“บิ๊กตู่” ขอบคุณกำลังใจและคำอวยพร ขอให้สิ่งดีๆ ตอบแทนกลับไปถึงทุกคน ด้าน “ทิพานัน” ชี้ ผลงานเป็นที่ประจักษ์ บริหารบ้านเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาตลอด 9 ปี
วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบข้อความกำลังใจ คำขอบคุณ คำอวยพร และความหวังดีต่างๆ ที่ประชาชนส่งมาให้ทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย รู้สึกซาบซึ้งใจและขอขอบคุณทุกๆ คนที่ส่งความปรารถนาดี ขอให้สิ่งดีๆ ตอบแทนกลับไปเช่นเดียวกัน และในห้วงเวลานี้ขอใช้เวลาที่มีทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ขณะเดียวกัน ยังได้รับทราบเสียงสะท้อนจากประชาชนที่ต่างพูดถึงผลงานต่างๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ริเริ่มดำเนินการไว้จนได้ผลิดอกออกผล สร้างความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนให้ประเทศชาติ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อแก้ไข ปลดล็อก และหยุดยั้งระงับสถานการณ์ความวุ่นวายของบ้านเมือง สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศไทย จนได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ 2560 เมื่อปี 2562 และทำหน้าที่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันในฐานะนายกรัฐมนตรีรักษาการ ปี 2566 รวมเป็นเวลากว่า 9 ปี
...
“ตลอดเวลาท่านนายกฯ ได้พิสูจน์ถึงการบริหารบ้านเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต สร้างคุณประโยชน์มากมายด้วยผลงานอันที่เป็นที่ประจักษ์ ทุกโครงการทุกนโยบายมุ่งหมายให้เกิดประโยชน์กับประชาชนโดยตรง กำจัดกลไกที่นักการเมืองจะมาเบียดเบียนผลประโยชน์ แม้หลายโครงการจะใช้ระยะเวลานานกว่าจะผลิดอกออกผล จะยังไม่เห็นผลในระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งก็ตาม แต่ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นก็จะคงอยู่ให้คนรุ่นถัดได้รับประโยชน์สืบต่อไป จากรากฐานที่ท่านวางไว้อย่างครอบคลุม”
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อไปว่า ผลงานต่างๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงมือทำด้วยความตั้งใจเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างยั่งยืน เช่น การจัดงานประชุม APEC และนำโมเดลเศรษฐกิจ BCG สู่สากล การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางบก-ทางน้ำ-ทางอากาศ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล 5G ระบบพร้อมเพย์ EEC เขตเศรษฐกิจพิเศษและระเบียงเศรษฐกิจต่างๆ การส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย สะสมเงินสำรองระหว่างประเทศจนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 12 ของโลกในปี 2565 และซื้อทองคำเข้าทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มมากที่สุดในเอเชีย ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมามีทองคำเพิ่มจาก 152.41 ตันมาอยู่ที่ 244.16 ตัน ทำให้ทุนสำรองที่เป็นทองคำเพิ่มขึ้นถึง 60.20% ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
อีกทั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด เห็นได้จากการทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายบริหารในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และจนปัจจุบันคือนายกรัฐมนตรีรักษาการ ได้วางตัวเป็นกลาง ไม่ก้าวก่ายอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติและอำนาจฝ่ายตุลาการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งการรักษาการจะมีจนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ เป็นกลไกปกติของทางรัฐสภา อันเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
ในช่วงท้าย รองโฆษกรัฐบาลกล่าวด้วยว่า “ต้องขอบคุณประชาชนที่ต่างส่งกำลังใจและยกย่องให้ พล.อ.ประยุทธ์ คือนายกฯ ผู้วางโครงสร้างอนาคตของชาติให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน แก่ลูกหลานทุกคน ซึ่งการบริหารบ้านเมืองของท่านนายกฯ ที่ผ่านมานั้น ได้พาคนไทยฝ่าวิกฤติและสร้างโอกาสใหม่ๆ มาตลอด ต้องขอขอบคุณคนไทยทุกคนผู้เป็นส่วนสำคัญที่ร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองไปข้างหน้า และยังธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ต่อไป”