รัฐบาลงานสร้างจะว่าอย่างนั้นก็คงไม่ผิด เพราะกว่าจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ก็เล่นเอาเหนื่อยกันไปตามๆ

รัฐบาล 11 พรรค 314 เสียงที่มี “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรี ล่าสุดคงตั้งลำได้แล้วเมื่อรายชื่อ ครม.ลงตัว

ที่ยุ่งๆไม่ใช่พรรคร่วมเท่านั้น “เพื่อไทย” เองก็ไม่เบา อย่างว่าแหละนักการเมืองนั้นยอดปรารถนาก็คือ

ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี

เกริ่นกันไว้ล่วงหน้าถ้ารายชื่อรัฐมนตรีหยดสุดท้ายคลอดออกมาเมื่อใด ใครอยู่กระทรวงไหน “ก้าวไกล” เตรียมขึ้นบัญชีเอาไว้แล้ว

ยิ่งบรรดาที่มีปูมประวัติไม่ค่อยจะโสภานักให้ระวังตัวไว้ได้เลย

มีควันหลงมาเล่าสู่กันฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงการชิงเก้าอี้รัฐมนตรี โควตาแต่ละพรรคอันมีผลต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย

สังเกตให้ดีระหว่างพี่น้อง 2 ป. คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สนิทกันแนบแน่นกลับเกิดอาการต่างกัน

“บิ๊กตู่” นั้นยิ้มแย้มแจ่มใส

“บิ๊กป้อม” มีอาการเครียดหลบมุมไม่ค่อยเผยตัว

ที่เป็นปรากฏการณ์ชัดเจนก็คือ สว.สายอดีตนายกรัฐมนตรีเทคะแนนโหวตให้ “เศรษฐา” เต็มที่จนคะแนนเกินกึ่งหนึ่งท่วมท้น

แต่สาย “บิ๊กป้อม” นั้นงดออกเสียงเท่ากับไม่หนุนช่วยมีการพูดกันว่าไม่สนับสนุนทั้งๆที่พลังประชารัฐก็ได้ร่วมรัฐบาลไม่ต่างกัน

เขาบอกว่า “บิ๊กป้อม” ต้องการหนุนคนอื่นมากกว่านั้น จึงส่งผลต่อโควตากระทรวงที่ได้รับคือ 4 กระทรวงเท่ากับรวมไทยสร้างชาติ ทั้งๆที่จำนวน สส.มากกว่า

ได้มีการขอ “เพื่อไทย” ให้เพิ่มจาก 4 เก้าอี้ เป็น 2+3 ปรากฏว่าไม่ได้รับการสนองตอบนั่นแหละ จึงเกิดอารมณ์เดือด

...

แต่ของรวมไทยสร้างชาติขออะไรได้หมด

อีกประเด็นที่เป็นปมเงื่อนก็คือมีการร้องขอให้รวมไทยสร้างชาติอย่าเพิ่งเจรจาโควตากระทรวงก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี

ปรากฏว่าไม่เป็นไปตามนั้น เพราะรวมไทยสร้างชาติแอบ ไปเจรจากันก่อนและได้ตามที่ต้องการ จึงไม่แปลกที่เห็นนายกฯใหม่ไปพบนายกฯเก่า ด้วยบรรยากาศที่ชื่นมื่นชวนอิจฉา

ถึงกับมีข่าวว่าจากบ้านป่ารอยต่อล่องลอยด้วยคำสบถว่า “มันหักหลังกันนี่หว่า”

ใครกับใครอ่านเกมแล้วจะรู้เอง...

เหล่านี้คือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย แต่เป็นเรื่องใหญ่ระหว่าง “2 พี่น้อง” ที่กินใจกันเพราะการวางบทบาททางการเมืองนี่แหละ

สู้ “น้องรอง” ไม่ได้หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อเสร็จภารกิจสบายตัวไปไม่ต้องยุ่งกับใครและรับผิดชอบใคร ผิดไปจาก “พี่ใหญ่” และ “น้องเล็ก”

“น้องเล็ก” นั้นแฮปปี้ส่งพรรคพวกขึ้นฝั่งแล้วและหลุดพ้นจากบ่วงการเมือง

“พี่ใหญ่” ยังอยู่ในวังวนการเมืองฐานะหัวหน้าพรรคที่ต้องรับผิดชอบลูกน้องอีกกลุ่มหนึ่ง เพราะไม่ยอมปลดระวาง
ตัวเองด้วยคำว่าบารมี

จึงเป็นเหตุแห่งทุกข์

เพราะกิเลสความอยากได้อยากเป็น!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ "กล้าได้กล้าเสีย" เพิ่มเติม