“เศรษฐา” เล่นเร็วเรียกหารือ “สุพัฒนพงษ์-ชโยทิต” ส่งไม้ต่องานเศรษฐกิจการันตีถก ครม. นัดแรกลดทันทีค่าไฟ-น้ำมันดีเซล ตามสัญญาเมินเสียงยี้ ครม.มั่นใจทุกคนคุณสมบัติครบถ้วนป้อง “สุทิน” อาวุโสเหมาะนั่ง รมว.กลาโหม ออกตัวช่วยประสานกองทัพ ขีดเส้นหลังถวายสัตย์ฯ 1 สัปดาห์แถลงนโยบาย เดินเครื่องรัฐบาล “เศรษฐา 1” “อนุทิน” เบ้ปากถูกขย่มคุณสมบัติ “ชาดา” โต้ไม่เคยเห็นทำผิดกฎหมาย “วิษณุ” ชี้คดี “พิชิต” นานเกิน 10 ปี ไม่เข้าข่ายต้องห้าม “ชลน่าน” ไขก๊อกหัวหน้า พท.ตามคำพูด มติ กก.บห. มอบ “ชูศักดิ์” รักษาการแทน “อดิศร” เชียร์ “กิตติรัตน์-นพดล” ถือธงนำ “วิโรจน์” เหน็บลาออกไปรับตำแหน่งใหญ่ ไม่ใช่รับผิดชอบต่อสังคม “เสรีพิศุทธ์” ทิ้ง สส. ลั่นส่ง “พท.-เสี่ยนิด” ถึงฝั่ง เหน็บจัดโผ ครม.เหมือนหมาแย่งชามข้าว ไม่อายข้าราชการ

จากกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) เคยหาเสียงไว้ว่าหากได้เป็นรัฐบาล ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกจะประกาศลดค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันลงทันที ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้หารือร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เพื่อหารือส่งไม้ต่อการทำงานด้านเศรษฐกิจ พร้อมยืนยันการประชุม ครม.นัดแรกจะลดราคาพลังงานลงได้แน่นอน

...

“เศรษฐา” ช่วย “สุทิน” ประสานกองทัพ

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 30 ส.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่บางคนอาจไม่เหมาะกับบางตำแหน่งว่า ต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล และผู้ประสานงานจัดตั้ง ครม.ด้วย คิดว่าหน้าตาหรืออะไรมีสิทธิที่คนจะคิดกันได้ แต่ต้องให้เกียรติรัฐมนตรี มั่นใจว่ารัฐบาลมีเป้าหมายชัดเจนคงวัดกันที่ตรงนี้ เมื่อถามว่ามีเสียงสะท้อนว่าหากพลเรือนมาคุมกองทัพ อาจเป็นการด้อยค่ากองทัพ นายเศรษฐากล่าวว่า คิดว่านายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพท. เป็นผู้อาวุโส เท่าที่รู้จักนายสุทิน เป็นคนให้เกียรติคนเชื่อว่าการประสานงานกับกองทัพจะเป็นไปได้ด้วยดี และจะเข้าไปช่วยดูตรงนี้ด้วย ต้องให้แน่ใจว่าทุกสถาบันได้รับการดูแลเอาใจใส่ ได้รับการพูดคุยอย่างเหมาะสมและสมฐานะ

มั่นใจ ครม.คุณสมบัติครบถ้วน

นายเศรษฐากล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ว่าที่รัฐมนตรีทยอยกรอกประวัติที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ตามที่คุยกับเลขาธิการ ครม.จะใช้เวลาตรวจสอบ 2 วัน จากนั้นจะนำขึ้นทูลเกล้าฯเลย เมื่อถามว่าเลขาธิการ ครม.แจ้งเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะมีรายงานว่ารัฐมนตรีบางคนคุณสมบัติไม่ผ่าน นายเศรษฐาตอบว่า เรื่องยังไม่ถึงตน ยังไม่ทราบ ส่วนที่นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน จะทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯว่า มีว่าที่รัฐมนตรี 4 คน คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คุณสมบัติไม่ผ่าน อ้างอิงจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับข้อมูล แต่เชื่อว่าทั้ง 4 คนเหมาะสมในการเข้าดำรงตำแหน่ง เหลือแค่เช็กคุณสมบัติจากเลขาธิการ ครม.อีกครั้ง

1 สัปดาห์หลังถวายสัตย์ฯแถลงนโยบาย

นายเศรษฐากล่าวว่า ส่วนการจัดทำนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา เมื่อที่ 29 ส.ค. นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ได้เจรจากับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แล้ว อยากแถลงโดยเร็วหลังเข้าถวายสัตย์ฯ คาดว่าจะไม่เกิน 1 สัปดาห์ ประเทศจะได้เดินไปข้างหน้าได้ สำหรับกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท.จะลาออกจากหัวหน้าพรรค ทราบเรื่องแล้ว ให้เกียรติท่านเป็น สส. หลายสมัย ทำประโยชน์ให้ พท.มานาน เป็นที่รักของ สส.ทุกคน ใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค พท.คนใหม่ไม่ทราบ ต้องประชุมพรรคเลือกตั้งหัวหน้าพรรคใหม่ภายใน 60 วัน ต้องเป็นคนที่อยู่ในพรรคมานาน มีความรู้ความสามารถรอบรู้ ไม่ว่าด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม นพ.ชลน่านจะกลับมานั่งหัวหน้าพรรคอีกหรือไม่ คงไปก้าวล่วงสิทธิ์สมาชิกพรรคไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการเลือกกรรมการบริหารพรรค

ลั่น ครม.นัดแรกราคาพลังงานลดทันที

ต่อมาเวลา 11.00 น. นายเศรษฐาให้การต้อนรับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและ รมว.พลังงาน ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค รทสช. เพื่อหารือส่งไม้ต่อการทำงานด้านเศรษฐกิจ รวมถึงการจัดทำร่างนโยบายของรัฐบาลเพื่อแถลงต่อรัฐสภา จากนั้นเวลา 12.50 น. นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า ได้หารือเรื่องราคาพลังงาน รวมถึงประเด็นอื่นๆ นายสุพัฒนพงษ์ได้ฝากฝังไว้หลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือขั้นตอนการลดราคาค่าไฟกับค่าน้ำมันดีเซล จะมีประกาศหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกแน่นอน เมื่อถามย้ำว่า หลังประชุม ครม.นัดแรกจะลดได้ทันทีแน่นอนใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบหนักแน่นว่า “ทันทีครับทันที ประกาศทันที ขอดูขั้นตอนนิดหนึ่ง” ก่อนย้ำว่าทำงานไม่หยุด เพราะต้องดูนโยบายอื่นๆด้วย ถือว่านายสุพัฒนพงษ์ให้ความกรุณาและยินดีส่งไม้ต่อให้ด้วยความราบรื่น

“สุพัฒนพงษ์” ส่งไม้ต่องาน รบ.ใหม่

ขณะที่นายสุพัฒนพงษ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการลดราคาพลังงานว่า ต้องคุยกับหัวหน้าพรรค การหารือได้แลกเปลี่ยนกันมากกว่า ส่วนการพูดคุยอย่างเป็นทางการต้องให้หัวหน้าพรรค รทสช.มาพูดคุยกันอีกครั้ง วันนี้เป็นโอกาสดีที่รัฐบาลรักษาการมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่ามีอะไรจะส่งไม้ต่อหรือส่งความคิดเห็นใดๆไปถึงรัฐบาลใหม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่รัฐบาลใหม่ได้ขอรับทราบสิ่งที่รัฐบาลรักษาการหรือรัฐบาลที่ผ่านมาได้ทำอะไรไว้บ้าง แต่จะสานต่อเรื่องอะไร จะดัดแปลงหรือทำให้ดีขึ้น เป็นนโยบายของรัฐบาลใหม่จะพิจารณา นายเศรษฐาก็รับทราบสิ่งต่างๆของรัฐบาลที่ทำมาแล้ว เป็นการให้ข้อมูลระหว่างกัน เพื่อให้รัฐบาลใหม่พิจารณานโยบายเดิมที่ทำอยู่แล้วไปพิจารณาต่อได้โดยไม่ต้องไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ จากนั้นคงจะไปพิจารณารายละเอียดอีกที

“ชลน่าน” ยึดสัจจะลาออกหัวหน้า พท.

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพื่อหารือกรณี นพ.ชลน่านจะลาออกจาก กก.บห.จากนั้นเวลา 16.00 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พร้อมนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคและนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงข่าว โดย นพ.ชลน่านกล่าวว่า ทำหน้าที่รับผิดชอบการตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว จึงมาประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค ตามที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 28 เม.ย.66 ในการดีเบตหาเสียงเลือกตั้ง สส. ขอทำตามที่เคยประกาศไว้ เป็นสัจจะที่เคยลั่นวาจาไว้ว่าถ้าพรรค พท.จัดตั้งรัฐบาลกับพรรค พปชร.ในฐานะหัวหน้าพรรคพร้อมจะลาออก ขออนุญาตประกาศ ณ ตรงนี้ว่าขอลาออกจากหัวหน้าพรรค พท. ที่ประกาศช่วงนี้เนื่องจากเหตุผลความจำเป็นในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในสถานการณ์พิเศษ ที่พรรค กก.บห.และสมาชิกพรรคส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ อยู่ในขั้นตอนนำรายชื่อทูลเกล้าฯถือว่าภารกิจสำเร็จเรียบร้อย เมื่อถามว่าถ้ามีสมาชิกเสนอชื่อให้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกจะรับหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ต้องนำเรื่องนี้ไปพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อน

มติพรรคมอบ “ชูศักดิ์” รักษาการแทน

ด้านนายประเสริฐกล่าวว่า หลังจากนี้ถือว่าคณะกรรมการบริหารหมดสภาพ แต่ กก.บห.อื่นๆ นอกจากหัวหน้าพรรคยังรักษาการอยู่ โดยที่ประชุมมีมติเลือกนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค ขึ้นมาเป็นรักษาการหัวหน้าพรรคแทน ส่วนการสรรหา กก.บห.ชุดใหม่ ต้องทำในระยะเวลา 60 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ทั้ง 3 แกนนำพรรค พท.ต่างยกมือไหว้ซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งลุกขึ้นมาจับมือให้กำลังใจ นพ.ชลน่าน

“อดิศร” เชียร์ “โต้ง-นพดล” เสียบแทน

ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวว่า อยากให้ นพ.ชลน่านกลับมาเป็นหัวหน้าอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่มีแคนดิเดตหัวหน้าพรรค มองว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯหรือนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อและอดีต รมว.ต่างประเทศ เหมาะสมเป็นหัวหน้าพรรคได้ นพ.ชลน่านลาออกคงไม่เกี่ยวกับการลดแรงเสียดทาน เพราะผู้สนับสนุนพรรคที่ด่าก็ด่าอยู่แล้วเป็นธรรมดา เราบริหารไป วันที่ 8 หรือ 9 ก.ย. จะแถลงนโยบายรัฐบาลแล้ว เหลือแต่ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านที่ยังไม่มีใครรับ เมื่อถามว่าพรรค พท.จับมือพรรค 2 ลุง จะเป็นฝ่ายค้านอิสระตามที่เคยพูดไว้หรือไม่ นายอดิศรตอบว่า ได้ถูกวางตัวเป็นประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ต้องประสานงานการประชุม เช่น จัดทำประชามติ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ดูกฎหมายทุกพรรค ชอบสภาจึงขออนุญาตทำหน้าที่เป็นประธานวิปรัฐบาล มีตำแหน่งเทียบเท่ารองนายกฯ เสียดายนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.ที่มีชื่อเป็นรองนายกฯ มีลักษณะคล้ายนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ความสามารถเป็นที่ยอมรับ เป็นห่วงฝ่ายกฎหมายรัฐบาลจะแข็งพอหรือไม่

“เสี่ยหนู” เบ้ปากคุณสมบัติ “ชาดา”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท.ให้สัมภาษณ์ถึงคุณสมบัติรัฐมนตรีของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรค ภท. ที่มีชื่อเป็น รมช.มหาดไทย ถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมและถูกนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร.ร้องเรียนการเสียภาษี โดยนายอนุทินทำท่าเบ้ปากก่อนตอบว่า “เขามีการตรวจสอบคุณสมบัติอยู่” เมื่อถามว่านางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล บอกให้ตรวจปัสสาวะรัฐมนตรีบางคนก่อนรับตำแหน่ง นายอนุทินตอบว่า “โน คอมเมนต์” เมื่อถามย้ำถึงการตรวจสอบคุณสมบัติของรัฐมนตรีของพรรค ภท.นายอนุทินตอบว่า ไม่ใช่เราตรวจสอบ แต่เป็นสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เป็นผู้ตรวจสอบ

การันตีไม่เคยเห็นทำผิด ก.ม.

ต่อมานายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า พรรคตรวจสอบระดับหนึ่ง และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ตรวจสอบอีกระดับ และประชาชนตรวจสอบอีก เราไม่ทำผิดกฎหมายแน่นอน ความรู้สึกของคนมีทั้งชอบและไม่ชอบ เอามาเป็นสาระสำคัญไม่ได้ ต้องดูตามกฎหมาย ส่วนกระแสโซเชียลมีเดียวิจารณ์นายชาดาเรื่องยาเสพติด ทุกอย่างเป็นไปตามหลักฐาน ไม่เคยเห็นนายชาดาทำผิดกฎหมาย หรือทำสิ่งไม่เหมาะสมใดๆ ไปถามคนอุทัยธานีได้ มั่นใจนายชาดาเป็นคนดี เมื่อถามถึงกรณีส่งนายตำรวจ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตที่ปรึกษาพิเศษ ตร.คุมกระทรวงศึกษาธิการ นายอนุทินตอบทันทีว่า “พล.ต.อ.ครับ ผ่านตำแหน่งสำคัญมาแล้ว” เมื่อถามย้ำว่า แต่ไม่มีประสบการณ์ด้านการศึกษา นายอนุทินย้อนถามว่า “แล้วผมมีประสบการณ์หมอหรือไม่”

พปชร.ยัน 4 รายชื่อ รมต.คงเดิม

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลใหม่ โควตาพรรคว่า ขอยืนยันรายชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นรายชื่อเดิมทั้ง 4 ตำแหน่ง ที่ได้เสนอรายชื่อเพื่อตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รายชื่อที่พรรค พปชร.ที่นำเสนอไปล้วนแล้วเป็นบุคคลที่พรรคได้คัดสรรแล้วว่า เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และมีความตั้งใจที่จะช่วยพี่น้องประชาชนให้อยู่ดีกินดี และมีความมั่นคงในชีวิต

“เสรีพิศุทธ์” ไขก๊อกพ้น สส.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค สร.ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสส.ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาให้มีผลวันที่ 1 ก.ย. ทำให้นายมังกร ยนต์ตระกูล ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 2 และเลขาธิการพรรค สร.เลื่อนขึ้นมาเป็น สส.แทน โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์แจ้งต่อคนใกล้ชิดและประธานสาขาภาคต่างๆว่า ไม่ได้น้อยใจที่ไม่ได้รับตำแหน่งใดในรัฐบาลของพรรค พท.และยังจะช่วยลงพื้นที่ช่วยพรรคต่อไป

แขวะตั้ง ครม.หมาแย่งชามข้าว

ต่อมาที่พรรค สร. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์แถลงว่า เป็นความตั้งใจเสียสละลาออกจาก สส. หลังช่วยเปิดทางให้พรรค พท.ตั้งรัฐบาลจับมือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. รวมเสียงสนับสนุนให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯได้ ถือว่าภารกิจสำเร็จตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. และเพื่อให้หัวหน้าพรรคสร. มีบทบาทสร้างพรรคได้เต็มที่ ส่วนการจัดสรรโควตา ครม.ทั่วๆไปเหมือนหมาแย่งชามข้าว ตนไม่ได้หมายถึงตอนนี้ แต่เมื่อแย่งโควตาแล้ว สงสัยว่าทำไมไม่อายข้าราชการในกระทรวง

จ้องสอย “ป๊อด” ไร้คุณสมบัติ

เมื่อถามว่า ลาออกเพราะผิดหวังไม่ได้ตำแหน่งรมต.หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า ไม่ได้ผิดหวังอะไร แต่ไปตั้งใครไม่รู้ ทั้งอดีตนักโทษ คนเคยติดคุกมา คนไม่มีประสบการณ์อย่าง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.เคยถูกไล่ออกจากราชการ ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ทำหน้าที่แล้วมีคนตาย หากเลขาธิการ ครม.ตรวจสอบแล้วไม่ผิดจะตรวจสอบต่อเอง เมื่อไปถึงศาลรัฐธรรมนูญถ้าชี้ว่าขาดคุณสมบัตินายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่กำกับ สลค.ต้องรับผิดชอบ

“วิษณุ” ชี้ “พิชิต” ไม่เข้าข่ายต้องห้าม

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์คุณสมบัติ นายพิชิต ชื่นบาน ที่มีข่าวจะได้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯเคยถูกจำคุกคดีละเมิดอำนาจศาล ประเด็นถุงขนมว่า นายพิชิตระบุข้อกล่าวหาตอนแรกเรื่องทุจริตมี แต่สุดท้ายอัยการสั่งไม่ฟ้อง ที่ลงโทษไปเป็นเรื่องละเมิดอำนาจศาล ที่สำคัญผ่านมาเกิน 10 ปีแล้ว คดีเกิดตั้งแต่ปี 2552-2553 จึงไม่เข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 และ 160 แต่ถ้าถูกจำคุก และพ้นโทษไม่ถึง 10 ปี เป็นไม่ได้การละเมิดอำนาจศาลถือเป็นคำสั่งศาล ไม่อยากตอบว่านำมาใช้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 98 และ 160 ได้หรือไม่ เพราะเป็นปัญหาใหม่อีกข้อหนึ่ง โดยทั่วไปไม่ถือเป็นโทษอาญา ถ้าคดีจริยธรรมดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้หรือไม่ เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ตั้งข้อสังเกตเรื่องจริยธรรมตั้งได้กับทุกคน สภาฯต้องพิจารณาและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด เลขาธิการ ครม.จะรายงานให้นายกฯคนใหม่ทราบแล้วตัดสินใจเอง โดยไปคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมฯถ้าเห็นว่ายุ่ง ไม่อยากไปตายเอาดาบหน้า ควรถอนเสียก่อนตั้งแต่ตอนนี้ซึ่งก็แล้วแต่

“วิโรจน์” แขวะไขก๊อกไปนั่ง รมต.

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงเสียงวิจารณ์คุณสมบัติรัฐมนตรีทั้งนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรค ภท. และนายพิชิต ชื่นบาน ว่า นายกฯควรตอบคำถามสังคม การติติงจากประชาชนควรรับฟัง แต่ควรให้โอกาส ให้เวลารัฐบาลพิสูจน์ผลงาน ประชาชน จับจ้องเพราะคาดหวังสิ่งใหม่ๆ แต่หากเป็นบุคคลเดิมๆ ประชาชนอาจสิ้นหวังบ้าง ส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน ลาออกจากหัวหน้าพรรค พท. เพื่อไปเป็น รัฐมนตรีต่อ ไม่ใช่ลาออกให้เปล่าเล่าเปลือย สื่อคง ทราบดีลดแรงเสียดทานของสังคมได้หรือไม่ คำว่าลาออกในมุมมองประชาชนคือลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่ลาออกเพื่อไปรับตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้น

7 ก.ย. นัดเลือก ปธ.กมธ.35 คณะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ 35 คณะ ของสภาผู้แทนราษฎรว่า ได้รับมอบหมายจากประธานสภาฯให้ตั้ง กมธ. 35 คณะ เร็วที่สุด ได้ทำหนังสือนัดแต่ละพรรคการเมือง ส่งตัวแทนพรรคละ 2 คน มาประชุมร่วมกันในวันที่ 31 ส.ค. เวลา 13.30 น.เพื่อแจ้งให้ทราบถึงสัดส่วนถึงจำนวนที่แต่ละพรรคจะได้เป็นประธาน กมธ.และให้แต่ละพรรคกลับไปหารือในพรรคว่า ต้องการ กมธ. ชุดใดบ้าง จากนั้นวันที่ 7 ก.ย. จะให้ทุกพรรคมาประชุม หาวิธีเลือกประธานแต่ละคณะว่า พรรคใดจะได้กมธ.คณะใด โดยวิธีจับฉลากหรือตกลงกัน ถ้าตกลงกันได้ให้เป็นความพอใจของทุกพรรค เมื่อได้ประธานกมธ.แล้ว วันที่ 12 ก.ย. ให้ทุกพรรคส่งรายชื่อ สส.ใครไปอยู่กมธ.ชุดใด จากนั้นวันที่ 14 ก.ย.ประชุม กมธ.นัดแรกเลือกประธานและรองประธาน ส่วนพรรค ก.ก. ไม่อยากให้คนนั่งประธาน กมธ.ตรงกับเจ้ากระทรวง ของรัฐบาล ขึ้นอยู่กับที่ประชุมวันที่ 7 ก.ย. จะตกลงกัน มีเวลา 1 สัปดาห์ ไปคุยกันแล้วมาเลือกวันที่ 7 ก.ย.

สภาขวาง ก.ก.เลื่อนวาระทำประชามติ

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เสนอต่อที่ประชุมให้เปลี่ยนระเบียบวาระประชุม โดยนำญัตติขอให้สภาฯพิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้ ครม.ดำเนินการออกเสียงประชามติสอบถามความเห็นประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ถูกบรรจุเรื่องค้างพิจารณาลำดับ 33 มาพิจารณาก่อน โดยนายพริษฐ์กล่าวว่า จำเป็นต้องทำให้ชัดเจน สังคมถกเถียงเรื่องแก้รัฐธรรมนูญที่จะใช้เวลา 2 ปีจำเป็นที่สภาฯต้องทำให้ชัดเจน ทุกพรรคต้องถกเถียงให้ตรงกันในคำถามประชามติที่ควรออกแบบให้ดี แต่ สส.หลายคนคัดค้านไม่ให้เลื่อน อาทิ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทา พรรค พปชร. ระบุว่า เรื่องที่บรรจุก่อนเรื่องนี้คือการแก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำช่วยเหลือเกษตรกร ถือว่าสำคัญเร่งด่วน ควรคงไว้เช่นเดิม อย่าแซงดีกว่า โดยมี สส.พรรค ปชป.และพรรค ภท.สนับสนุน จนต้องลงมติตัดสินโดยที่ประชุมไม่เห็นด้วยให้เลื่อนวาระการพิจารณาแจ้งให้ ครม.ทราบเรื่องการดำเนินการสอบถามความเห็นประชาชนเรื่องการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญมาพิจารณา ด้วยคะแนน 262 ต่อ 143

“ไอติม” ทวง พท.ทำประชามติ รธน.

ต่อมาเวลา 12.10 น. นายพริษฐ์ลงมาแถลงข่าวภายหลังสภาฯตีตกญัตติของพรรค ก.ก.ที่ขอเลื่อนวาระการทำประชามติขึ้นมาพิจารณาก่อนว่า น้อมรับผลการลงมติ เมื่อเราเสียโอกาสถกเรื่องประชามติในสภาฯ จำเป็นที่นายกฯคนใหม่และรัฐบาลใหม่ จะให้ความชัดเจนนโยบายการเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ มีคำถาม 2 ข้อ ถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ 1.ในฐานะนายกฯที่ได้ให้สัญญากับประชาชน ยังยืนยันคำเดิมหรือไม่ว่าการประชุม ครม.นัดแรกจะมีมติครม.ให้จัดประชามติเดินหน้าสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ 2.หากยืนยันจัดประชามติ คำถามประชามติที่ใช้จะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ คำถามต้องกระชับตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย ยังควรยืนยัน 2 หลักการสำคัญว่าต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับและร่างโดย สสร.จากการเลือกตั้ง 100%

“ไอลอว์” ยื่น 2 แสนรายชื่อชงคำถาม

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงาน กกต. นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชนหรือไอลอว์ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลผล แกนนำกลุ่มราษฎร และเครือข่ายกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ นำรายชื่อประชาชน 212,139 คน ที่เข้าชื่อเสนอคำถามทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เข้ายื่นต่อ กกต. นายยิ่งชีพ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ประชาชนใช้เวลาเพียงนิดเดียว 3-4 วัน ขับเคลื่อน หวังว่า กกต.จะเร็วกว่าเรา อยากถาม กกต.ว่าจะตรวจสอบรายชื่อเสร็จกี่โมง เรารออยู่อย่าช้ากว่าเรา เพราะไอลอว์อำนวยความสะดวกให้ทุกอย่างสามารถตรวจสอบรายชื่อเสร็จได้เลย และนำข้อเสนอของประชาชนไปวางที่โต๊ะประชุม ครม.นัดแรกได้เลย

เลขาฯ กกต.รับปากเร่งมือเต็มที่

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการตรวจสอบรายชื่อประชาชน 2 แสนชื่อที่ไอลอว์นำเสนอเพื่อจัดทำคำถามประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า มีเงื่อนเวลาให้ตรวจสอบภายใน 30 วัน แต่จะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด ถ้าเอกสารเรียบร้อยไม่นาน แม้จะมีถึง 2 แสนรายชื่อต้องตรวจทั้งหมดไม่เฉพาะแค่ 5 หมื่นรายชื่อตามกฎหมาย จะพยายามให้อยู่ในกรอบเวลาที่กำหนด ส่วนเรื่องการทำประชามติจะดำเนินการตามกระบวนการมีคู่มือการทำประชามติและบริหารสถานการณ์ตามเงื่อนเวลา ทุกอย่างเป็นมาตรฐานทั้งหมด บริหารจัดการง่ายกว่าการเลือกตั้ง โดยการทำประชามติ กกต.ไม่ได้เตรียมคำถามไว้ ต้องรอจาก ครม.และการทำประชามติครั้งนี้คาดว่าจะใช้งบน้อยกว่าการเลือกตั้ง โดยจะถอดบทเรียนจากการเลือกตั้งสส.นำมาใช้

“บัญญัติ” ตีแสกหน้า “เดชอิศม์”

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา รักษาการรองหัวหน้าพรรค ปชป. ยืนกรานพรรค ปชป.ไม่มีมติให้งดออกเสียงโหวตเลือกนายกฯในวันที่ 22 ส.ค.ว่า นายเดชอิศม์สับสนมากจริงๆเรื่องพรรคมีมติหรือไม่มีมติเลือกนายกฯ ที่นายเดชอิศม์บอกว่าที่ประชุม สส.ถกกัน 3 ประเด็น เห็นชอบ ไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง ไม่จริงทั้งหมด เพราะมีผู้ให้ความเห็นว่า น่าจะเห็นชอบอยู่บ้างสองสามคน แต่ไม่ได้ตั้งใจถึงขนาดขอลงมติเช่นนั้น ที่ถกกันจริงๆ ถึงขนาดอธิบายเหตุผลประกอบคือ จะงดออกเสียงหรือไม่เห็นชอบ และเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมเห็นว่า ควรงดออกเสียง รวมทั้งนายเดชอิศม์เองด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค จึงพูดว่า “คงไม่ต้องลงมติกระมังครับ” จากนั้นมี สส.หลายคนลุกขึ้นทักท้วงว่า ควรมีมติ ตนจึงลุกขึ้นอธิบายว่า ที่นายจุรินทร์กล่าวนั้นคงไม่ต้องลงมติ คงไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีมติ เพราะเมื่อฟังดูแล้วว่า เสียงส่วนใหญ่ชัดเจนให้งดออกเสียง มติพรรคคืองดออกเสียง

ทีมโฆษก รบ.น้ำตาคลอกอดลา “ลุงตู่”

เมื่อเวลา 10.23 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เข้าปฏิบัติหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยไม่มีวาระงาน ทันทีที่ถึงตึกไทยคู่ฟ้า ทีมรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล และ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ได้มอบพวงมาลัยแสดงความขอบคุณนายกฯที่ให้โอกาส และเชื่อมั่น สนับสนุนภารกิจ นอกจากเป็นผู้บังคับบัญชา ยังเปรียบเหมือนผู้ใหญ่ในครอบครัว คอยให้คำแนะนำปรึกษาและให้กำลังใจ ขณะที่นายกฯกล่าวขอบคุณที่ร่วมมือกันทำงานทุกภารกิจผ่านไปได้อย่างราบรื่น และอวยพรให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง และส่วนรวมต่อไป ทุกคนยังพบเจอกันได้ มีอะไรพูดคุยกัน ไม่ได้หายไปไหน โดยทีมรองโฆษกประจำสำนักนายกฯถึงกับน้ำตาคลอ เข้าโอบกอดให้กำลังใจกัน ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 08.29 น. รองโฆษกประจำสำนักนายกฯทั้ง 3 คนได้สักการะพระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า ศาลพระภูมิเจ้าที่และศาลตา ศาลยาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯก่อนสิ้นสุดวาระ

เข้าทำเนียบฯส่งท้ายก่อนพ้นหน้าที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน พล.อ.ประยุทธ์ปฏิบัติภารกิจอยู่บนตึกไทยคู่ฟ้า และเดินทางกลับออกไปเมื่อเวลา 15.15 น. ก่อนเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ได้ถ่ายรูปร่วมกับข้าราชการตำรวจประจำทำเนียบรัฐบาลทั้งหมด และวันที่ 31 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้าทำเนียบรัฐบาลเป็นวันสุดท้าย โดยจะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ทั้งพระพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า ศาลพระภูมิเจ้าที่และศาลตา ศาลยาย ก่อนร่วมถ่ายรูปที่ระลึกและร่วมพิธีอำลาพ้นจากตำแหน่งกับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล

ศปปส.ปลุกทุกสีเสื้อพักรบ

วันเดียวกัน นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.)เปิดเผยถึงการจัดปาร์ตี้นัดกระชับมิตร “เหลือง&แดง” ของกลุ่มเสื้อเหลืองกับเสื้อแดงที่ร้านแซ่บไบรท์ในวันเสาร์ที่ 2 ก.ย.ว่า การเมืองตอนนี้มีการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว มวลชนฝ่ายสนับสนุนพรรคสีต่างๆยอมรับการจับมือกันได้ เหมือนเป็นการพักรบให้ประเทศได้เดินไปต่อ คิดจะจัดงานรวมตัวทุกสีเสื้อขึ้น ไม่ใช่แค่เหลือง-แดง แต่กลุ่มเสื้อสีส้มหรือกลุ่มราษฎรที่อยู่ตรงข้ามกับ ศปปส.หากอยากหันหน้ามาคุยกันด้วยเหตุด้วยผลมาร่วมได้ ในแบบพูดคุยปรับจูนให้ตรงกันด้วยเหตุผล

ด้านนายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ ตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดง แฟนคลับพรรค พท.ที่เป็นคนนัดจัดปาร์ตี้เหลือง-แดง โพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า “ประเทศไทยถ้าจะไปแดกข้าวกับคนเห็นต่างต้องโดนด่าด้วยเหรอ ชีวิตจริงมีเพื่อนเป็นสลิ่มยังแดกข้าวด้วยกันได้เลย อย่าทำตัวดัดจริตกันนัก เผลอๆคนในครอบครัวพ่อแม่ญาติพี่น้องเองก็สลิ่ม ยังไปนั่งแดกข้าวด้วยกันเลย”

แกนนำราษฎรเบือนหน้าหนี

ขณะที่นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดปาร์ตี้ดังกล่าวเป็นของกลุ่มคนที่มีแนวโน้มคิดตรงกัน คือกลุ่ม กปปส.เดิมกับสมาชิกพรรค พท.ส่วนหนึ่ง ทั้ง 2 กลุ่มมองคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดปฏิรูปสถาบันว่า เป็นปฏิปักษ์เหมือนกัน การนัดเจอกันของ 2 กลุ่มเป็นแค่แอ็กชันทางการเมืองไม่ได้มีความสำคัญกับการขับเคลื่อนของกลุ่มราษฎร ไม่สามารถสลายสีเสื้อได้ ประชาธิปไตยกับเผด็จการไม่สามารถเป็นเนื้อเดียวกันได้

ขอเปิดกล้องพิสูจน์ “ทักษิณ” ป่วย

อีกด้าน ที่อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา รพ.ตำรวจ กรมราชทัณฑ์เปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมนายทักษิณเป็นวันที่ 3 แต่ไม่มีญาติของนายทักษิณปรากฏตัวให้สื่อมวลชนที่เฝ้าติดตามข่าวอยู่ได้เห็นแต่อย่างใด ต่อมาเวลา 10.00 น.นายทรงชัย เนียมหอม ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน เข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และนายแพทย์ ใหญ่ รพ.ตำรวจ เรียกร้องให้เปิดหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงที่นำตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นักโทษเด็ดขาดคดีทุจริต จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ส่งไปยัง รพ.ตำรวจ มี พ.ต.อ.กฤษฎา ธีรพงศ์ ผกก.ฝ่ายธุรการกำลังพล กองบังคับการอำนวยการโรงพยาบาลตำรวจ และตัวแทนเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์รับเรื่อง

บี้อธิบดีราชทัณฑ์ส่งกลับเข้าคุก

นายทรงชัยกล่าวว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไขข้อข้องใจว่า นายทักษิณป่วยจริงและได้รับอภิสิทธิ์พิเศษหรือไม่ ทั้งขอเรียกร้องให้นำตัวกลับไปคุมขังที่เรือนจำเร็วที่สุด จากนี้จะไปแจ้งความให้ สน.ประชาชื่น ดำเนินคดีกับนายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ที่ให้อภิสิทธิ์กับนายทักษิณมากกว่านักโทษรายอื่น ขณะที่นายพิชิต ไชยมงคล และนายนัสเซอร์ ยีหมะ แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ประกาศผ่านสื่อสังคมออนไลน์ นัดแนวร่วมให้ใส่รองเท้าผ้าใบออกไปร่วมแจกสติกเกอร์ “น.ช.ทักษิณต้องติดคุก” ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ช่วงเย็นวันที่ 31 ส.ค.ด้วย

โปรดเกล้าฯ ผบ.เหล่าทัพ

ช่วงค่ำ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้นายทหารรับราชการ โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายทหารรับราชการ สนองพระเดช พระคุณจำนวน 762 ตำแหน่ง มีตำแหน่งสำคัญๆ โดยเฉพาะ ผบ. 4 เหล่าทัพ เป็นไปตามโผที่มีกระแสข่าวออกไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) อาทิ พล.อ. ทรงวิทย์ หนุนภักดี หรือ “บิ๊กอ๊อบ” เป็น ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.อนุสรณ์ คุ้มอักษร เป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.โดมศักดิ์ คำใสแสง เป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน เป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา เป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด

“บิ๊กต่อ-บิ๊กดุง-บิ๊กไก่” ผงาดขึ้น ผบ.

กองทัพบก อาทิ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ หรือ “บิ๊กต่อ” เป็น ผบ.ทบ. พล.อ.สุขสันต์ หนองบัวล่าง เป็นรอง ผบ.ทบ. พล.อ.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย เป็นประธานคณะที่ปรึกษา ทบ. พล.อ.อุกฤษ บุญตานนท์ เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ เป็นเสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) พล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 (มทภ.1) พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ เป็น มทภ.2 พล.ต.ประสาน แสงศิริรักษ์ เป็น มทภ.3 กองทัพเรือ อาทิ พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม หรือ “บิ๊กดุง” เป็น ผบ.ทร. พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข เป็นรอง ผบ.ทร. พล.ร.อ.โกวิท อินทร์พรหม เป็นประธานคณะที่ปรึกษา ทร. พล.ร.อ.ชลทิศ นาวานุเคราะห์ เป็นผู้ช่วย ผบ.ทร. พล.ร.อ.วรวุฒิ พฤกษารุ่งเรือง เป็น เสธ.ทร. พล.ร.ท.ชาติชาย ทองสะอาด เป็นผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) ส่วนกองทัพอากาศ อาทิ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล หรือ “บิ๊กไก่” เป็น ผบ.ทอ. พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ เป็นรอง ผบ.ทอ. พล.อ.อ.พงษ์สวัสดิ์ จันทสาร เป็นประธานคณะที่ปรึกษา ทอ. พล.อ.อ.วิศรุต สุวรรณเนตร เป็นผู้ช่วย ผบ.ทอ. พล.อ.อ.อนันตชัย แก้วศรีงาม เป็นผู้ช่วย ผบ.ทอ.พล.อ.ท.เสกสรรค์ คันธา เป็น เสธ.ทอ. ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2566 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี