ไตรศุลี เผย กระแสซีรีส์เกาหลี “King the Land” หนุนเที่ยวไทยฟีเวอร์ รัฐบาลมั่นใจมาตรการส่งเสริมถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศดึงดูดกองถ่ายทั่วโลกเข้าไทยอีก คาดมาตรการเว้นภาษีนักแสดงต่างชาติมีผลบังคับ 2 ส.ค.นี้ สร้างแรงจูงใจเพิ่ม
วันที่ 20 ก.ค. 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้กระแสของซีรีส์จากเกาหลีใต้ เรื่อง King the Land ซึ่งได้เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยได้ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวไทยที่ปรากฏในซีรีส์ กำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่รับชมซีรีส์เรื่องนี้ ปลุกกระแสเที่ยวไทยฟีเวอร์ รวมถึงทำให้คนไทยรู้สึกภูมิใจในประเทศของตนเองด้วย
ทั้งนี้ มาตรการดึงดูดการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศที่รัฐบาลได้ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตภาพยนตร์จากทั่วโลกให้ความสนใจเลือกไทยเป็นโลเคชั่นการถ่ายทำ โดยมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศที่รัฐบาลได้ปรับปรุงล่าสุดคือการเพิ่มอัตราการคืนเงิน (Cash Rebate) จากเดิม ร้อยละ 15-20 เป็นร้อยละ 20-30 เป็นระยะเวลา 2 ปี และเพิ่มเพดานการคืนเงินจากเดิม 75 ล้านบาทต่อเรื่องเป็น 150 ล้านบาทต่อเรื่อง ซึ่งรัฐบาลมั่นใจว่าเป็นมาตรการที่ปรับปรุงล่าสุดนี้สามารถแข่งขันกับอีกหลายประเทศที่มีมาตรการดึงดูดกองถ่ายภาพยนตร์เช่นเดียวกัน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากนี้ มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่นักแสดงต่างชาติ (เฉพาะที่แสดงภาพยนตร์ซึ่งดำเนินการสร้างโดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ) เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 66 และจะมีผลบังคับในวันที่ 2 ส.ค. 66 นี้ จะเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญที่ดึงดูดให้มีการเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ ซีรีส์ และรายการโทรทัศน์ในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการลงทุนและการจ้างงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และผลโดยอ้อมต่อการท่องเที่ยวไทย
...
“ปัจจุบันไทยเป็นที่สนใจของผู้ผลิตภาพยนตร์จากหลายประเทศ ซึ่งข้อมูลจากกระทรวงวัฒนธรรมแจ้งว่าในช่วงเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 16-27 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา มีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมคูหาประเทศไทยจำนวนมากกว่า 600 คน และมีผู้ผลิตภาพยนตร์ที่สนใจและมีแผนจะเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย จำนวน 21 ราย จาก 8 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ แคนาดา ฝรั่งเศส กรีซ สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ อินเดียและออสเตรเลีย โดยมีแผนใช้เงินลงทุนรวมกว่า 3,800 ล้านบาท” น.ส.ไตรศุลี กล่าว