การประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือก หัวหน้าพรรคคนใหม่ แทนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ที่พ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งอย่างยับเยิน ต้องค้างเติ่งกลางคัน

เพราะเกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ สมาชิกพรรคขาดไป 40 กว่าคน

แต่สาเหตุที่ต้องเลื่อนวาระการเลือก หน.พรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ออกไปชั่วคราว

เพราะปัญหาขัดแย้งในพรรคยังหาสนามบินลงไม่เจอ!!

ถ้าหากจะลุยโหวตเลือกตั้ง หน.พรรคคนใหม่ตามโปรแกรมเดิมต้องแตกกันเละตุ้มเป๊ะอย่างแน่นอน

เพราะมีทั้งกลุ่มที่สนับสนุน “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตหัวหน้าพรรคให้กลับมากู้ชีพพรรคประชาธิปัตย์ให้ฟื้นกลับมา

และมีกลุ่มที่ตั้งแง่ ไม่เอา “นายอภิสิทธิ์” เตรียมเสนอชื่อ “นายนราพัฒน์ แก้วทอง” รอง หน.พรรค ขึ้นมาชิงเก้าอี้ หน.พรรคที่ว่างลง

ถ้าวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ “นายนราพัฒน์” เป็นรอง “นายอภิสิทธิ์” กระดูกคนละเบอร์!!

แต่ถ้าวัดกันที่คะแนนโหวตในที่ประชุมใหญ่พรรค “นายอภิสิทธิ์” ยังเป็นรอง “นายนราพัฒน์” ครึ่งช่วงตัว

เพราะกติกาการเลือก หน.พรรคประชาธิปัตย์ ใช้ระบบ 70 ต่อ 30

คือคะแนนโหวตจาก ส.ส. คิดเป็น 70 เปอร์เซ็นต์

ส่วนคะแนนโหวตอดีต ส.ส.อดีตรัฐมนตรี อดีต กก.พรรค รวมกันเพียง 30 เปอร์เซ็นต์

ถ้า ส.ส.ทั้งหมด 25 คน เทคะแนนให้ใคร คนนั้นก็ได้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่อย่างสบายเฮ

ข่าวระบุว่า คนสำคัญที่กุมเสียง ส.ส.พรรคส่วนใหญ่ไว้ในมือคือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนเดิม

ถ้านายเฉลิมชัยไม่โอเค. นายอภิสิทธิ์ ก็โนรีเทิร์น!!

เมื่อการเจรจาสงบศึกระหว่าง 2 ขั้วยังไม่ลงตัว จึงจำเป็นต้องเลื่อนการเลือกตั้ง หน.พรรคคนใหม่ และ คณะ กก.บริหารพรรคชุดใหม่ออกไปอีก 30 วัน

...

หากการเจรจาล้างใจลงเอยกันได้ด้วยดี...

อดีตนายกฯอภิสิทธิ์ก็จะคืนสู่เหย้าอย่างสวยงาม

แต่ถ้ายังไม่มีใครยอมใคร เหมือน สงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็มีแนวโน้มสูงว่า นายอภิสิทธิ์ จะถอนตัวไม่ขึ้นเวทีประกวดชายงาม

“แม่ลูกจันทร์” มองว่าในความอัตคัดขุนพลที่จะนำพรรคประชาธิปัตย์ให้หลุดพ้นวิกฤติตกต่ำที่สุดในรอบ 70 ปี

นายอภิสิทธิ์ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่พรรคประชาธิปัตย์มีอยู่ในปัจจุบัน

ถ้าไม่เลือกจิ้มนายอภิสิทธิ์ก็ไม่รู้จะจิ้มชื่อใครแทน

ถ้าจะดึง “คนรุ่นใหม่เลือดดี ไฟแรง ให้เข้ากับกระแสการเมืองยุคใหม่

ก็ติดกฎเหล็กต้องเป็นสมาชิกพรรค ปชป.ไม่ต่ำกว่า 5 ปี

คนเก่าก็ไม่เอา คนใหม่ก็เข้าไม่ได้ มันก็ปวดหัวน่ะซีโยม.

“แม่ลูกจันทร์”