“เศรษฐา” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกฯคนที่ 30 ลั่นจะมุ่งมั่นทุ่มเททำหน้าที่เต็มกำลัง ตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ประกาศ 4 ปีจากนี้จะเป็น 4 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง พลิกฟื้นประเทศเป็นดินแดนแห่งความหวังของคนรุ่นใหม่ เป็นดินแดนแห่งความสุขของคนทุกวัย พท.เขย่าโผแบ่งเค้กใกล้ลงตัว “เศรษฐา” นั่งนายกฯควบ ก.คลัง “ชลน่าน” กลับไปคุมกระทรวงหมอ “สุริยะ” สายแข็งยึดเก้าอี้คมนาคม โยก “ประเสริฐ” ไปนั่ง รมว.ดีอีเอส โยนชื่อถามกองทัพไฟเขียว “สุทิน” เป็น รมว.กลาโหม “อนุทิน” ยิ้มร่าได้รองนายกฯควบ มท.1 พร้อมแรงงาน-ท่องเที่ยว-พม. “พีระพันธุ์” นั่ง ก.พลังงาน แถมได้ รมว.อุตสาหกรรม พิษ สว.สาย “ลุงป้อม” ไม่โหวตให้ “เสี่ยนิด” พปชร.ส่อถูกบีบเกลี่ยใหม่ รมว.เกษตรฯ ปชป.จ่อตั้ง กก.สอบฟัน 16 งูเห่า “สาธิต” ซัดทำพรรคเสื่อมเสีย “ชัยชนะ” โต้พัลวันไม่ได้ต่อรองเกาะขาร่วมรัฐบาล พร้อมรับคำตัดสิน “บิ๊กตู่” ยินดีนายกฯคนใหม่ ปัดไม่เกี่ยวกดปุ่ม สว.โหวตดับฝัน “ประวิตร”

หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ล่าสุดมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯอย่างเป็นทางการแล้ว โดยนายเศรษฐาประกาศจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต

โปรดเกล้าฯ “เศรษฐา” เป็นนายกฯ

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 23 ส.ค. ที่รัฐสภา นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า หลังจากที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ลงมติให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จัดทำเอกสารให้ประธานรัฐสภาลงนาม เพื่อกราบบังคมทูลถึงผลการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เรียบร้อยแล้ว แต่หนังสือยังมาไม่ถึง ในวันที่ 23 ส.ค.นี้ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะเข้าไปรับหนังสือและนำหนังสือไปที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อประทับตราพระราชลัญจกร 5 ดวง นำกลับมาที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯก่อนจะนำพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯไปยังพรรคเพื่อไทยในเวลา 18.00 น. วันที่ 23 ส.ค. สำนักงานเลขาธิการ ครม.จะตรวจความเรียบร้อยที่พรรค พท. ส่วนที่มีข่าวจะมีการโปรดเกล้าฯตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 22 ส.ค.ไม่เป็นความจริง เพราะยังอยู่ในกระบวนการ สำนักงานเลขาธิการสภาฯไม่ได้แจ้งให้สื่อทราบ แต่วันที่ 23 ส.ค.ได้แจ้งให้ทราบเบื้องต้นแล้ว เพื่อให้สื่อมวลชนเตรียมความพร้อม

...

สลค.สอบคุณสมบัติ รมต.1 สัปดาห์

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ให้สัมภาษณ์ถึงขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยังไม่มีการสอบคุณสมบัติ ยังไม่มีมายื่น ขั้นตอนตรวจสอบจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ พยายามให้เป็นอย่างนั้น โดยต้องให้รัฐมนตรีรับรองตัวเองมาด้วยว่ามีคุณสมบัติ หรือไม่มีลักษณะต้องห้ามอะไรบ้าง สลค.จะตรวจสอบซ้ำอีกครั้งบางประเด็นที่สมควรจะตรวจ ทั้งนี้ ครม.ชุดปัจจุบันจะทำงานได้จนกว่า ครม.ชุดใหม่จะเข้ารับทำหน้าที่หลังการถวายสัตย์ฯ

“เสี่ยนิด” ยิ้มกริ่มเตรียมพร้อม

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯคนที่ 30 ในชุดสูทสีเทา เนกไทสีน้ำเงิน ถุงเท้าแดง เดินทางเข้าพรรค พท. มีมวลชนเสื้อแดงมารอให้กำลังใจ นายเศรษฐาได้ทักทายสื่อมวลชน เมื่อถูกถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ที่ได้เป็นนายกฯ นายเศรษฐาเพียงแต่ยิ้มให้ผู้สื่อข่าวก่อนเดินขึ้นลิฟต์ไป ทั้งนี้ นายเศรษฐาจะแถลงข่าวเปิดใจภายหลังพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นนายกฯคนที่ 30 เสร็จสิ้น

สำนักเลขาสภาฯตรวจสถานที่

ต่อมาเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเลขาธิการสภาฯเดินทางมาที่พรรค พท. ดูสถานที่และตรวจความพร้อมทำพิธีรับสนองพระบรมราช โองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ขณะที่สถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย แม่ข่ายถ่ายทอดสดพิธี เข้าเตรียมพร้อมถ่ายทอดสดช่วงพิธี ตลอดทั้งวันมีตัวแทนภาคเอกชนส่งกระเช้าดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีกับนายเศรษฐาอย่างต่อเนื่อง

ปลื้มปีติรับพระบรมราชโองการ

จากนั้นเวลา 18.00 น.นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาฯ ได้อัญเชิญพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทยมายังห้องประชุมชั้น 7 ที่ทำการพรรค พท.จากนั้นได้อ่านพระบรมราชโองการ ความว่า พระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯให้ประกาศว่าโดยที่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ทั้งสองสภา จึงแต่งตั้งให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังจากนั้นนายเศรษฐา ถวายความเคารพพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว แล้วเปิดกรวยกระทงดอกไม้ รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกฯอย่างเป็นทางการ และถวายบังคมสามครั้ง ก่อนทำความเคารพพระบรม สาทิสลักษณ์อีกครั้ง เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีรับพระบรม ราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกฯ

ลั่นทำหน้าที่เต็มกำลังด้วยความสุจริต

จากนั้นนายเศรษฐา พร้อม พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา น.ส.ชนัญดา ทวีสิน บุตรสาว ได้เดินขอบคุณแกนนำพรรค พท. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัว พท. แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงก้มลงกราบบิดาภรรยาที่นั่งรถเข็นมาร่วมพิธีด้วย ก่อนกล่าวว่า “เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้กระผมดำรงตำแหน่งนายกฯ นับเป็นศุภสิริมงคล แก่ชีวิตและขวัญกำลังใจอันสูงสุด แก่กระผมและครอบครัว อย่างหาที่สุดมิได้ กระผมมีความปลื้มปีติ และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและความวัฒนาสถาพร ของประเทศชาติ สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ และตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ ในวาระที่ตนได้เข้ามาดำรงตำแหน่งในวันนี้ ขอขอบคุณ สส. สว.ที่ทำหน้าที่ที่ผ่านมา ขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน ตลอดจนภาคประชาสังคม เอกชน สำหรับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้ผมได้มีโอกาสในการบริหารราชการแผ่นดิน”

จากนี้คือ 4 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง

นายเศรษฐากล่าวต่อว่า พี่น้องประชาชนคนไทยที่เคารพ ขอยืนยันว่าจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรม ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ มั่นใจว่า 4 ปีต่อจากนี้ จะเป็น 4 ปี แห่งการเปลี่ยนแปลงประเทศ ไทยมีวิกฤติและปัญหาที่ต้องการทางออกอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ รายได้ รายจ่าย ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ความมั่นคง สังคม การต่างประเทศ สิ่งแวดล้อม กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การทุจริตประพฤติมิชอบ และอื่นๆอีกมากมายที่ล้วนก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม ความยากลำบาก ตนมีความประสงค์ที่จะดำเนินนโยบายต่างๆ ที่ได้เตรียมไว้เพื่อแก้ไขวิกฤติ สร้างการพัฒนา การเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาค ไปจนถึงในภาคของครัวเรือน ขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า บริหารงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ สร้างความร่วมมือเชิงบวกกับภาคเอกชน ภาคการต่างประเทศ ทำให้ทั้งภาคประชาชนและราชการเติบโตไปพร้อมๆกัน

ประกาศลุยงานไม่รู้เหนื่อยเพื่อ ปชช.

นายเศรษฐากล่าวอีกว่า มีความตั้งใจที่จะประสานประชาชนคนไทยทุกภาคส่วน สร้างสังคมที่เคารพอัตลักษณ์ เคารพความแตกต่างทางความคิด และเคารพกฎกติกาในกรอบระเบียบและกฎหมาย สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงและตรงไปตรงมา ในฐานะของตัวแทนรัฐบาล ขอเชิญชวนประชาชนคนไทยทุกคนร่วมกันเป็นพลังที่จะคอยผลักดัน ร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาลเพื่อนำพาประเทศ ไทยของเราไปข้างหน้า พี่น้องประชาชนที่เคารพ ตนขอให้คำมั่นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยจะทำงานอย่างหนักเพื่อบำบัดความทุกข์ สร้างความสุข นำพาความเจริญให้กับประชาชนคนไทยและคนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งความหวังของคนรุ่นใหม่ เป็นดินแดนแห่งความสุขของคนทุกวัย เป็นประเทศที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีในเวทีนานาชาติอีกครั้งหนึ่ง ตนจะขอทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเททำงานหนัก รับฟังเสียงของประชาชน นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ นำพาประเทศไทยไปข้างหน้าและสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของพวกเราทุกคน นับจากวันนี้เป็นต้นไป

ยันเดินหน้าแจกเงินดิจิทัลทันที

ต่อมาเวลา 20.00 น. นายเศรษฐาเดินลงจากที่ทำการพรรคมาทักทายสื่อมวลชนและแฟนคลับคนเสื้อแดงที่มารอให้กำลังใจ ก่อนให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการบริหารประเทศว่า ตนพร้อมขับเคลื่อนรัฐบาลแต่ตอนนี้เป็นรัฐบาลผสม คงต้องพูดคุยกันเรื่องของนโยบายและให้เกียรติกัน เราจะเรียกพรรคร่วมมาพูดคุยกัน รวมถึงการตั้ง ครม.ที่ขณะนี้ยังไม่เสร็จสิ้นอยู่ระหว่างการเจรจา มีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดี เมื่อถามว่าจะเสร็จสิ้นสัปดาห์นี้เลยหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า คิดว่ายัง แต่มีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี เราให้เกียรติพรรคร่วม และฝ่ายเจรจา เราทำงานเป็นทีมมีคณะทำงานต้องให้เกียรติพรรคร่วม เมื่อถามว่าเมื่อได้เป็นนายกฯแล้วจะทำอะไรให้ประชาชนเป็นสิ่งแรก นายเศรษฐาตอบว่า มีหลายอย่าง โดยนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000บาท ถือเป็นนโยบายหลักของเรา ต้องมีการพูดคุยกัน ตอนนี้เป็นช่วงของการรวบรวมข้อมูล เมื่อพร้อมและได้รับการโปรดเกล้าฯแล้วจะเริ่มดำเนินการทันที เมื่อถามว่าตอนนี้มีแอปพลิเคชันออกมาแล้ว นายเศรษฐาตอบว่า ส่วนตัวยังไม่เห็น แต่ยืนยันตอนนี้ยังไม่มีแอปพลิเคชันดังกล่าว ยังไม่เสร็จยังทำไม่ได้

“อิ๊ง” โชว์ “น้องธาษิณ” เจอคุณตา

วันเดียวกัน น.ส. แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์รูปภาพน้องธาษิณ ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ คู่กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “22 สิงหา เราได้พบกันเป็นครั้งแรกครับคุณตา ธาษิณได้เจอคุณตาทักษิณแล้วครับ ถึงจะไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันนาน แต่ก็ดีใจที่ได้เจอกันแล้วครับ ผมทำลายสถิติได้เจอตั้งแต่ 3 เดือนกว่าเลย และได้เจอที่ประเทศไทยด้วยนะ”

“ประเสริฐ” ยิ้มรับเก้าอี้ รมว.ดีอีเอส

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท.ให้สัมภาษณ์กรณี สส.พรรค ปชป.บางส่วนโหวตสนับสนุนนายเศรษฐาเป็นนายกฯ จะถูกขับออก จากพรรคและย้ายร่วมงานกับพรรค พท.หรือไม่ว่า ไม่ทราบ และไม่รู้ว่าข้อบังคับพรรค ปชป.กำหนดไว้ อย่างไร รอดูไปก่อน แต่ขอขอบคุณ สส. 16 คน ที่โหวตให้นายเศรษฐา เรื่องการจัดเก้าอี้รัฐมนตรียังอยู่ ระหว่างพูดคุยอยู่ กระแสข่าวตนมีชื่อนั่ง รมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม พรรค พท. กำลังพิจารณากันอยู่ ยังไม่รู้ใครอยู่ส่วนไหน รายชื่อที่หลุดมามีทั้งตรง และไม่ตรง กระทรวงการคลังถ้านายกฯ จะนั่งบริหารกระทรวงการคลังเองก็เป็นเรื่องดี พรรคกำลังพิจารณาอยู่ทุกตำแหน่ง ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ แต่พรรคจะกำกับดูแลเอง เพราะมีนโยบายตรงกันขอให้ติดตามต่อไป

“สุทิน” อู้อี้ไม่รู้ถูกดันนั่ง รมว.กลาโหม

นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวถึงกระแสข่าวจะได้รับตำแหน่ง รมว.กลาโหม ว่า เป็นเพียงการคาดหมายของสื่อ ยังไม่มีใครได้ข้อมูล แท้จริง ใครได้กระทรวงใดต้องเคลียร์กันอยู่ ยังไม่จบ โผที่ออกมาแค่คาดหมาย ยังไม่มีข้อเท็จจริง คาดเดา ถูกๆผิดๆ ส่วนตัวไม่ทราบว่าไปอยู่กระทรวงกลาโหม ไม่คิดว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ข่าวที่บอกจะได้ เป็น รมว.กลาโหม คงเพราะนามสกุล “คลังแสง” หรือไม่ จะได้ประหยัดงบฯ จัดซื้ออาวุธ เพราะมี คลังแสง โควตา รมว.มหาดไทย เป็นของพรรค พท. กระทรวงสาธารณสุข พรรคทำมาตั้งแต่ต้นจึงอยากต่อยอดเพราะจำเป็น แต่มีองค์ประกอบหลายเรื่อง ความจริงมีหมออยู่หลายพรรค เมื่อถามว่า โควตารัฐมนตรียังคงเดิมหรือไม่ หลัง 16 สส.พรรค ปชป. โหวตสนับสนุนนายกฯของพรรค พท. นายสุทินตอบว่า เข้าใจว่าน่าจะนิ่งๆ พรรคใดที่จะมาร่วมงานคงมี หลายโอกาสในวันข้างหน้า แต่ไม่แน่ ทุกอย่างปรับได้หมด หากไม่ลงตัวต้องสลับไปมา คนจัดบอกว่า จัดยากมาก ไม่ทราบพรรค ปชป.จะมาร่วมด้วยหรือไม่ แต่มีเจตนาดี อยากให้ตั้งรัฐบาลได้ ลึกๆอาจมีการ คุยกับทีมเจรจาก็ได้ วันนี้เป็นรัฐบาลพิเศษสลายขั้ว สลายสี รัฐบาลปรองดอง คาดว่าวันที่ 25 ส.ค.ตำแหน่ง ครม.น่าจะจบ

“สุวัจน์” เชื่อต่างชาติมั่นใจสูง

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และได้พรรคร่วมรัฐบาลที่เข้มแข็งด้านเศรษฐกิจมาร่วมด้วย เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมีเสียงสนับสนุน 314 เสียง แม้ในอดีตพรรคร่วมอาจเห็นต่างกัน แต่เมื่อมาร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรค พท.เชื่อว่าอุณหภูมิความขัดแย้งทางการเมืองลดลง มั่นใจรัฐบาลชุดนี้สร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจให้ประชาชนคนไทย และต่างประเทศได้ ขณะที่ฝ่ายค้านมีความเข้มแข็ง สุดท้ายการทำงานจะเกิดความสมดุล

“อนุทิน” ยิ้มร่ายิงมุกเลี่ยงตอบนั่ง มท.1

ช่วงเช้า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินไปยังตึกสันติไมตรี เข้าร่วมประชุม ครม. แต่ไม่หยุดให้สัมภาษณ์เหมือนทุกครั้ง เดินเลี่ยงผ่านวงสื่อมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และปฏิเสธตอบคำถามหลังมีกระแสข่าวจะไปเป็น รมว.มหาดไทย (มท.1) เมื่อถามว่า โควตารัฐมนตรีเรียบร้อยแล้วหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ยังไม่โปรดเกล้าฯ นายกฯ เลย เมื่อถามย้ำว่า มีความชัดเจนแล้วหรือไม่ที่จะไปเป็น มท.1 นายอนุทินย้อนถามสื่อว่า วท.อะไรหรือจากนั้นเดินเข้าห้องประชุม ครม.ทันที

“วราวุธ” ให้สิทธิ พท.แบ่งกระทรวง

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ให้เป็นสิทธิพรรค พท.บริหารจัดการตำแหน่งรัฐมนตรี กระแสข่าวจะได้เป็น รมว.พาณิชย์ ยังไม่ทราบ เราพร้อมทำงาน ตอนนี้มีหลายกระแสข่าว ยังเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีภารกิจค้างคาจะทำจนถึงวินาทีสุดท้าย แต่เมื่อรับทราบกระทรวง โปรดเกล้าฯแล้วค่อยว่ากัน เชื่อว่าพรรค พท. อยากให้มี ครม.ใหม่เร็วที่สุด อาจถูกใจบางท่านหรือไม่ถูกใจบางท่านเป็นปกติ เชื่อมั่นพรรค พท.ในการทำงานและการที่เสนอชื่อนายเศรษฐา คงพิจารณาถี่ถ้วนแล้วเราถึงเชื่อมั่น หมายรวมไปถึงตัวบุคคล เราไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง

“สุชาติ” ทำใจไม่ยึดติดเก้าอี้ รมต.

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน รองหัวหน้าพรรค รทสช.ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้ง ครม.ของรัฐบาลชุดใหม่ว่า ตนจะได้ตำแหน่งอะไรหรือไม่ยืนยันยังไม่คิดอะไรทั้งสิ้น ต้องดูทีละเรื่อง พรรค รทสช.มีความเป็นหนึ่งเดียวยืนหยัดทำพรรคแข็งแรงและใหญ่ขึ้นเป็นที่พึ่งพาของประชาชน เมื่อถามว่า หากไม่มีรายชื่อเป็นรัฐมนตรี ต้องออกจากพรรคหรือไม่ นายสุชาติตอบว่า ต้องยอมรับและเคารพกติกา เราไม่ได้ยึดติดตรงนี้ เมื่อถามว่า กล่าวอำลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯหรือไม่ นายสุชาติหัวเราะก่อนตอบว่า จะอำลาอะไรกัน อยู่กับนายกฯอยู่แล้วไม่ใช่ว่าเราจะจบกันตรงนี้ แล้วจะไปไหนท่านมีบุญคุณกับเรา ต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณกันอยู่แล้ว เรารู้ว่าใครคือคนที่ให้โอกาสเรา

“ธนกร” รอ กก.บห.เคาะชื่อ 4 รมต.

นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรค รทสช.กล่าวถึงโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรค รทสช.ว่า ขณะนี้ทราบเพียงได้ 4 ตำแหน่ง หัวหน้าพรรคจะประชุมกับคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาวางตัวรัฐมนตรีในเร็วๆนี้ ส่วนการทำงานพรรคยืนยันจุดยืนแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 รวมถึงหมวดการป้องกันการทุจริต เน้นการปรองดองให้ประเทศเดินหน้าไปให้ได้ และสานต่อโครงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ทำไม่เสร็จในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา

“ชลน่าน” นั่ง สธ. “ประเสริฐ” ไปดีอีเอส

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค พท. ถึงการแบ่งโควตา ครม.เริ่มชัดเจนขึ้น โดยนายเศรษฐา ทวีสิน ว่าที่นายกฯ จะควบตำแหน่ง รมว.คลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค เดิมมีชื่อเป็น รมว.ศึกษาธิการ ปรับให้เหมาะสมมากกว่าไปเป็น รมว.สาธารณสุข นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค เดิมชิงเก้าอี้ รมว.คมนาคมกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ สุดท้ายนายประเสริฐต้องหลีกทางไปนั่ง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โดยนายสุริยะมีแรงสนับสนุนส่งขึ้นเก้าอี้ใหญ่ รมว.คมนาคม มีนางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม พลาดจากรองประธานสภาฯ ให้มาเป็น รมช.คมนาคม ขณะที่ รมช.คมนาคมอีกคนเป็นโควตาของ จ.กาญจนบุรี ที่ได้ สส.ถึง 5 คน โดยจะให้คนนอกคือนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีมาดำรงตำแหน่งดังกล่าว

“สมศักดิ์-ภูมิธรรม” ยังไม่ได้ที่ลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ แม้ขอเป็น รมช.มหาดไทย แต่พรรควางตัวให้เป็น รมว.ต่างประเทศ ขณะที่นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ ถูกวางตัวให้เป็น รมว.กลาโหม เพราะพรรคต้องการทำหน้าตา ครม.ให้เป็นสากล ที่มีพลเรือนไปนั่งเก้าอี้ดังกล่าว โดยขณะนี้มีการส่งชื่อนายสุทินไปหารือกับกองทัพว่าจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่ ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อและนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ได้เป็น รมต.แน่ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นกระทรวงใด เช่นเดียวกับนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับการยืนยันว่าได้เป็นรัฐมนตรีแน่ แต่ให้นั่งกระทรวงเล็กในสมัยแรกก่อน คาดว่าจะเป็นกระทรวงวัฒนธรรมหรือ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ส่วนนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช แกนนำพรรค พท. จะไปเป็นเลขาธิการนายกฯ เพราะมีความอาวุโส ทำงานด้านนโยบายเป็นหลัก น่าจะคุยกับนายกฯรู้เรื่อง

เก้าอี้ รมว.เกษตรเขย่ากันใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จากเดิมมีแนวโน้มจะได้รับเก้าอี้รมว.เกษตรฯ โดยวางตัวให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มานั่งตำแหน่งนี้ แต่ปรากฏว่า เมื่อเกิดกรณี สว.สาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ไม่ยอมโหวตให้นายเศรษฐาเหมือนที่ตกลงกันไว้ อาจทำให้ต้องเจรจาเก้าอี้นี้กันอีกครั้ง เพราะพรรค พท.พูดไว้ชัดเจนว่าเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีจะดูจากผลโหวตนายกฯ ส่วน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังคงเดิมคือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรค

ภท.คั่ว มท.-แรงงาน-ท่องเที่ยว-พม.

สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ตำแหน่ง รมว.พลังงาน โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค จะนั่งตำแหน่งดังกล่าวเอง และจะได้รับ รมว.อุตสาหกรรมอีก 1 ตำแหน่ง ส่วนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ได้โควตา รมว. 4 ตำแหน่งยังคงนิ่งอยู่เหมือนเดิม โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคจะได้นั่งรองนายกฯควบ รมว.มหาดไทย พร้อมครอบครองโควตา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รมว.แรงงาน รวมทั้ง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) จะได้รับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ มีชื่อนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค เป็นผู้รับตำแหน่งดังกล่าว

ปชป.จ่อตั้ง กก.สอบ 16 งูเห่าแหกคอก

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึง สส.ของพรรคโหวตลงมติเลือกนายกฯไม่เป็นทิศทางเดียวกันว่า เป็นสิทธิของสมาชิก 20 คน จะเข้าชื่อตั้งกรรมการสอบสวนว่าสิ่งที่ทำไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณพรรค ทำให้เกิดความเสื่อมเสียกับพรรคหรือไม่ อย่างไร มีสมาชิกหลายคนพูดว่าถ้าสมาชิกมีพฤติกรรมแบบนี้ คงต้องทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคให้ตั้งกรรมการสอบสวน เพราะพรรค ปชป.ไม่มีการตั้งกรรมการไปเจรจาจัดตั้งรัฐบาล การจัดตั้งรัฐบาลต้องทำหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการจากพรรคแกนนำรัฐบาล สส.หรือรักษาการ ตำแหน่งที่ไม่ใช่ตำแหน่งโดยตรง และไม่ได้รับมอบหมายจาก กก.บห.พรรค ถ้าไปปฏิบัติเกินอำนาจหน้าที่ หรือปฏิบัติแล้วทำให้พรรคเสื่อมเสีย ต้องยอมรับว่าพรรค ปชป.เป็นฝ่ายค้านไปแล้ว และรัฐบาลจัดตั้งรัฐบาล 11 พรรคไปแล้ว ดังนั้น พรรคต้องจัดการภายในของพรรค

ทำพรรคเสื่อมเสียอาจถึงขั้นขับออก

นายสาธิตกล่าวอีกว่า สมาชิกบางคนเดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตอนแรกบอกไม่ได้ไป แต่ยอมรับในรายการทีวีว่าไป ทำให้เสียหายกับพรรค เข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมและทำให้พรรคเสียหาย การโหวตเป็นเอกสิทธิ์ก็จริง อาจไม่ผิดในแง่ผิดมติ สส. แต่น่าจะผิดทำให้พรรคเสื่อมเสีย มีรัฐธรรมนูญใหญ่กว่าข้อบังคับพรรคคุ้มครองอยู่ แต่เมื่อมีการตกลงกันแล้ว ถือว่าทำให้เกิดความแตกแยกสร้างความเสียหายให้พรรค 16 เสียงนี้ต้องผ่านที่ประชุม กก.บห.พรรคและ สส. ก่อนไปร่วม ทุกอย่างมีขั้นตอน เกิน 20 คน ที่เห็นว่าความประพฤติแบบนี้ นำพา สส.ใหม่ที่ขาดประสบการณ์ไปร่วมด้วยจะเป็นปัญหา กรณีนี้หนักมากขึ้นอยู่กับกก.บห.พรรค และข้อบังคับพรรคจะลงโทษอย่างไร ที่มีสมาชิกพรรคอยากให้ขับออกจากพรรค เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เสียหายมากขนาดนี้ หัวหน้าพรรคต้องมีหนังสือและตั้งกรรมการสอบ

“อู๊ดด้า” ลั่น ปชป.มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่อะไหล่

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ได้สั่งให้ชี้แจงในที่ประชุมสส.ครั้งหน้า ถ้ามีสมาชิกพรรคเข้าชื่อกันร้องให้ตรวจสอบจะดำเนินการ โทษเป็นไปตามข้อบังคับพรรค แม้เป็นเอกสิทธิ์ สส.ตามรัฐธรรมนูญ แต่ข้อบังคับพรรคมีอยู่ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ ขอความเห็นชอบจากที่ประชุมพรรค ไม่มีใครขัดข้อง แต่ 16 สส.ไม่ได้แจ้งเหตุผล ยืนยันมาตลอดไม่เคยมอบใครไปเจรจาจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคใด 16 สส.จงใจให้พรรคขับออกเพื่อย้ายไปอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ตอบแทนไม่ได้ ต้องสอบถามเจ้าตัว พรรค ปชป.มีศักดิ์ศรี ไม่เคยไปเป็นพรรคอะไหล่ให้ใคร เราต้องชัดเจนเรื่องนี้

“นริศ” ยัน สส.แหกคอกผิดกฎ ปชป.

นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย แกนนำพรรค ปชป.กล่าวถึงกรณี 16 สส. พรรค ปชป. โหวตเลือกนายกฯสวนมติพรรคว่า เสียงแตกไปถือเป็นเรื่องไม่ดีเท่าไหร่ เมื่อถามว่า การโหวตลักษณะนี้มีแนวโน้มไปร่วมรัฐบาลบางส่วนหรือไม่ นายนริศ ตอบว่า ทำไม่ได้ เพราะการร่วมรัฐบาลต้องเป็นมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและที่ประชุมสส.การเดินเข้าไปเลยโดยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งทำไม่ได้โดยข้อบังคับพรรค แม้ สส.มีเอกสิทธิ์ ยอมรับเหตุการณ์การโหวตสวนมติพรรคครั้งนี้เกินคาด ก็ตกใจว่าทำไมผลออกมาแบบนี้

“สุรินทร์” อ้างแหกมติพรรคเพื่อชาติ

ด้าน พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 16 สส.พรรค ปชป. แหกมติพรรคโหวตเห็นชอบนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ว่า เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปได้ ส่วน สส.พรรคประชาธิปัตย์อีก 15 คนที่โหวตเห็นชอบรวดเดียวช่วงท้ายสุดตนไม่ทราบ แต่ย้ำว่าเราทำเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ ก่อนจะรีบเดินเข้าลิฟต์ไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส.พรรค ปชป.อีก 15 คน ที่เหลือไม่สามารถติดต่อได้ บางรายไม่รับสาย บางรายปิดเครื่องและยังไม่มีใครออกมาชี้แจงถึงกรณีแหกมติพรรคครั้งนี้

“แทน” โต้ไม่ได้ต่อรองร่วม รบ.

นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ใช่กลัวตกขบวนร่วมรัฐบาล แต่นั่งฟังการอภิปรายข้อสงสัยในตัวนายเศรษฐา ไม่มีน้ำหนัก และลงพื้นที่พบปะประชาชนอยากหาทางออกให้ประเทศ ถ้าเป็นนายเศรษฐาไม่มีแนวคิดล้มล้างหรือแก้ไขมาตรา 112 ต้องยกให้เขา การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะแก้เพื่อประโยชน์ประชาชนและเพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง ผ่านเลือกตั้งมาถึง 90 วันแล้วยังไม่มีนายกฯ งบฯปี 67 ยังไม่ได้ทำ งบฯปี 68 กำลังจะมาถึง ประเทศต้องมีทางออก สส.16 คนจึงหารือกันตัดสินใจชั่วโมงสุดท้ายโหวตให้นายเศรษฐา ยืนยันว่าไม่ได้จะขอร่วมรัฐบาล พร้อมทำงานทั้งเป็นรัฐบาลและฝ่ายค้าน ไม่ใช่โหวตแล้วจะได้ขึ้นรถไฟขบวนสุดท้าย ยืนยันไม่มีการดีลกับพรรค พท.ก่อนโหวต ไม่มีการโทร.คุยกับใคร เช็กมือถือได้ เราน้อมรับการตรวจสอบและการตัดสิน

แสลงหูเป็นเสียงข้างมากไม่ใช่งูเห่า

นายชัยชนะกล่าวอีกว่า ที่ถูกมองว่าเป็นพรรคอะไหล่ให้พรรค พท.ไม่ใช่ เราไม่ได้เป็นพรรคอะไหล่ของใคร ไม่ได้บอกว่าการโหวตจะได้เข้าร่วมรัฐบาล เราพร้อมทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน แต่มองว่าประเทศต้องมีทางออกแล้วจริงๆ ไปเขียนว่าเป็นงูเห่าไม่ใช่ และไม่ใช่ตีเช็กเปล่า พวกตนไปเพราะเสียงข้างมาก เราคุยกันในพรรค สส.ส่วนใหญ่เห็นแบบนี้ เรียกงูเห่าไม่ได้ ยืนยันว่าการโหวตเห็นชอบไม่ใช่ร่วมรัฐบาล เราพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านเช่นกัน ใครจะมองว่าโหวตเพราะมีผลประโยชน์แอบแฝงทุกคนคิดได้ แต่ความจริงคือความจริง ไม่เคยทำให้พรรคเสียหาย ยึดมั่นกับพรรคมาตลอด แต่การตัดสินใจร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วม ต้องกลับไปถามรักษาการกก.บห.พรรคที่ยังมีอำนาจเต็ม และ สส.พรรค ถ้ามติอย่างไรเป็นอย่างนั้น จะไปร่วมได้อย่างไร ไม่มีการเทียบเชิญ

สว.เครียดเจอเฟกนิวส์รับกล้วย

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) ประจำสัปดาห์ช่วงหนึ่งนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สว.หยิบยกข่าวสว.รับกล้วยแลกการลงคะแนนโหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯทำให้ภาพลักษณ์ สว.เสียหาย แต่กลับไม่มี สว.คนใดชี้แจง ทำให้ สว.หลายคนไม่สบายใจ เห็นว่ากระแสข่าวไม่น่าเชื่อถือ เป็นเฟกนิวส์ เสียง สว.ที่โหวตให้นายเศรษฐามีมากถึง 152 คน ใครจะแจกกล้วยมากมายขนาดนี้เป็นไปไม่ได้ ไม่สมควรตั้งคณะกรรมการจริยธรรมตรวจสอบจะยิ่งตอบโต้ไปมาไม่เกิดประโยชน์ ทำให้ภาพลักษณ์ สว.เสียหาย ทั้งนี้ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา ชี้แจงว่า ถ้าที่ประชุมอยากได้ความชัดเจนก็จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรมให้ แต่คนที่รับไม่ใช่ตนแน่นอน หลังจากหารือกันไปสักพัก ที่ประชุมไม่ติดใจให้ตรวจสอบใดๆ

“บิ๊กตู่” อารมณ์ดีถก ครม.“พี่ป้อม” ลา

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ครม.ที่มีรัฐมนตรีลา 6 คน โดย 1 ในนั้นมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ลาประชุมด้วย พล.อ.ประยุทธ์มีสีหน้ายิ้มแย้มทักทายผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “สบายดีนะ สบายดี” ผู้สื่อข่าวถามว่าจะพูดอะไรถึงนายกฯคนใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอประชุมก่อน เมื่อถามว่าการประชุม ครม.ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนการประชุมที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า นายกฯเป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักนายกฯ 107,881,995.23 บาท ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุโกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟระเบิด ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มีนายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส รับมอบ จากนั้นที่โถงกลาง ตึกสันติไมตรี น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ นำผู้บริหารเข้าพบนายกฯประชาสัมพันธ์งานตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย ครั้งที่ 18 ประจำปี 66 ในวันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย. อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ยินดี “เศรษฐา” ให้บริหารราชการสำเร็จ

ต่อมาเวลา 11.57 น. พล.อ.ประยุทธ์แถลงภายหลังประชุม ครม. มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายธนากร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯและทีมรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ยืนขนาบข้าง โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในฐานะนายกฯและ ครม.รักษาการ ขอแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ผ่านการพิจารณากระบวนการในรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว นายกฯคนใหม่ต้องรอขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ เป็นพระราชอำนาจและพระราชวินิจฉัยของพระองค์ท่าน ต่อไปเป็นการจัด ครม.ให้ครบถ้วนสมบูรณ์คงใช้เวลาอีกไม่กี่วัน แล้วนำทูลเกล้าฯขึ้นไป เพื่อมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ และกำหนดวันเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ กระบวนการจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ รอกันนิดนึงใจเย็นๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น และอย่าเอาปัญหาไปใส่ให้ใครทั้งสิ้น เรารับในกติกากระบวนการประชาธิปไตยทั้งหมด เป็นเรื่องของรัฐสภา การเมืองว่ากันไป รัฐบาลตนจะหมดหน้าที่ แสดงความยินดีกับนายเศรษฐาอีกครั้ง ขอให้ประสบความสำเร็จในการบริหารราชการแผ่นดินในโอกาสต่อไป

ปัดไม่เกี่ยว สว.โหวตดับฝัน “ลุงป้อม”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์อันไหนที่ทำได้ทำ หลายอย่างอาจจำเป็นต้องทำ เวลามีจำกัด อาจมีปัญหาต่อไปในอนาคตได้ สิ่งไหนทำไม่ได้ให้รัฐบาลใหม่ทำ ทราบดีอยู่แล้ว คงไม่ต้องฝากอะไรรัฐบาลใหม่ เมื่อถามว่ามองปรากฏการณ์การโหวตนายกฯเมื่อวันที่ 22 ส.ค. โดยเฉพาะ สว.อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “อ๋อ...เรื่องสภาไม่เกี่ยวข้อง” เมื่อถามว่าถูกมองว่าแตกหักกันกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า “ไม่มีๆ ผมไม่เกี่ยวข้องๆ ทุกคนมีวุฒิภาวะอยู่แล้ว”

ขอบคุณ ครม.ร่วมทำงานกันมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ครม.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ชี้แจงว่า กระบวนการนำรายชื่อนายกฯขึ้นทูลเกล้าฯ เป็นเรื่องของรัฐสภา ไม่ใช่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) หรือ ครม. ทางปฏิบัติเราเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ว่าจะมีการโปรดเกล้าฯเมื่อไหร่ ข่าวลือเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่มีครั้งไหนที่จะรวดเร็วภายในวันเดียว เราต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อจน ครม.ใหม่จะถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อโปรดเกล้าฯนายกฯใหม่แล้ว มาถึงรายชื่อ ครม.ถึงจะเป็นเรื่องของทำเนียบฯ การประชุม ครม.ชุดรักษาการยังต้องทำงานต่อไป ยังมีกฎหมาย เรื่องต่างประเทศต้องลงนาม ยังนำเข้า ครม.ได้ ทำเท่าที่อยู่ในอำนาจรัฐบาลรักษาการ ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวกับ ครม.ว่า “ขอบคุณทุกคนที่ทำงานร่วมกันมาเป็นอย่างดีมาตลอด ฝากรัฐบาลชุดใหม่ทำงานต่อไป ฝากให้ช่วยดูแลข้าราชการด้วย รวมทั้งขอให้ข้าราชการทุกคนยึดมั่นทำตามกฎหมาย ทำสิ่งที่ถูกต้อง ใช้เหตุผล ใช้หลักการ

กางไทม์ไลน์ได้ ครม.ใหม่กลาง ก.ย.

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯให้สัมภาษณ์ว่า คาดว่าการจัดตั้ง ครม.กว่าจะได้รายชื่อน่าจะประมาณ 1 สัปดาห์ และ สลค.ใช้เวลาตรวจสอบประวัติอีก 1 สัปดาห์ จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการทูลเกล้าฯถวายสัตย์ฯ อีก 1 สัปดาห์ รวมเป็น 3 สัปดาห์ การประชุม ครม. รักษาการยังคงมีอยู่ทุกสัปดาห์ แต่อาจมีเรื่องพิจารณาน้อยลง แม้ ครม.ชุดใหม่จะถวายสัตย์ฯแล้วยังปฏิบัติงาน ไม่ได้จนกว่าจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 15 วันหลังถวายสัตย์ฯ

แบะท่าจัดโผ ตร.-ทหารไม่รอ รบ.ใหม่

“ที่บอกให้เก็บเรื่องไว้รอรัฐบาลใหม่ เช่น เรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย นายกฯจะส่งกลับคืนเพราะเห็นว่าน่าจะรอได้ แต่บางตำแหน่ง เช่น ตำรวจ ทหาร ที่ไม่ต้องเข้า ครม. ไม่มีข้อห้ามในรัฐธรรมนูญและมีความจำเป็นเร่งด่วน ก็ต้องดำเนินการไปพลางก่อน ในขณะนี้” นายวิษณุกล่าว  เมื่อถามว่าจากไทม์ไลน์ที่กล่าวมาคาดว่า ครม.ชุดใหม่จะเริ่มทำหน้าที่ได้เมื่อไหร่ นายวิษณุกล่าวว่า คาดว่าช่วงกลางเดือนกันยายน แต่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินหลังการแถลงนโยบาย คาดว่าเป็นปลายเดือน ก.ย. เมื่อถามว่าปลัดกระทรวงการคลังและปลัดกระทรวงพลังงาน ที่จะเกษียณอายุราชการจะแต่งตั้งได้เลยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า คิดว่าจะไม่ตั้ง ให้รองปลัดกระทรวงฯ รักษาการไปก่อน

“ประยุทธ์” เร่งถกตั้ง ผบ.เหล่าทัพ

ช่วงบ่าย ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหมหรือบอร์ด 7 เสือกลาโหม เพื่อพิจารณาบัญชีการปรับย้ายนายทหารประจำปี 2566 โดยเปลี่ยนจากที่นัดเรียกประชุมที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ไปประชุมที่กระทรวงกลาโหม ในวันที่ 24 ส.ค. มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ.เข้าร่วม โดยในปีนี้ ผบ.เหล่าทัพ เกษียณอายุราชการตำแหน่งว่างถึง 4 เหล่าทัพ ยกเว้นตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม

ไม่สะเด็ดน้ำ ผบ.ทร.ไม่ลงตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวลาหารือประมาณ 40 นาที ที่ประชุมเห็นชอบตามที่เหล่าทัพเสนอยกเว้นตำแหน่ง ผบ.ทร.ที่ติดปัญหาต้องพิจารณา 3 แคนดิเดต ทั้ง“บิ๊กวิน”พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ทร.นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 25 (ตท.25) น้องชาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร.ที่ถือว่ามีอาวุโสสูงสุด กับรุ่นพี่ ตท.23 อีก 2 คน ได้แก่ “บิ๊กโอ๋” พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ (เสธ.ทร.) และ “บิ๊กดุง” พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) อยู่ระหว่างการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์

“บิ๊กต่อ” คุม ทบ. “บิ๊กไก่” ทัพฟ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในส่วนกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ตท.24 บุตรชายของ พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี อดีต ผบ.ทบ. เ ป็น  ผบ.ทหารสูงสุด ด้านกองทัพบก “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ (ตท.23) รอง ผบ.ทบ. เป็น ผบ.ทบ. พล.อ.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง (ตท.23) ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เป็นรอง ผบ.ทบ. พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) แม่ทัพภาคที่ 1 (มทภ.1) เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. ส่วนกองทัพอากาศ “บิ๊กไก่” พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล (ตท.24) ผู้ช่วย ผบ.ทอ.เป็น ผบ.ทอ.ขณะที่ระดับคุมกำลังกองทัพภาค พล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ (ตท.26) แม่ทัพน้อยที่ 1 เป็น มทภ.1 พล.ต.บุญสิน พาดกลาง รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็น มทภ.2 พล.ต.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็น มทภ.3

ศาล รธน. เลื่อนชี้คดี ก.ก.ล้มล้างฯ

เมื่อเวลา 13.00 น. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณากรณีคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพระพุทธะอิสระที่ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรค ก.ก. (ผู้ถูกร้องที่ 2) ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ป.อาญาเพื่อยกเลิก ป.อาญามาตรา  112 โดยใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่ ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้อนุญาตให้ผู้ถูกร้องทั้ง 2 ขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาครั้งที่ 2 ไว้ ให้เลื่อนการพิจารณาในนัดต่อไป