นริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย เร่งช่วยเหลือผู้แสวงบุญฮัจญ์ กว่า 500 คน ที่ซาอุดีอาระเบีย เฉพาะหน้าให้แก้ปัญหาเรื่องที่พัก-อาหารโดยด่วน ส่วนระยะยาว ให้กรมการปกครองตรวจสอบประวัติ บริษัทรับจ้างนำคนไปประกอบพิธี

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากที่ปรากฏข่าวทางสื่อออนไลน์ ว่า มีผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวนกว่า 500 คน ถูกผู้ประกอบการซึ่งเป็นบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา ลอยแพ ไม่ได้รับการดูแลด้วยดีตามที่ตกลงกันไว้ ทั้งเรื่องอาหารการกินที่ไม่เพียงพอ และสภาพความเป็นอยู่ของที่พัก ซึ่งไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด ไม่ถูกสุขลักษณะ และมีระยะทางที่ห่างจากมักกะฮ์ กว่า 1 กิโลเมตร ซึ่งทำให้ฮุจญาตที่ อายุเยอะ หรือผู้ที่ใช้วีลแชร์ ไม่สามารถเดินทางไปได้ ต้องละหมาดบริเวณที่พักเท่านั้น ทั้งที่ผู้แสวงบุญได้เสียค่าใช้จ่ายไปแล้วกว่า 270,000 บาทต่อคน ซึ่งตนได้เชิญกองกิจการฮัจย์ กรมการปกครอง เข้าประชุม เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้แสวงบุญฮัจญ์ที่ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าว เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด

นายนริศ กล่าวต่อว่า การช่วยเหลือคือ 1. การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยให้เจ้าหน้าที่ของกองกิจการฮัจย์ กรมการปกครอง ซึ่งประจำอยู่ที่สำนักงานกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ที่ประเทศซาอุฯ แก้ไขปัญหาเรื่องที่พักและเรื่องอาหารโดยเร่งด่วน ซึ่งได้รับรายงานว่า ขณะนี้ได้แก้ไขปัญหาทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว และหากยังมีผู้แสวงบุญอื่นนอกเหนือจากนี้ที่ประสบปัญหา และเดินทางมาแจ้งที่สำนักงานฯ ก็ให้เร่งแก้ปัญหาเช่นกัน และหากมีความจำเป็นเร่งด่วน ให้เจ้าหน้าที่ของกองกิจการฮัจย์ กรมการปกครอง ซึ่งประจำอยู่ที่สำนักงานกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ประเทศซาอุฯ เบิกจ่ายเงินจากกองทุนสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์เพื่อแก้ไขปัญหานี้ได้

...

นายนริศ กล่าวด้วยว่า 2. การแก้ไขปัญหาระยะยาว ขอให้กรมการปกครองตรวจสอบบริษัทที่รับจ้างนำคนไปประกอบพิธีฮัจญ์โดยละเอียดว่ามีเงินทุนสำรองเพียงพอ หรือมีประวัติเสียหาย ถูกพักหรือถูกยกเลิกใบอนุญาตหรือไม่ หรือบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตใช้นอมินีมาจดทะเบียนใหม่แทนหรือไม่ ขอให้กรมการปกครองพิจารณา เรื่องแซะห์ (หัวหน้ากรุ๊ปทัวร์) ว่าเห็นควรให้ขึ้นทะเบียนมัคคุเทศก์เพื่อให้สามารถถอดถอนได้ ถ้าหากแซะห์ไม่ดำเนินการตามสัญญา ขอให้กรมการปกครองพิจาณาประเด็นทางการเงิน เพื่อให้ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์เปิดบัญชีกับธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารอิสลาม เพื่อจ่ายให้กับบริษัทส่วนหนึ่งและเก็บไว้เองส่วนหนึ่ง เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่ถูกทอดทิ้งในระหว่างประกอบพิธีฮัจญ์ และขอให้กรมการปกครองพยายามแก้ไขปัญหากรณีตั๋วเครื่องบินแพง โดยผลักดันให้มียื่นซองเพื่อประมูลจากสายการบินทั่วไปที่กรมการบินพาณิชย์ กระทรวงคมนาคมรับรอง โดยไม่จำกัดสายการบินใด เพื่อให้เกิดการแข่งขัน และลดต้นทุนให้แก่ผู้แสวงบุญต่อไป.