับหน่วยงานราชการทุกหน่วยงานให้ออกมาโดยเร็ว เป็นการจ่ายเงินเพียงหนเดียว ณ วันนี้เราคิดว่าจะทำให้ได้ภายในวันที่ 1 ก.พ.2567 จะพยายามทำให้ได้ ไม่มีเวลาฮันนีมูนพรุ่งนี้ก็ทำงานต่อ

“ภูมิธรรม” บิ๊กเบิ้มคุมความมั่นคง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดลำดับรองนายก รัฐมนตรี และ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ใน ครม.เศรษฐา 1 มีดังนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เป็น สร.2, ตามด้วยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ สร.3, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ สร.4, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย สร.5, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สร.6, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน สร.7 และนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ สร.8 ส่วนการแบ่งงานจะให้รองนายกฯแต่ละคนกำกับดูแลกระทรวงที่มีรัฐมนตรีของพรรคตัวเองนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการอยู่ โดยนายภูมิธรรมจะเป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และมีแนวโน้มสูงที่จะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายสมศักดิ์ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงพม. และกระทรวงยุติธรรม นายปานปรีย์ดูแลกระทรวงต่างประเทศ และอีกบางกระทรวง นายอนุทินดูแลกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และ อว. พล.ต.อ.พัชรวาทดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายพีระพันธุ์ ดูแลกระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม

พปชร.ยัน “ลุงป้อม” ยังไม่วางมือ

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวจะมาดูแลพรรค พปชร. แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.ว่า “ไม่ครับ ลุงป้อมคุมอยู่แล้ว” เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรจะลาออกจาก สส.เมื่อไหร่ พล.ต.อ.พัชรวาทตอบว่า “ไม่ได้พูดอะไรครับ” เมื่อถามว่าหาก พล.อ.ประวิตรลาออกจาก สส.แล้วจะยังคงเป็นหัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทตอบว่า “ใช่ครับๆ” “พล.อ.ประวิตรยังไม่ได้วางมือทางการเมือง”

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.พัชรวาทเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค พปชร. ต้องดูในภาพกว้าง ส่วนกระแสข่าว พล.อ.ประวิตรจะลาออกจาก สส.ใครบอกว่าลาออก ยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ ศูนย์รวมใจยังอยู่ที่ พล.อ.ประวิตร

เผย “ไผ่” ยังอยู่ในโผ รมต.พปชร.

เมื่อถามถึงกรณีไม่มีชื่อนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร กรรมการพรรค พปชร. เป็น รมช. พาณิชย์ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า โควตารัฐมนตรีพรรค พปชร. 2+2 เหมือนเดิม เบื้องต้นนายไผ่ยังอยู่ในลิสต์รายชื่อรัฐมนตรีของพรรค รอการตีความคุณสมบัติข้อกฎหมายให้ชัดเจนก่อน เมื่อถามว่า หากตีความแล้วไม่ขัดต่อกฎหมายจะส่งให้นายกฯนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯเลยใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ก็คงประมาณนั้น หลังแถลงนโยบายรัฐบาลจะหารือกับผู้เกี่ยวข้องอีกทีในเรื่องนี้ เมื่อถามว่ายืนยันยังเป็นชื่อนายไผ่ไม่เปลี่ยนเป็นคนอื่นใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ยังให้โอกาส เมื่อถามว่า หากกฤษฎีกาตีความว่าไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้จะให้คนอื่นรองรับใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ทุกอย่างต้องหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรค เมื่อถามว่าจะมีชื่อนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค มาแทนที่ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ไม่ใช่ ข่าวผิดเพี้ยนไปหมด

รมต.รับสนองพระบรมราโชวาท

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราโชวาทขอให้มีสติปัญญาในการทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และขอให้มีความขยันทำงานเพื่อประเทศชาติ

ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า พวกเราต้องรับสนองพระบรม ราโชวาท เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าพัฒนาต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบว่า ให้พวกเราปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มที่ ทำให้บ้านเมืองเดินหน้า พี่น้องประชาชนมีความสงบร่มเย็น

“แบงก์ชาติ” ห่วงภัยแล้งฉุด ศก.

ที่โรงแรมอวานี จ.ขอนแก่น นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ผู้ว่าการ ธปท.) เป็นประธานการสัมมนาวิชาการประจำปี 2566 ธปท.สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หัวข้อ “ขับเคลื่อนให้เปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน” มีนักธุรกิจ นักวิชาการทางการเงินและเศรษฐศาสตร์ เข้าร่วม นายเศรษฐพุฒิกล่าวว่า หลังมีรัฐบาลแล้วเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการท่องเที่ยวและการบริโภค เบ็ดเสร็จแล้วเชื่อว่าการเติบโตจากภาคบริโภคของเอกชนสูงขึ้น ตรงนี้จะเป็นตัวที่ช่วยขับเคลื่อนการฟื้นตัวเศรษฐกิจได้ แต่ยังต้องรอดูความชัดเจนและนโยบายของรัฐบาลใหม่ คงมีเรื่องการใช้จ่ายจากภาครัฐที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการต่างๆที่เพิ่มเข้ามา คงไม่เห็นผลในปีนี้เพราะงบประมาณต้องใช้เวลา ไปส่งผลในปีหน้า แต่สิ่งที่กังวลคือ ผลกระทบจากภาคการเกษตรโดยเฉพาะปัญหาเอลนีโญ โอกาสที่จะเกิดภัยแล้งชัดเจน ไม่น่าจะน้อยกว่าที่เคยเกิดขึ้น ขณะนี้ทุกหน่วยงานเตรียมการรับมือแล้ว

“พิธา” ลุ้นพ้นบ่วงนำฝ่ายค้าน

ช่วงสายที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีการประชุมสส.และกรรมการบริหารพรรค เพื่อเตรียมการอภิปรายในวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมถึงเรื่องตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน หลังนายปิยบุตร แสงกนกกุล โพสต์เฟซบุ๊กระบุยังไม่มีผู้ใดมีคุณสมบัติผู้นำฝ่ายค้านเลยว่า เบื้องต้นเป็นไปตามนั้น ได้หารือ นอกรอบกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เห็นตรงกันว่าหากดูตามรัฐธรรมนูญจะไม่มีการไหลไปพรรคลำดับรอง เพราะจะกลายเป็นไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้นำฝ่ายค้าน เมื่อถามว่า ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. ก่อนใช่หรือไม่ นายชัยธวัชตอบว่า พรรค ก.ก.จะรอก่อน กระบวนการของศาลอาจไม่นานมาก ราว 2-3 เดือน และอาจเร็วกว่าเดือน ม.ค.2567

“ปิยบุตร” จี้นิรโทษกรรมทุกฝ่าย

วันเดียวกันนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “รัฐบาลเศรษฐา และทุกพรรคในสภาฯ ควรเร่งผลักดันการนิรโทษกรรมคดีการแสดงออกทางการเมือง นับตั้งแต่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางกลับไทย ได้รับการลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี และเตรียมเข้าสู่กระบวนการพักโทษ หรือได้รับอภัยโทษตามวโรกาสสำคัญต่อไป มีคนจำนวนมากตั้งคำถามและไม่เห็นด้วยกับกรณีนายทักษิณ โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน เพื่อลดทอนการตั้งคำถามเรื่องความไม่เสมอภาค เพื่อความปรองดองอย่างแท้จริงและเท่าเทียม รัฐบาลนายเศรษฐาและพรรคการเมืองในสภาควรเร่งผลักดันให้มีการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนทุกฝ่าย ทั้งพันธมิตรฯ นปช. กปปส. กลุ่มเยาวชน และราษฎร ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน นี่ต่างหากที่จะเป็นก้าวแรกของการก้าวข้ามความขัดแย้งที่แท้จริง สร้างความปรองดองสมานฉันท์ และเกิดประโยชน์ตกแก่ประชาชนคนธรรมดา

สว.ไฟเขียว “อำนาจ” นั่ง อสส.

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ตามที่คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด (อสส.) คือนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ รองอัยการสูงสุด ให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณา โดยเป็นการประชุมและลงคะแนนลับ ผลการพิจารณาที่ประชุมวุฒิสภาให้ความเห็นชอบนายอำนาจดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดด้วยคะแนน 193 ต่อ 1 เสียง ไม่ออกเสียง 7 ถือว่านายอำนาจได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงข้างมากจากที่ประชุมวุฒิสภา

ลากตั้งร่วมอุ้ม “ธานี” ไร้มลทิน

จากนั้นเป็นวาระรายงานผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียนจริยธรรมสมาชิกวุฒิสภา ของคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ตรวจสอบนายธานี อ่อนละเอียด สว. กรณีมีส่วนรู้เห็นสนับสนุนให้อดีตตำรวจหญิงคนสนิทกระทำการทารุณทหารหญิงรับใช้หรือไม่ และใช้อำนาจหน้าที่ สว.ฝากบุคคลเข้ารับราชการตำรวจหรือทหารหรือไม่ อันเข้าข่ายความผิดทางจริยธรรมของ สว. ตามที่มีผู้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ โดยคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา เป็นประธาน นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมพิจารณาแบบประชุมลับ หลังใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ที่ประชุมใช้วิธีลงคะแนนลับกับความเห็นของคณะกรรมการจริยธรรม ที่เสนอมาให้เพียง “ว่ากล่าวตักเตือน” ปรากฏว่าที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับความเห็นของคณะกรรมการจริยธรรม 103 เสียง ไม่เห็นด้วย 33 เสียง ไม่ออกเสียง 33 เสียง ถือว่าไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ คือ 125 คะแนน จึงถือว่านายธานีมิได้กระทำการในลักษณะที่ถูกตรวจสอบ

ศาลออกหมายจับ “อิทธิพล”

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 มีคำสั่งออกหมายจับนายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรม ตามคำร้องของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ยื่นเรื่องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ขอออกหมายจับ หลังนายอิทธิพลไม่เข้าพบพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ในคดีถูกกล่าวหาพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (แบบ อ.1) เลขที่ 700/2551 ลงวันที่ 10 ก.ย.2551 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยาให้กับบริษัท บาลี ฮาย จำกัด เพื่อก่อสร้าง
อาคารโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ เชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางอาญา และเชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี