ตามข่าวอ้างว่าวันนี้จะนำรายชื่อ ครม.ชุดเศรษฐา 1 ขึ้นทูลเกล้าฯ โฉมหน้า ครม.ชุดใหม่คงพอจะเห็นหน้าตากันไปบ้างแล้ว แต่ปัญหาที่รอให้รัฐบาลใหม่สะสางคิวยาวเป็นรถไฟ โดยเฉพาะเรื่องที่มีการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องจนบัดนี้ยังไม่สามารถจับมือใครดมได้
ปัญหาของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู กับ ปัญหาหมูเถื่อน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการระบาดของโรคอหิวาต์ในสุกร ตั้งแต่ปี 2565 ผลที่ตามมาคือ จำนวนหมูในประเทศน้อยลง แม่พันธุ์หมูหายไปประมาณ 1.2 ล้านตัว หรือครึ่งหนึ่งของระบบ ในขณะที่ราคาอาหารสัตว์มีราคาสูงขึ้น ราคาหมูในตลาดกับต้นทุนการผลิตที่สูงมาก ทำให้เกษตรกรรายย่อยเลิกเลี้ยงหมูไปกว่า 1 แสนราย
ปริมาณหมูในประเทศลดลงไปกว่าครึ่ง ทำให้ราคาเนื้อหมูขยับสูงขึ้น ตรงนี้เองเป็นช่องว่างที่มี การลักลอบนำหมูเถื่อนเข้ามาจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่า ตัดราคาขายเนื้อหมูในประเทศ
กลไกการตลาด ถูกทำลายตามไปด้วยแทนที่ปริมาณหมูลดลงแต่ปริมาณเนื้อหมูในท้องตลาดยังเท่าเดิมทำให้ราคาไม่สามารถที่จะขึ้นตามต้นทุนและความต้องการของกลไกตลาดตามปกติ
นอกจากนี้ช่องว่างในระเบียบทางศุลกากรที่สามารถแสดงสินค้าในช่องกรีนไลน์ ทำให้การตรวจจะเป็นการสุ่มตรวจ ซึ่งพบว่ามีความผิด ปกติในการนำเข้าเนื้อปลา หรือสินค้าเยือกแข็งผ่านช่องกรีนไลน์ มีปริมาณสูงกว่าปกติถึง 250% มีการร้องเรียนและขอให้มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูหลายครั้งแต่ไม่มีอะไรดีขึ้น
ปัจจุบัน ราคาต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ สูงเป็นประวัติการณ์ ราคาเพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 30 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าวสาลี มีราคาเพิ่มขึ้นไปแล้วร้อยละ 5-10
เมื่อมีการ ตรวจสอบถึงผลประโยชน์ในขบวนการหมูเถื่อน ประเมินจากตู้ที่ขนเข้ามามีต้นทุนและกำไรรวมกันประมาณ 3.75 ล้านบาทต่อตู้ คาดว่าจะมีมากถึงประมาณ 2,000 ตู้ ในช่วงปี 2565-2566 เคยมีการตรวจพบหมูเถื่อนถึง 4.5 ล้านกิโลกรัมใน 161 ตู้ ที่ตกค้างอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง
...
เพราะฉะนั้น ขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน จะต้องได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล ถ้ารัฐบาลยังใส่เกียร์ว่าง ไม่สามารถสาวไปถึงตัวผู้บงการรายใหญ่ได้
เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยในประเทศ ที่เคยมีถึง 2 แสนราย ปัจจุบันเหลือเพียง 4 หมื่นราย และในอนาคตจะไม่มีเกษตรกรรายย่อยเลี้ยงหมูในประเทศอีกต่อไป เพราะทนกับการขาดทุนไม่ไหว
ความเสียหายในระยะเวลา 1 ปี ที่มีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนประเมินว่าไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท
ดังนั้น ปัญหาหมูเถื่อนจึงไม่หมูอีกต่อไป ไม่ใช่แค่ทำให้เกิดผลกระทบกับเกษตรกรและผู้บริโภคเท่านั้น
แต่จะกระทบกับระบบห่วงโซ่อาหารที่ตั้งเป้าหมายจะเป็นครัวของโลกและเศรษฐกิจประเทศทั้งระบบ น่ากลัวกว่าการพนันออนไลน์ ที่ลูบหน้าปะจมูกกันอยู่ทุกวันนี้ด้วยซ้ำ.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ "คาบลูกคาบดอก" เพิ่มเติม