“นายกฯนิด” ฟิตเปรี๊ยะขนทีมงานลงพื้นที่ภูเก็ต เก็บข้อมูลฟื้นท่องเที่ยว ขออีก 3-4 วันสรุปจบโผ ครม.“เศรษฐา 1” ตั้งเป้าฟอร์มรัฐบาลเดินเครื่องเร็วกว่าสิ้นเดือน ก.ย. พท.ปั้นดรีมทีมลุยแก้ปากท้อง กู้ศรัทธาโกยเรตติ้ง นายกฯสวมบทซีอีโอควบ รมว.คลังคุมบริหารเศรษฐกิจภาพรวมทั้งประเทศ ดึง “กฤษฎา” ลูกหม้อ ก.คลัง เป็นมืองานนั่ง รมช.คลัง “ปานปรีย์” เป็นรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯควบ รมว.พาณิชย์ ขยับ “วราวุธ” ไปนั่ง รมว.พม. เกลี่ยใหม่ ภท.ได้ 4 กระทรวง “มท.-ศธ.-อว.-แรงงาน” “บิ๊กเล็ก” เพื่อนรัก “บิ๊กแดง” เต็งหามคั่ว รมว.กลาโหม พปชร.สายบนนิ่ง เหลือ “ตรีนุช-ไผ่” ชิงดำ รมช. รทสช.คืบอีกขั้น “พีระพันธุ์” รองนายกฯ ควบ รมว.พลังงาน “เสี่ยแฮงค์” ยึด รมช.เกษตรฯ “สุพล จุลใส” ขึ้นแท่น รมช.มหาดไทย “วิษณุ” ประกาศวางมือการเมือง กลับบ้านเลี้ยงหลาน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาก่อนที่จะเริ่มเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ นำคณะทำงานลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคด้านการท่องเที่ยวจากผู้ประกอบการในพื้นที่

...

“เศรษฐา” อุ่นเครื่องยกทีมลงภูเก็ต

เมื่อเวลา 08.00 น. เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบาย พรรคเพื่อไทย (พท.) และน.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.และนายจักรพงษ์ แสงมณี คณะทำงานด้านการท่องเที่ยว ไปรับฟังปัญหาและอุปสรรคด้านการท่องเที่ยว การให้บริการของสนามบินแก่นักท่องเที่ยว มีนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ และให้ข้อมูล ก่อนเดินทางไป จ.ภูเก็ต เพื่อพบปะหารือผู้บริหารการท่าอากาศยานภูเก็ต จากนั้นไปพบผู้ประกอบการภาคเอกชน ที่โรงแรมรามาดา พลาซ่า เจ้าฟ้า เดินตลาดเมืองเก่า ภูเก็ต หาดป่าตอง หารือถึงข้อจำกัดการเปิดสถานบันเทิงในพื้นที่

สำรวจลู่ทางรับไฮซีซันท่องเที่ยว

จากนั้นเวลา 11.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ พร้อม นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบายพรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. พร้อมนายจักรพงษ์ แสงมณี นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ คณะทำงานด้านการท่องเที่ยว เดินทางลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะความไม่เพียงพอในการให้บริการสนามบินสำหรับนักท่องเที่ยว มีนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บ.ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ พร้อมเดินตรวจท่าอากาศยาน จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า มารับฟังข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพราะสนามบินคือจุดแรกที่รับนักท่องเที่ยว อยากรับฟังปัญหาและดูว่าอนาคตอยากจะทำอะไร เพื่อไปร่างนโยบายตอบสนองความต้องการของท่าอากาศยาน รวมถึงเรื่องนักท่องเที่ยวที่พรรค พท.เชื่อว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในระยะสั้น คือการท่องเที่ยว ที่อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน ต้องรับฟังข้อมูลไปก่อนเพื่อเตรียมวางแผน ปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาในประเทศไทยเพียง 30% ขณะที่ประเทศจีนเผชิญสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย จึงไม่พยายามที่จะสนับสนุนนักท่องเที่ยวไปเที่ยวต่างประเทศ แต่เราต้องพยายามทำให้ง่ายต่อการเข้ามาในประเทศ

 เล็งขยายสนามบินภูเก็ต-เชียงใหม่

นายเศรษฐากล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ จ.ภูเก็ตเป็นพื้นที่แรก ปฏิเสธไม่ได้เนื่องจากเป็นแหล่งรายได้ใหม่ใหญ่ที่สุดในประเทศ จึงมาดูพื้นที่ก่อนจะไปดู พื้นที่อื่นต่อไป และจะพูดคุยเรื่องการขยายท่าอากาศยาน ทั้งภูเก็ต สุวรรณภูมิ และเชียงใหม่ต่อไป เมื่อถามว่าเมื่อลงหาเสียงที่ จ.พังงา มีการสอบถามถึงการสร้างสนามบิน การลงพื้นที่ครั้งนี้จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างหรือไม่ นายเศรษฐาระบุว่าต้องปรึกษาสภาพัฒน์ก่อน เรื่องอยู่ในแผนแม่แบบอยู่แล้ว ให้ติดตามกันต่อไป เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากสนามบินภูเก็ตใกล้จะถึงจุดที่รองรับนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดแล้ว

บอกโผ ครม.อีก 3-4 วันจบได้

เมื่อถามว่าโผคณะรัฐมนตรี พรรค พท.จะดูแลเศรษฐกิจ ตำแหน่งต่างๆชัดเจนแล้วหรือยังนายเศรษฐากล่าวว่า เป็นรูปร่างมากขึ้น ขอให้อดใจอีก 3-4 วัน คาดว่าน่าจะจบได้ ขอให้อดใจรออีกสักนิดนึง ทั้งต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล เพราะมีหลายพรรค แต่ในส่วนของพรรค พท.ลงตัวหมดแล้ว เมื่อถามว่าวันนี้มีการลงมาดูการท่องเที่ยว ควงว่าที่รัฐมนตรีท่องเที่ยวมาด้วยใช่หรือไม่ นายเศรษฐายิ้มหัวเราะพร้อมกล่าวเลี่ยงว่า “คำถามต่อไปครับ” เมื่อถามว่าจะนั่งควบตำแหน่ง รมว.คลังด้วยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า คงอยู่ที่พรรค  พท. ขอเวลานิดนึง รายชื่อ ครม.ทั้งหมดจะเสร็จสิ้นในไม่กี่วันนี้ เมื่อถามต่อว่าวันจันทร์หน้าจะตรวจสอบประวัติได้เลยใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เป็น ความคาดหวัง หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี เราอยากให้นับหนึ่งได้แล้ว หลังรับสนองพระบรม ราชโองการ ต่อไปตรวจสอบรายชื่อ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ รวมถึงแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จะได้ประชุมครม.นัดแรก อยากให้เร็วที่สุด เพราะมีภาระเร่งด่วนและครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เดือดร้อน

 หวังฟอร์ม ครม.เร็วกว่าสิ้น ก.ย.

เมื่อถามอีกว่าการประชุม ครม. นัดแรกจะมีวาระเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่าต้องขอรวบรวมทั้งหมดก่อน และจะแถลงให้ทราบ เพราะเป็นหลายๆเรื่องที่เร่งด่วน รวมถึงการรับฟังกรณีภาคประชาชนอย่าง iLaw ที่มีการรวบรวมรายชื่อ เมื่อถามถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เผยไทม์ไลน์รัฐบาลใหม่จะเริ่มทำงานได้ช่วงปลายเดือน ก.ย. นายเศรษฐากล่าวว่า จะพยายามครับ ส่วนตัวอยากให้เร็วกว่านั้น เพราะมีหลายเรื่องเร่งด่วน เช่น การท่องเที่ยว เมื่อถามว่าในการประชุม ก.ตร.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เลื่อนเคาะตำแหน่ง ผบ.ตร. รอนายกฯเป็นคนดำเนินการ นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องนี้ต้องคอยก่อนให้ผ่านการถวายสัตย์ฯก่อน ต้องมีการแถลงนโยบาย จากนั้นแล้วแต่ ก.ตร.จะนัดประชุมเมื่อไหร่ ขอบคุณท่านที่ให้เกียรติ

ถ่ายภาพคู่ว่าที่ รมว.ชื่นมื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการควงว่าที่ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาและเลขาธิการนายกฯ มาลงพื้นที่ จ.ภูเก็ตด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม เพียงแต่บอกว่า “พูดเองเออเอง” ก่อนหัวเราะอารมณ์ดี ขณะที่ น.ส.สุดาวรรณ ออกอาการเขิน ยิ้มหัวเราะชอบใจตามไปด้วย โดยช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์นายเศรษฐาได้ถ่ายรูปร่วมกับ น.ส.สุดาวรรณ ว่าที่ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และ นพ.พรหมินทร์ ที่มีกระแสข่าวจะเป็นเลขาธิการนายกฯ พร้อมหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดี โดยทั้งสองคนไม่มีใครปฏิเสธเรื่องตำแหน่ง จากนั้นนายเศรษฐาบอกว่า “ทั้งสองคนอยู่ในการดูแลของผม ถูกห้ามไม่ให้พูดเรื่องนี้” ทั้งนี้ ระหว่างลงพื้นที่นายเศรษฐาใช้รถยนต์หมายเลขทะเบียน ขง 4477 ภูเก็ต เป็นพาหนะตลอดเส้นทาง

ลุยขับเคลื่อนท่องเที่ยวทุกมิติ

ต่อมาเวลา 14.10 น. นายเศรษฐาและคณะ ไปที่โรงแรมรามาดา พลาซ่า เจ้าฟ้า พบปะผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต โดยนายเศรษฐากล่าวตอนหนึ่งว่า เลือกมา จ.ภูเก็ตจังหวัดแรก เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว วันนี้ต้องลืมเรื่องพรรคการเมือง ต้องเอาประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้ง พรรค พท.ไม่มี สส.ภูเก็ตแม้แต่คนเดียว แต่ทราบกันดีว่าการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ตกต่ำมาก ประเทศอื่นเจริญเติบโตไปเยอะมาก ต้องคำนึงถึงมากที่สุด ไตรมาสที่ 4 ที่จะถึงสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวในไทย จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นได้ดีที่สุดในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ช่วงเช้าไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ พูดคุยถึงปัญหาต่างๆ แผนการขยายงาน ไม่ได้มาสั่งการแต่มารับฟังความคิดเห็น รวมทุกความคิดเห็นไปประกอบการตั้งนโยบาย อยากให้ทุกคนทราบว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรค พท.จะขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติ ไม่ใช่สายการบิน อากาศยาน แต่เรื่องความปลอดภัย ความมั่นคง และการทำวีซ่าของประเทศต่างๆ ที่เราคาดว่าจะมีการยกเว้น และบางประเทศอาจมีการยืดระยะเวลาการอยู่ได้ด้วย

โอลด์ทาวน์แตกคนแห่ขอเซลฟี่นายกฯ

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายเศรษฐาพร้อมคณะเดินทางไปย่านเมืองเก่าภูเก็ต เยี่ยมชมบรรยากาศการค้าขายในพื้นที่ รวมทั้งรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการ เพื่อนำปัญหาไปจัดทำแผนงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ได้รับความสนใจทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ขอถ่ายภาพเซลฟี่ตลอดเส้นทาง ร้านค้าต่างๆพากันยื่นขนมให้นายเศรษฐาทดลองชิม อาทิ ไอศกรีมรสกาแฟ และนายเศรษฐาแวะร้านบ้าน 92 ภูเก็ตโอลด์ทาวน์ ชิมผัดหมี่ฮกเกี้ยน รวมถึงทดลองปั้นขนมอั่งกู๊เตาแดง ขนมมงคลที่ใช้ในเทศกาลตรุษจีน ไหว้เทวดา ช่วงหนึ่งมีผู้ปกครองพาลูกชายนักเรียนชั้นประถม 3 มายืนดักรอ เพราะอยากเห็นหน้านายกฯตัวเป็นๆ โดยนายเศรษฐาได้เข้าไปทักทายพร้อมจับมือและโอบไหล่ถ่ายรูปด้วยอย่างเป็นกันเอง จนเด็กชายคนดังกล่าวแอบอมยิ้มปลื้มอย่างมีความสุข

เร่งฟอร์ม รบ.ขับเคลื่อนงานโกยเรตติ้ง

นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวว่า เป็นการรับฟังความคิดเห็นและรับฟังปัญหา เพื่อที่จะไปประกอบการทำนโยบายโดยรวม เช่น โซนนิงการขยายเวลาการทำงานของสถานบันเทิง แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ความมั่นคง จ.ภูเก็ต เป็นแหล่งรายได้ใหม่ของประเทศ บางโครงการอาจจะมีการขาดทุน แต่เมื่อมีการดำเนินการไปแล้วทำให้ จ.ภูเก็ต โดยรวมดีขึ้น เมื่อถามว่าสิ่งที่ต้องเร่งเพื่อรองรับไตรมาส 4 ที่จะมาถึงในเรื่องของการท่องเที่ยวคืออะไร นายเศรษฐากล่าวว่า หลายเรื่อง เช่น การเพิ่มบุคลากรของการตรวจคนเข้าเมือง วีซ่าของนักท่องเที่ยวหลายๆประเทศที่อาจต้องมีการได้รับการยกเว้น หลายเรื่องต้องดูให้ดี จึงอยากฟอร์มรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว และมีการประชุม ครม. ออกนโยบายโดยเร็ว เรื่องวีซ่าเป็นเรื่องสำคัญ มีของหลายประเทศ ต้องไปปรึกษากับกระทรวงการต่างประเทศอีกครั้งว่าจะมีประเทศใดบ้าง ทั้งนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้โทรศัพท์มาแสดงความยินดีหลังได้รับตำแหน่งเป็นนายกฯ รู้สึกว่าจะโทร.มาตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. แล้ว บอกว่าเดี๋ยวคงได้เจอกันที่โปโลคลับ จะไปเล่นกีฬากัน เมื่อถามต่อว่านายพิธาฝากเรื่องแก้วิกฤติศรัทธาประชาชนอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ก็รับฟังครับ”จากนั้นช่วงค่ำนายเศรษฐานำคณะไปพบปะผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวที่ถนนบางลา หาดป่าตอง หารือการจัดโซนนิงขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงในพื้นที่หาดป่าตอง

วอนขึ้นจากปลักความขัดแย้ง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรค พท.กล่าวว่า ได้ติดตามลงพื้นที่ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและคณะ เห็นความใส่ใจปัญหารับฟังทุกภาคส่วน ทั้งที่ยังไม่ได้ทำงานเป็นทางการ มีความหวังแทนประชาชน ยิ่งได้เห็นวิสัยทัศน์ของคนทำงานแบบมืออาชีพ วางเป้าหมายแก้วิกฤติเศรษฐกิจปากท้องที่แจ่มชัดมั่นใจว่าจะทำได้สำเร็จ ประชาชนอุ่นใจได้ ยืนยันนายเศรษฐาและพรรค พท.จะทำงานแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่ว่าใครจะเลือกพรรค พท.หรือไม่ ไม่ว่าอยู่ภาคไหนทุกคนคือคนไทยที่พรรค พท.ต้องรับผิดชอบ ฝากบางคนบางฝ่ายอย่าติดหล่มจมปลักค้าความขัดแย้ง สร้างวาทกรรมเกลียดชัง ทุกนาทีคือวิกฤติ เดิมพันความเป็นอยู่ประชาชนและพรรค พท. ให้โอกาสพรรค พท.ทำงาน ร่วมกันมองไปข้างหน้าก่อน ถ้าล้มเหลวผิดพลาดมาชี้หน้าด่ายังไม่สาย

“สุทิน” หัวเราะร่วนอยากนั่ง ศธ.

นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดโผ ครม.ว่า ไม่ทราบ แต่คาดจะเสร็จเรียบร้อยสัปดาห์หน้า ส่วนกระแสข่าวที่ระบุตนจะได้ตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ยังไม่ชัดเจน ไม่มีการยืนยัน แต่หากได้ตำแหน่งจริงพร้อม เพราะเป็นครูมาทุกสังกัด ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวอยากได้กระทรวงนี้หรือไม่ นายสุทินหัวเราะก่อนตอบว่า อยากได้กระทรวงที่เราถนัดอยู่แล้ว ส่วนกระแสข่าวที่ก่อนหน้านี้มีชื่ออยู่ในโผ รมว.กลาโหมไม่เคยคิด แต่มีโผออกมา แต่โควตา รมว.กลาโหมเป็นของพรรค พท. จะเป็นคนในพรรคหรือคนนอก อาจเป็นไปได้ทุกอย่าง อาจจะปรับเปลี่ยนเป็นคนนอกก็ได้ ไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไร เมื่อถามว่าส่วนตัวอยากได้กระทรวงกลาโหมหรือกระทรวงศึกษาธิการ นายสุทินหัวเราะก่อนตอบว่า “ได้ทั้ง 2 กระทรวง”

รทสช.เปิดโหวตชื่อ 4 รมต.กลางดึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 00.00  น. เพจเฟซบุ๊ก พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์ข้อความว่า ประกาศพรรค รทสช. ตามที่พรรคได้รับเชิญให้เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล และได้รับตำแหน่ง รมว.และ รมช. รวม 4 ตำแหน่ง พรรคขอเชิญชวนสมาชิกเสนอรายชื่อบุคคลที่เห็นว่าเหมาะสมในการเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี โดยยื่นหนังสือเสนอชื่อและประวัติบุคคลดังกล่าว และลงนามด้วยตัวท่าน ถึงหัวหน้าพรรค รทสช. ณ ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 28 ส.ค.เวลา 16.30 น.เพื่อเสนอให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาตามข้อบังคับพรรคข้อ 89 ต่อไป อย่างไรก็ตามต่อมาพรรคได้มีการลบโพสต์ดังกล่าวออกแล้ว

“ตุ๋ย” ยันเร่งจัดโผ รทสช.เร็วที่สุด

เมื่อเวลา 09.18 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ปฏิเสธกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวมีชื่อนั่งรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ต่อมานายพีระพันธุ์ โดยผู้สื่อข่าวกระเซ้าเรียกรองนายกฯ ซึ่งนายพีระพันธุ์ ยิ้มไม่ได้ตอบอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช.ที่ประกาศให้สมาชิกพรรค รทสช.เสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมนั่ง 4 เก้าอี้รัฐมนตรีของพรรค นายพีระพันธุ์กล่าวเพียงว่า จะพยายามพิจารณา ให้เร็วที่สุด

เก้าอี้ รมต.ของพรรค 1–2 วันสรุป

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรค รทสช.กล่าวถึง กรณีเพจพรรครทสช.โพสต์ประกาศเชิญชวนสมาชิกพรรคร่วมเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมนั่ง 4 รัฐมนตรี แต่ภายหลังลบไปว่า เจ้าหน้าที่พรรคโพสต์เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรค รับฟังความคิดเห็นประชาชน แต่เมื่อผู้บริหารพรรคมาเห็นได้แจ้งให้ทราบว่าเป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากกรรมการบริหารพรรครทสช.ได้ประชุมกันไปแล้วและมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ไปดำเนินการแล้ว จึงลบข้อความออกไป ส่วนความคืบหน้าการพิจารณาบุคคลมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จากที่ได้พูดคุยกับเลขาธิการพรรคล่าสุดเข้าใจว่าภายใน 1-2 วันนี้น่าจะได้ข้อสรุป

พท.เร่งสรุปโผ ครม.ฝ่าวิกฤติ

สำหรับความคืบหน้าการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พยายามเร่งสรุปส่งรายชื่อรัฐมนตรีให้จบลงให้ได้เร็วที่สุด คาดว่าต้นสัปดาห์หน้าจะเรียบร้อย เพราะเสียเวลามา 100 วัน กว่าจะตั้งนายกฯได้ ได้ประเมินว่าหากการจัดโผ ครม.ยิ่งล่าช้ายิ่งทำให้กระแสนิยมยิ่งตก ต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศให้เห็นความเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว เพื่อเรียกศรัทธาและความร่วมมือจากประชาชน ข้าราชการ ธุรกิจ มาเป็นตัวช่วยเสริมพลังขับเคลื่อน ล่าสุด พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคส่งรายชื่อรัฐมนตรีพร้อมตำแหน่งมาให้พรรค พท.แล้ว แต่การจัดวางในภาพรวมยังไม่สะเด็ดน้ำ ยังคงมีการต่อรองแย่งชิงกันระหว่างพรรค โดยเฉพาะกระทรวงใหญ่ๆ ขณะที่พรรค พท.มีเป้าหมายชัดเจนมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ จึงล็อกโควตากระทรวงสำคัญด้านเศรษฐกิจที่จะเป็นมือไม้ขับเคลื่อนนโยบายและกำกับทิศทางการบริหารไว้กำกับดูแลเองทั้งหมด

ปั้นดรีมทีมลุยแหลกแก้ปากท้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯคนที่ 30 จะสวมบทบาทนายกฯซีอีโอ บริหารจัดการเศรษฐกิจทั้งประเทศ โดยเป็นนายกฯควบ รมว.คลังอีกตำแหน่งหนึ่ง มีนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ที่จะครบเกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย.นี้ ลูกหม้อกระทรวงการคลัง มาคอยช่วยงานนั่งเก้าอี้ รมช.คลัง พร้อมทั้งมีชื่อนายปานปรีย์ พหิทธานุกร มือทำงานด้านเศรษฐกิจอีกคนหนึ่งของพรรค พท.เข้ามาเป็นรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ผนึกกำลังช่วยกันขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ ร่วมกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นั่งเป็น รมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ว่าที่ รมว.ต่างประเทศ

“บิ๊กเล็ก” เต็งหาม รมว.กห.โควตา พท.

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับตำแหน่ง รมว.กลาโหม ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวพรรค พท.จะเสนอชื่อนายสุทิน คลังแสง เข้าไปนั่งเป็น รมว.กลาโหม ที่มาจากพลเรือน เพื่อจะให้มีมาตรฐานสากล แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากกองทัพ ล่าสุด ปรากฏชื่อ“บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีต เสธ.ทบ.และรอง ผบ.ทบ. อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เป็นตัวเต็ง โดย พล.อ.ณัฐพลปัจจุบันเป็นที่ปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ที่ พล.อ.ประยุทธ์ไว้วางใจให้ทำงานใกล้ชิดมาตลอด และยังมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระดับเพื่อนรักกับ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ.และเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.20 ด้วยกันด้วย

พรรค “สองลุง” ลงตัวโผเริ่มนิ่ง

ด้านพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ค่อนข้างนิ่งแล้ว สำหรับเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคในส่วนของกระทรวง หลัก ยังคงเป็นตามโผเดิมคือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรค นั่งรองนายกฯควบ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรค เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ท่ามกลางกระแสข่าวความพยายามจะเอาตำแหน่ง รมว.แรงงานมาแลก ขณะที่เก้าอี้ รมช. 2 ตำแหน่ง ที่แน่นอนแล้วคือนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค แต่ยังมีบางกระแสข่าวระบุอาจถูกโยกไปเป็น รมช.สาธารณสุข ส่วนอีกชื่อยังประกบคู่กันสูสีอยู่ระหว่าง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง กรรมการบริหารพรรค ผู้ใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคกับนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร คนใกล้ชิดของ ร.อ.ธรรมนัส

“แฮงค์-ลูกช้าง” รับตำแหน่ง รมช.

ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) คลื่นลมสงบ การแบ่งสรรตำแหน่งรัฐมนตรีในโควตาของพรรคค่อนข้างลงตัวแล้วเช่นกัน โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. จะดำรงตำแหน่งรองนายกฯควบ รมว.พลังงาน ม.ล.ชโยทิต กฤดากร สส.บัญชีรายชื่อ ดำรงตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม ส่วน 2 รมช.คือนายอนุชา นาคาศัย นั่งตำแหน่ง รมช. เกษตรและสหกรณ์ และนายสุพล จุลใส สส.ชุมพร พี่ชายของนายชุมพล จุลใส หรือลูกหมีอดีตแกนนำ กปปส. เป็น รมช.มหาดไทย ในนามตัวแทนโควตากลุ่ม สส.ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค

“อ้วน” รองนายกฯควบพณ. “ท็อป” ไป พม.

สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ก่อนหน้านี้มีชื่อนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชทพ. จะไปเป็น รมว.พาณิชย์ แต่ล่าสุดพรรค พท.ได้เจรจาขอโยกไปนั่งเก้าอี้ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่เดิมจัดสรรให้คนของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เพื่อเปิดทางให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวพน้าพรรค พท.ที่จะมานั่งเป็นรองนายกฯควบ รมว.พาณิชย์

ภท.เขย่าใหม่ได้ มท.-ศธ.-อว.-แรงงาน

ขณะที่โควตารัฐมนตรีของพรรค ภท.ถูกปรับเปลี่ยนมาหลายครั้ง จนมาลงตัวที่กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)ที่ได้โควตารัฐมนตรีว่าการ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล จะนั่งรองนายกฯควบ รมว.มหาดไทย ส่วนตำแหน่งอื่นๆต้องมาเขย่าให้เหมาะกับกระทรวงอีกครั้ง ทั้งพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายพิพัฒน์ รัชกิจประภา นายชาดา ไทยเศรษฐ์ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม และนายบุญลือ ประเสริฐโสภา

“วิโรจน์”เฉ่ง พท.กระพี้หยุมหยิม

วันเดียวกัน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ถูก สส.พรรค พท.ตำหนิการแต่งกายไม่สุภาพเรียบร้อย โดยนำรูปนายลี เซียนลุง นายกฯ สิงคโปร์ สวมเสื้อเชิ้ตเข้าประชุมสภาฯไม่ผูกเนกไท เช่นเดียวกับนายปดิพัทธ์ มาโพสต์ พร้อมระบุว่า ไม่นึกไม่ฝันว่าอยู่ดีๆพรรค พท.เอาเรื่องกระพี้มาประท้วงเอาซีนในสภาฯอีก ถือโอกาสชี้แจงจะได้เคลียร์ๆ การประท้วงด้วยเรื่องไร้สาระแบบนี้จะได้หมดไปจากสภาฯไทยเสียที ไม่อยากให้เรื่องหยุมหยิมแบบนี้รกสภาฯ แจ้งเพื่อทราบ ปัจจุบันที่อังกฤษ นิวซีแลนด์และมาเลเซีย สส.เขาไม่ต้องใส่เนกไทแล้ว ด้านนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กก.บห.พรรคก.ก.โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตำแหน่งเดียวที่ ก.ก.เหลืออยู่คือรองประธานสภาฯคนที่ 1 ยังตามบดขยี้ไม่ให้เหลือ ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไรกัน

“พิธา” ลุยฝนหาเสียงระยอง

เมื่อเวลา 13.00 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ลงพื้นที่หาเสียงช่วยนายพงศธร หรือโย ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร สส.ระยอง เขต 3 นำนายพงศธรขึ้นรถแห่ตระเวนไปถนนในซอยบ้านนา 3 อ.แกลง ชุมชนโพธิเงิน ชุมชนแหลมยาง ชุมชนดอนมะกอก ตลาดนัดหนองกะพ้อ ตลาดนัดวังหว้า ก่อนลงจากรถแห่เดินทักทายประชาชนชนิดเคาะประตูบ้าน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาตลอดเวลา มีประชาชนมาต้อนรับขอถ่ายรูป มอบของขวัญ พวงมาลัย อย่างคึกคัก

จี้ “นายกฯนิด” แก้วิกฤติศรัทธา

นายพิธาให้สัมภาษณ์ว่า ได้โทร.ไปยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯคนใหม่ด้วยตัวเองยืนยันว่าวิกฤติของบ้านเมืองไม่ใช่แค่วิกฤติเกี่ยวกับเศรษฐกิจหรือสิ่งแวดล้อมและการศึกษาอย่างเดียว แต่เป็นวิกฤติศรัทธาประชาชนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการได้ฟังเสียงของประชาชนจากการลงพื้นที่ เป็นสิ่งที่ผู้นำคนต่อไปต้องแก้ไขโดยการรวมความคิดของคนในชาติให้กลับมาอยู่เป็นปึกแผ่นเดียวกันได้ และได้ยินนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่าท่านจะเป็นนายกฯของประชาชน อวยพรว่าให้ท่านทำได้อย่างนั้นจริงๆ

“ราเมศ” ยัน “ชวน” ไม่ขัดมติ ปชป.

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)กล่าวถึงความขัดแย้งกรณี 16 สส. โหวตนายกฯสวนมติพรรค ปชป.ที่ให้งดออกเสียงว่า มีข้อเท็จจริงที่ไม่ตรงตามความเป็นจริงหลายประเด็น การประชุม สส.พรรคก่อนวันโหวตนายกฯ ในส่วนของนายชวน หลีกภัย แจ้งต่อที่ประชุมจำเป็นต้องโหวตไม่เห็นชอบ ไม่มีผู้ใดขัดข้อง มติที่ประชุมเป็นไปตามที่โฆษกที่ประชุม สส.คือ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง ที่ออกมาแถลงผลการประชุม คือที่ประชุมมีมติให้งดออกเสียง และกรณีของนายชวนไม่ใช่การฝ่าฝืนมติที่ประชุม สส.นายชวนต่อสู้กับพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เป็นความเคียดแค้นส่วนตัว แต่เป็นเรื่องความถูกความผิด และอุดมการณ์เพื่อประชาชนภาคใต้ที่ถูกเลือกปฏิบัติ นายชวน คือเสาหลักพรรค คงไม่มีใครคิดขับนายชวนออกจากพรรค วันที่คนของพรรคเพื่อไทย แกล้งยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้ยุบพรรค ปชป.นายชวน คือคนที่ต่อสู้จนชนะคดี ทำให้พรรคไม่ถูกยุบ

โอ่เป็นฝ่ายค้านรุกเต็มรูปแบบ

โฆษกพรรค ปชป.กล่าวว่า พรรค ปชป.ขอประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอย่างเต็มรูปแบบ ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมาแทนพี่น้องประชาชนเต็มที่ ฝ่ายค้านคงไม่ใช่แค่การตรวจสอบอย่างเดียว แต่จะรวมถึงการทำงานในเชิงรุกใช้กลไกของฝ่ายนิติบัญญัติในการผลักดันแก้ปัญหาให้กับประชาชน รวมถึงยกร่างและการแก้ไขกฎหมายขับเคลื่อนแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนที่ต้องสังคายนากฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

สายเหนือรุดให้กำลังใจเสาหลัก

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กลุ่มผู้บริหารและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และสมาชิกพรรค ปชป.จากต.สะเนียน อ.เมืองน่าน เดินทางมาเยี่ยมชมที่ทำการพรรค ปชป. มีนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ปชป.ภาคเหนือ และ น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ กรรมการบริหารพรรค ปชป.ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ ได้เข้าพบให้กำลังใจนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรค ปชป.โดยนายชวน มอบต้นไม้ให้นายก อบต.สะเนียน เป็นที่ระลึก

“บิ๊กตู่” นั่งหัวโต๊ะถก ก.ตร.งดจ้อ

เมื่อเวลา 09.30น. ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เขตปทุมวัน กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 7/2566 โดยการประชุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้สื่อมวลชนรออยู่ที่ลานด้านหน้าอาคาร 1 แทนบริเวณห้องโถงชั้นล่างของอาคารที่เคยรอทำข่าวกันเป็นประจำ คาดว่า เกรงสื่อมวลชนจะถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่กำลังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางกลับ เข้าทำเนียบรัฐบาลทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ส่วนการพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.ได้แจ้งถอนวาระออกไปก่อน เพื่อให้เป็นดุลพินิจนายกฯคนใหม่

“บิ๊กป้อม” เร่งแก้ปัญหาอากาศ

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแห่งชาติ (กนภ.) ครั้งที่ 3/66 เพื่อปรับปรุงองค์กรและระเบียบราชการ รับงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ นับวันจะมีความผันผวนและทวีรุนแรงมากขึ้น มีผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมของประเทศเป็นอย่างมาก เป็นเรื่องรอไม่ได้ ต้องเตรียมการรับมือ ขอให้คณะกรรมการฯ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ศึกษาติดตามขับเคลื่อนร่วมกับภาคีเครือข่ายองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในและระหว่างประเทศ รับมือกับผลกระทบ ป้องกันและแก้ปัญหาไปพร้อมๆกัน

“วิษณุ” ชี้ 2 นายกฯพบกัน ขรก.โล่ง

เมื่อเวลา 13.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 2 นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายเศรษฐา ทวีสิน พบปะกันที่ทำเนียบรัฐบาล ถูกมองว่าเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองว่า อย่าให้ถึงขั้นเป็นประวัติศาสตร์เลย ถือเป็นเหตุการณ์ที่แปลก และเป็นนิมิตหมายที่ดี โดยนายกฯในอดีตหลายคนพยายามทำอย่างเดียวกันทุกสมัยแต่ทำไม่ได้ เพราะไม่สะดวกหรือบางทีก็เคอะเขินกันบ้างทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากที่เคยหาเสียงแข่งกัน จะทำหรือไม่ทำก็ได้ ถ้าทำก็เป็นนิมิตหมายที่ดีข้าราชการทั้งหลายจะได้สงบ สบายอกสบายใจ จริงๆ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้มีอะไรหรอกท่านก็ยินดี

เชื่อ “รัฐบาลก้านยาว” แข็งโป๊ก

เมื่อถามว่า ประเมินรัฐบาลที่กำลังตั้งอยู่อย่างไร นายวิษณุตอบว่า ยังไม่เห็นหน้าตา แต่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯคนที่ 30 ได้คะแนนเสียงในสภาฯมาก เชื่อว่าเป็นรัฐบาลที่แข็งแกร่ง แต่ในรัฐบาลมี 6 พรรค โอกาสกระทบกระแทกกันเป็นเรื่องธรรมดา ก่อนหน้ามาเป็นรัฐบาลเคยขัดแย้งกันมาก่อน ถ้าเรารับหลักการก้าวข้ามขั้วสลายความขัดแย้ง มันดีทั้งในรัฐบาลและประเทศ แต่ทำได้หรือเปล่าไม่ทราบ เมื่อถามว่าสลายสีเสื้อแล้วแสดงว่าไม่เกิดสนิมเนื้อในอีก นายวิษณุตอบว่า ทำได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าทุกคนตั้งใจพยายามประคับประคองก็ไปได้

ประกาศปิดฉากชีวิตการเมือง

นายวิษณุกล่าวด้วยว่า ได้เริ่มทยอยเก็บของจากห้องทำงาน ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบฯ ไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่หมด คงเก็บอีกหลายรอบ เมื่อถามว่าภารกิจหลังจากหมดวาระรองนายกฯไปแล้วจะทำอะไร นายวิษณุตอบว่า 1.อยู่บ้านพักผ่อน 2.เล่นกับหลานมีความสุขมาก เคยเว้นมาแล้วครั้งหนึ่งตอนนั้นยังไม่มีความสุขมาก เพราะไม่มีหลาน 3.เขียนหนังสือและสอนหนังสือ 4.อาจเป็นประธานหรือคณะกรรมการในบริษัทต่างๆที่พอมีรายได้บ้าง และยังทำหน้าที่กรรมการกฤษฎีกาและราชบัณฑิตอยู่ ส่วนงานการเมืองถือว่าจบแล้ว คิดแบบนี้มาตั้งแต่ปี 49 แต่อีก 8 ปีต่อมามีเหตุกลับมาอีก ครั้งนี้หวังว่าไม่มีแล้ว เพราะมีปัญหาสุขภาพแทรกเข้ามา ใครมาชวนที่ไหนจะเปิดพุงให้ดู เมื่อถามว่าปิดประตูทางการเมืองแล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ใช่ จะให้ไปสาบานที่ไหน

“อ๋อง” ไม่ออก ปชป.ผู้นำฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่านายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรค ก.ก.ไม่ยอมลาออกจากรองประธานสภาฯ ตำแหน่ง ผู้นำฝ่ายค้านจะตกไปที่พรรค ปชป.หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้เอาเสียงมากอย่างเดียว แต่ต้องไม่มีตำแหน่งรองประธานสภาฯถือว่าจะตกไปที่หัวหน้าพรรค ปชป.โดยอัตโนมัติ และหัวหน้าพรรคต้องเป็น สส. ความจริงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านไม่มีอำนาจบารมีเท่าไหร่ แต่มีความสำคัญอยู่บ้างในบางเรื่อง เช่น ขอเปิดอภิปรายที่ได้พูดคนแรก ที่สำคัญคืออยู่ในกรรมการสรรหาองค์กรอิสระ แต่ถ้าไม่มีผู้นำฝ่ายค้านก็ขาดไป 1 เสียง เมื่อถามว่าหากหัวหน้าพรรค ปชป.ในอนาคตไม่ได้เป็น สส.จะทำอย่างไร นายวิษณุตอบว่า เป็นผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้ ดังนั้นไม่ต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย

ผบ.ทบ.ยิ้มรับทุกอย่างดีหมด

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯคนใหม่ ว่า “ทหารเราก็ปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม” เมื่อถามว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้เป็นการปรองดองสลายสี สลายขั้วการเมืองหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ตอบว่า ทหารเองก็เตรียมการปฏิบัติหน้าที่ในปีต่อไป ไม่ว่าใครจะเป็นผู้บังคับบัญชาปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งหน้าที่ เมื่อถามย้ำว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทุกสีมาจับมือกันหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ตอบว่า บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเป็นเรื่องที่ดี ประชาชนทั่วไปได้ทำมาค้าขาย อยู่อย่างไม่มีปัญหาอะไร มีความสุขทุกอย่างดีหมด ประเทศไทยเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกัน อย่างไรก็ตาม พล.อ.ณรงค์พันธ์ไม่ยอมตอบคำถามถึง รมว.กลาโหมคนใหม่เพียงยิ้มให้ผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี

“เสรี” ชี้ 2 นายกฯ คุยดีกว่าเผชิญหน้า

ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ พบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกฯ ว่า มีนัยอะไรซ่อนอยู่หรือไม่ว่า ดูดี ดูบรรยากาศดี มีการพูดคุยกัน ไม่ใช่การเผชิญหน้ากัน ถือเป็นเรื่องดีที่จะมีรัฐบาลจะบริหารประเทศต่อไป ส่วนโผ ครม.ที่จะเรียกความเชื่อมั่นได้หรือไม่ เป็นเรื่องของข้อตกลงว่าแต่ละพรรคที่มาร่วมให้เกิดรัฐบาลใหม่ ขึ้นอยู่กับความร่วมมือกันของแต่ละพรรค เมื่อตกลงกันแล้วเป็นไปตามที่ตกลง เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วเป็นช่วงเวลาต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชน อาจมีคำถามมาก แต่เชื่อว่า เบื้องต้นคงจะดำเนินการไปได้ด้วยดี

2 ก.ย. เส้นตาย สส.ยื่นบัญชีทรัพย์สิน

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ ครม.และ สส.ชุดใหม่ว่า ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต กำหนดให้ ครม.และ สส.ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน กรณีเข้ารับตำแหน่งภายใน 60 วัน โดย ครม.ให้ถือวันถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นวันเข้ารับตำแหน่ง ส่วน สส.ให้ถือวันปฏิญาณตนในที่ประชุมสภาฯ หาก สส.ปฏิญาณตนเมื่อวันที่ 4 ก.ค. ต้องยื่นในวันที่ 5 ก.ค.-2 ก.ย. ใครปฏิญาณตนวันที่ 12 ก.ค. ยื่นในวันที่ 13 ก.ค.-10 ก.ย. แต่ขอขยายเวลายื่นได้ไม่เกิน 30 วัน สามารถยื่นผ่านทางเว็บไซต์ ป.ป.ช.ได้เพื่อความสะดวกรวดเร็วและความปลอดภัยของข้อมูล

“ไอลอว์” ปิดล่าชื่อแก้ รธน.ทะลุเป้า

ที่สำนักงานโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ย่านลาดพร้าว 25 นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการไอลอว์ เปิดเผยถึงโครงการรวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 50,000 รายชื่อ ด้วยการเขียนในกระดาษ เพื่อเข้าชื่อเสนอคำถามประชามติของเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นวันสุดท้ายว่า เหนือความคาดหมายมากที่ทุกคนให้ความสำคัญ และลงมือทำกันอย่างตื่นตัว ณ เวลา 17.00 น. วันที่ 25 ส.ค. ทีมนับรายชื่อ จากเอกสารที่ส่งมานับจำนวนทะลุแล้วกว่า 52,900 รายชื่อ แต่ประมาณการว่าจะมีรายชื่อถึงหลัก 70,000 รายชื่อ หลังจากนี้ยังต้องการอาสาสมัครมาช่วยกรอกข้อมูลเข้าในระบบเอ็กเซล เพื่อส่งต่อให้ กกต. ตรวจสอบในวันจันทร์ที่ 28 ส.ค.