ประธานยุทธศาสตร์การเกษตร พรรคเพื่อไทย ฟิตจัด เตรียมเดินหน้าแก้ปัญหายางพารา และปัญหาลักลอบนำเข้าสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน หลังพบความเสียหายหลายหมื่นล้าน

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 66 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานยุทธศาสตร์การเกษตร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเองและคณะทำงานลงพื้นที่ติดตามปัญหาความเดือดร้อนพี่น้องเกษตรกรอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราเห็นปัญหา เรามีการศึกษาอย่างจริงจัง สิ่งที่เห็นในวันนี้ ทั้งราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ไม่ว่าด้านพืช หรือด้านสัตว์ และปัญหาภัยแล้งที่กำลังจะตามมาอีก ประกอบกับต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมาก หลังจากเกิดสงครามที่ยูเครน ต้นทุนปุ๋ยแพง ค่าแรง วัสดุ น้ำมัน ที่ต้องใช้มันแพงหมด เกษตรกรอยู่ในฐานะลำบากมาก ชาวไร่ชาวนาอยู่ในสภาพเดียวกัน ขาดทุนมาตลอด มองไว้แล้ว มันเป็นปัญหาที่พรรคให้ความสำคัญ สิ่งหนึ่งที่เราพูดมาตลอด เราต้องปรับปรุงการผลิตของเราเอง

โดยเฉพาะ พท. จะนำนวัตกรรมแก้ไขปัญหาให้พ่อแม่พี่น้อง ยกตัวอย่าง ภาคใต้ ภาคใต้เกิดโรคยางพารา ใบยางร่วง เกิดปัญหาไม่น้อย เป็นประมาณ 1 ล้านไร่ และกำลังขยายการระบาด ก็เห็นชาวสวนยางร้องเรียนปัญหาเข้ามาที่พรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก แต่เราก็ไปศึกษา มีทีมงานนักวิชาการ เห็นแนวทางในการแก้ปัญหา เพื่อจะช่วยชาวพี่น้องสวนยางพารา เราไปหลายพื้นที่ ราคาตกต่ำ สมัยยุคหนึ่ง ยางแผ่น กิโลฯ ละ 80 บาท ถึง 120 บาท แต่หลังจากวันนี้เหลือครึ่งหนึ่ง ยางน้ำก็ลดราคา ยางก้อนถ้วยก็ถูกมาก หลายปีมานี้เราเห็นภาวะเกิดความเดือดร้อน เรื่องยางพารา ก็เห็นปัญหา พวกเราก็ศึกษาแนวทาง เพิ่มผลิต ซึ่งก็เป็นนวัตกรรมของพรรค พท. ทำยังไงให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว เราเริ่มอบรมหลายจังหวัดในภาคอีสาน ในอนาคตภาคใต้ เกษตรกรได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งแนวทางการแก้ไขเราเริ่มทำทันที ถ้าได้มาเป็นรัฐบาล และกำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เชื่อว่าความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรดีขึ้นแน่นอน

...

          

นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อีกหนึ่งปัญหาสำคัญคือการแก้ไขลักลอบนำเข้าเนื้อหมูจากประเทศเพื่อนบ้าน สร้างความเสียหายเป็นหมื่นล้าน คนเลี้ยงหมูกำลังฟื้นคืนอาชีพตัวเอง หลังจากเสียหายก็ปรากฏว่าปล่อยปละละเลย ให้หมูเถื่อนเต็มบ้านเต็มเมือง มันก็มาจากส่วย ไม่ใช่มีแค่ส่วยรถสิบล้อ ส่วยด้านการเกษตรก็เยอะแยะ ปล่อยให้หมูกล่องมาจากสภาพยุโรปเต็มไปหมด คอกแรกก็ได้ไป 160 ตู้ เสียหาย 5 ร้อยล้านบาท อาทิตย์ที่แล้วก็จับได้ 400 ตู้ ยังไม่ได้ตรวจสอบ 2 พัน รายการนี้ไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน ทำเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร หรือเลี้ยงหมู ทุกข์อย่างแสนสาหัส ต้องให้ชาวบ้านไปร้องที่กระทรวง ต้องบุกไปที่ DSI ต้องไปบุกที่ทำเนียบ

เพราะฉะนั้นรายการนี้ พรรคเราก็รู้ปัญหา แล้วก็บอกไปแล้วว่า กรมศุลกากรต้องเคร่งครัด อย่าเข้ามาทำร้ายพี่น้องชาวเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู นอกจากหมูถูกแล้ว ก็ยังปล่อยวัว-ควาย ประเทศพม่าเข้ามาเยอะแยะ มาจากจังหวัดตาก แม่สะเรียง ปัญหาพวกนี้คุณไม่ทำวัคซีนปล่อยเข้ามาทั่วประเทศ มีส่วยบินไปบินมาทั่วประเทศขอให้จ่าย มีคนมาบอกเราว่าต้องจ่ายส่วย ทำวัคซีนให้ถูกต้องไหม เราจะได้ป้องกันโรค ไม่ว่าจะโรคปากเท้าเปื่อย โรคเฮโมรายิกเซฟติซีเมีย โรคคอบวม ถ้าทำได้ เราส่งออกวัวไปทั่ว ปศุสัตว์สามารถส่งออกได้ และนี่คือปัญหา แนวทางจะต้องแก้ยังไง ผมขอยื่นคำขาด ถ้ารัฐบาลเพื่อไทยมาบริหาร ต้องปราศจากการทุจริตในทุกรูปแบบ ผมจริงจังปัญหานี้มาก อยากให้มาร่วมกันสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้พี่น้องเกษตรกรจะดีกว่า.