ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภาครั้งแรก พระราชทานพระราชดำรัส ประเทศชาติจะมีความเจริญเพียงไร ขึ้นอยู่กับสติปัญญา ความสามารถ และความสุจริตบริสุทธิ์ใจ ยึดถือประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด พท.ดัดหลังก้าวไกล ดัน “วันนอร์” ชิง ปธ.สภาฯ “สุริยะ” รับเองทาบทามไปแล้ว “สุทิน” มั่นใจดีลตั้งรัฐบาล 8 พรรคไม่ล่ม “วันนอร์” ไม่ปฏิเสธสวมบทประธานสภาฯตัวกลาง หย่าศึก 2 พรรค ก้าวไกลยังนิ่งถูกเพื่อนดัดหลัง ก่อนได้บทสรุปจบสวย 2 พรรค เห็นพ้อง “วันนอร์” เป็นประธานสภาฯ ก.ก.ได้รองฯคนที่ 1 พท.ได้รองฯ คนที่ 2 “พีระพันธุ์” บอกคิดลึกเกินเหตุมีชื่อชิงนายกฯ รับเป็นไปไม่ได้ ยันลาออก ส.ส.ไร้กลซ่อนเงื่อน ทำเนียบฯทำคู่มือรับ รบ.ใหม่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระ นางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินรัฐพิธีการเปิดสมัยประชุมรัฐสภาครั้งแรก พระราชทานพระราชดำรัสแก่สมาชิกรัฐสภา ใช้สติปัญญาความสามารถ ความสุจริตบริสุทธิ์ใจปฏิบัติหน้าที่โดยยึดถือประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน เป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
...
ส.ส.-ส.ว.ทยอยมารอรับเสด็จ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ก.ค. ที่รัฐสภา บรรดา ส.ส. และ ส.ว. ทยอยเดินทางเข้าพื้นที่อาคารรัฐสภา โดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดห้องสัมมนาชั้นบีหนึ่ง เป็นพื้นที่รับรองและจุดตรวจเอทีเคให้สมาชิกรัฐสภาที่จะร่วมงานรัฐพิธีการเปิดสมัยประชุมรัฐสภาครั้งแรก ที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานพิธีเปิดประชุมรัฐสภาเป็นครั้งแรกในเวลา 17.00 น. ณ ห้องโถงพิธี ชั้น 11 อาคารรัฐสภา ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกที่ไม่มีบัตรปฏิบัติงานในพื้นที่เข้าอย่างเด็ดขาด ขณะที่ยานพาหนะที่ผ่านเข้าออกพื้นที่ต้องมีบัตรเข้า-ออกสภาฯ หรือต้องแสดงบัตรประจำตัว ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ออกให้
ในหลวง-พระราชินีเสด็จฯรัฐพิธี
ต่อมาเวลา 17.17 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโถงพิธีชั้น 11 อาคารรัฐสภา กรุงเทพมหานคร ทรงเปิดการประชุมรัฐสภา ภายหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและมีการเรียกประชุมรัฐสภา พุทธศักราช 2566 ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา พุทธศักราช 2566 ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งภายหลังจากทรงเปิดประชุมรัฐสภาแล้วภายใน 10 วัน จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ภายในงานมีสมาชิกและบุคคลสำคัญ อาทิ คณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรอิสระ ส.ส. และ ส.ว. เข้าร่วมรัฐพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน
ยึดประโยชน์ชาติ-ประชาชน
ในการนี้ พระราชทานพระราชดำรัสเปิดการประชุมรัฐสภาความสำคัญว่า “บัดนี้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสร็จสิ้นลงและมีการเรียกประชุมรัฐสภา พุทธศักราช 2566 แล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดประชุมรัฐสภาตั้งแต่วาระนี้เป็นต้นไป ขอให้ท่านทั้งหลายผู้เป็นสมาชิกของสภาแห่งนี้ ได้ระลึกไว้เสมอว่าท่านเป็นผู้ได้รับมอบหมายจากประชาชนให้มาเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศ ในการใช้อำนาจนิติบัญญัติเพื่อดำเนินการปกครองและพิจารณาออกกฎหมายต่างๆ ให้รัฐบาลถือเป็นหลักในการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้น ประเทศชาติจะมีความเจริญเพียงไรย่อมขึ้นอยู่กับสติปัญญาความสามารถ และความสุจริตบริสุทธิ์ใจของท่าน ที่จะปฏิบัติหน้าที่ทั้งปวงโดยยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุด หากทุกท่านจะได้สำนึกตระหนักเช่นนี้อยู่เสมอ ก็จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วง เป็นประโยชน์เป็นความเจริญมั่นคงของอาณาประชาราษฎร์ และชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง ขออำนวยพรให้การดำเนินงานของรัฐสภาเป็นไปโดยเรียบร้อย สำเร็จผลที่พึงประสงค์ทุกประการ ทั้งขอให้ทุกท่านมีความสุขความเจริญทุกเมื่อไป”
พท.ดัน “วันนอร์” ปาดก้าวไกล
ก่อนหน้านี้เวลา 09.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. เพื่อหาข้อสรุปตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ยังไม่ได้ข้อยุติระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ หลังการประชุมกลับไม่มีการแถลงข่าวใดๆ ส.ส.หลายคนพากันหลีกเลี่ยงไม่ตอบคำถามว่าพรรคเพื่อไทยมีมติเสนอชื่อใครเป็นประธานสภาฯ โดยให้รอความชัดเจนจากคณะกรรมการบริหารพรรค ต่อมาเวลา 12.50 น. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวเพียงสั้นๆหลังประชุม ส.ส.ว่า ในที่ประชุมมีผู้เสนอชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาฯ ช่วงเย็นวันนี้คงมีความชัดเจน เมื่อถามว่าประสานนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แล้วใช่หรือไม่ นายสุริยะไม่ตอบคำถาม แต่พยักหน้าแสดงการตอบรับ
มั่นใจดีลตั้งรัฐบาล 8 พรรคไม่ล่ม
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะได้ข้อสรุปแน่นอนเรื่องตัวประธานสภาฯ เป็นแนวทางที่ดี ประชาชนไม่ผิดหวัง มีความสุข ให้รอฟังกรรมการบริหารพรรคแถลง เมื่อถามว่าแสดงว่ามีข้อยุติจากที่ประชุม ส.ส.แล้ว ไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะว่าอย่างไรก็จะยึดตามแนวทางนี้ใช่หรือไม่ นายสุทินตอบว่า คณะกรรมการบริหารพรรคจะไปกลั่นกรองอีกครั้ง ยึดตามแนวทาง ส.ส.มากที่สุด ไม่ว่าจะจบอย่างไร เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยอธิบายสังคมได้ คิดว่าน่าจะแฮปปี้กว่าที่ผ่านมา มั่นใจการตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลจะไม่ล่ม ทั้ง 8 พรรคเดินหน้าตั้งรัฐบาลไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายน่าจะคุยกันจบ ขณะนี้การพูดคุยยังไม่สะเด็ดน้ำ แต่คงไม่ยาวไปถึงวันที่ 4 ก.ค.
ส.ส.ไม่ขัดเสนอชื่อ “วันนอร์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีวาระหารือเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลยังไม่สามารถเจรจาหาข้อยุติได้ว่าจะเป็นโควตาพรรคใด ดังนั้น กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยจึงเสนอชื่อคนกลางคือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แทน เนื่องจากเป็นผู้มีความเหมาะสม มีความเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งเคยเป็นประธานรัฐสภามาแล้วได้รับการยอมรับจากทุกพรรคการเมือง โดย ส.ส.ส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องกับการเสนอชื่อนายวันนอร์ ไม่ขัดข้องกับแนวทางนี้
ฉุนด้อมส้มไม่ให้เกียรติเพื่อน
นอกจากนี้ยังมี ส.ส.หลายคนแสดงความเห็นในที่ประชุม ไม่พอใจกรณีกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลตะโกนต่อว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และคณะ ระหว่างเดินทางไปประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคก้าวไกล โดยไม่มีท่าทีจะห้ามปรามคนของตัวเอง มี ส.ส.บางคนแสดงความเห็นอย่างดุเดือดว่า พรรคก้าวไกลไม่ให้เกียรติ รู้สึกอายหมาที่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเพื่อไทยไม่ได้รับเกียรติ อยากเชิญนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ไปที่บ้านบ้าง ปล่อยให้ถูกชกหน้าอยากรู้นายพิธาจะว่าอย่างไร รวมถึงการใช้กระบวนการไอโอโจมตีพรรคเพื่อไทยว่าจะหักหลังพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ตัวแทนกรรมการบริหารพรรคชี้แจงว่า ไม่ติดใจกับการกระทำของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล เป็นการแสดงออกตามหลักประชาธิปไตย
กก.บห.รับลูกเป็นปี่เป็นขลุ่ย
ต่อมามีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ที่ประชุมได้นำความคิดเห็น ส.ส.ขึ้นหารือ ส่วนใหญ่เห็นพ้องตามแนวทางที่ ส.ส.เห็นควรให้เสนอชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาฯ หลังจากนี้จะมอบให้คณะเจรจาของทั้งสองฝ่ายไปพูดคุยกันให้ได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 4 ก.ค. ที่จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกเพื่อเลือกประธานสภาฯ คาดว่าทั้งสองฝ่ายจะได้ข้อยุติที่พอใจ และจะแถลงข่าวร่วมกันระหว่าง 2 พรรค
“เศรษฐา” วอนยึดเป้าหมายหลัก
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องตำแหน่งประธานสภาฯหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะคุยกันแล้วได้ผลที่ทุกฝ่ายพอใจ ส่วนข้อเสนอให้มีคนกลางมาเป็นประธานสภาฯนั้น ขึ้นอยู่กับทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับได้หรือไม่ ใช้เหตุผลคุยกัน เอาเป้าหมายเป็นหลักคือรัฐบาลมาจากฝ่ายประชาธิปไตย ทราบข่าวเช่นกันว่าพรรคเพื่อไทยจะดันนายวันมู หะมัดนอร์ มะทา เพื่อลดความขัดแย้งระหว่าง 2 พรรค เมื่อถามว่ามองว่านายวันนอร์เหมาะสมหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า เป็นคำถามที่ลำบาก คงไม่เป็นธรรมหากจะให้ตอบว่าใครเหมาะสม ไม่ว่าจะมาจากพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย หรือคนกลาง มีคนได้ก็ต้องมีคนเสีย อยากวิงวอนเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นี่คือจุดเริ่มต้นการเดินทางครั้งสำคัญที่สุดของประเทศ ผลออกมาเช่นไรอยากให้ทุกฝ่ายยอมกันบ้าง
กำชับ ส.ส.ห้ามแตกแถวมติพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากทั้ง 2 พรรคตกลงกันไม่ได้ การทำงานจะราบรื่นหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า คงเป็นเรื่องของคะแนนที่มีความใกล้เคียงกัน อาจเป็นประเด็นหนึ่งที่ ส.ส.ของพรรคหลายคนยกขึ้นมา เป็นเรื่องที่น่าคิดเช่นกัน แต่ต้องยึดจุดมุ่งหมายเดียวกันและทำงานร่วมกัน คือการทำงานให้ประชาชนสำคัญที่สุด จากที่ได้สัมผัสมากับคณะทำงานของพรรคก้าวไกล ทุกคนที่เข้าประชุมบางคนอาวุโสน้อยกว่า แต่ให้เกียรติคนที่ทำงานด้วยกัน ทั้งนี้ เมื่อพรรคมีมติออกมาอย่างไรต้องน้อมรับ ลูกพรรคต้องทำตามมติพรรค แต่เราไม่สามารถเอามติของเราไปก้าวล่วงพรรคอื่นได้ จากบรรยากาศที่คุยกันทุกคนอยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยจับมือและเดินไปด้วยกัน
“สุริยะ” ยอมรับทาบ “วันนอร์”
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หนึ่งในคณะเจรจาพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยอมรับพรรคเพื่อไทยมีแนวทางเสนอชื่อนายวันนอร์เป็นตัวกลางชิงตำแหน่งประธานสภาฯ หลังพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลยังตกลงเรื่องนี้ไม่ได้ หากกรรมการบริหารพรรคมีมติเสนอชื่อนายวันนอร์จะชี้แจงให้ ส.ส.เข้าใจได้ เพื่อให้การเมืองเดินหน้าต่อได้ เป็นทางออกลดความขัดแย้งระหว่าง 2 พรรค เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยยอมเสียโควตาประธานสภาฯใช่หรือไม่ นายสุริยะตอบว่า พรรคเพื่อไทยต้องการให้การเมืองเดินหน้าต่อได้ เมื่อพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลยังไม่มีข้อสรุปที่ลงตัว จึงเสนอชื่อคนกลาง ยอมรับมีการทาบทามนายวันนอร์ในเบื้องต้นแล้ว เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลจะรับข้อเสนอนี้หรือไม่ นายสุริยะไม่ตอบคำถาม ก่อนเดินเลี่ยงเข้าลิฟต์ขึ้นไปประชุมทันที
วงเจรจาหาทางออกได้เสมอ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เราพยายามหาทางออกที่ดีสุด จุดยืนของเราคือรักษารัฐบาลประชาธิปไตย และเจตจำนงประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ความร่วมมือกัน สิ่งที่นายวันนอร์พูดเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ก็ได้ใจ เหลือเวลาไม่ถึง 20 ชั่วโมง เป็นเวลาที่ต้องหาทางออกดีที่สุด เมื่อถามว่าถ้าพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเจรจาไม่ลงตัวจริงๆ ตัวกลางถือเป็นทางออกดีที่สุดหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ต้องฟัง ส.ส.เพื่อไทยที่อยู่ในเวทีสภามาตลอด คงมีความเห็นดีๆให้พิจารณา เมื่อถามว่าการทำงานระหว่าง 2 พรรคดูเหมือนมีอุปสรรค จะทำงานกันยากหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เป็นกระบวนการแตกต่างในระบบประชาธิปไตย รายละเอียดของปัญหาแตกต่างกันได้ แต่ถ้ายึดมั่นผลประโยชน์ประชาชน ยังไงก็คุยและตกลงกันได้ ทางออกมีเสมอ
“วันนอร์” ไม่ปฏิเสธนั่ง ปธ.สภาฯ
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ยังไม่ทราบกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นตัวกลางยุติปัญหาภายในพรรคร่วม ยังไม่มีใครติดต่อมา ทั้ง 2 พรรคต้องคุยกันเพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนว่าทางออกแบบไหนจะดีที่สุดในการตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย อะไรที่จะทำให้เกิดความล้มเหลวเราต้องช่วยกันแก้ไข เราเสียเวลาที่ประชาชนรอคอย และเสียดายสิ่งที่เขามอบหมายงานมาให้เรา ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยได้ชี้แจงต่อที่ประชุม 8 พรรคร่วมว่าในพรรคต่างมีบุคลากรประสบการณ์สูง ขอใช้เวลาในการทำความเข้าใจเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตัวแทนของทุกพรรคก็เข้าใจ
ก้าวไกลยังนิ่งเพื่อนดัดหลัง
เวลา 10.30 น. ที่อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ มีการประชุม ส.ส.พรรคก้าวไกล เพื่อเตรียมการเข้าร่วมรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา เพื่อนัดแนะแนวปฏิบัติในรัฐพิธี ขณะที่วาระอื่นยังเป็นความลับ ตั้งแต่ช่วงเช้าบรรดาแกนนำพรรคทยอยเดินทางมาคึกคัก อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคฝ่ายกฎหมาย นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ท่ามกลางกระแสที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปชช.) เป็นประธานสภาฯเเข่งกับพรรค ก.ก. นายณัฐวุฒิตอบคำถามถึงความคืบหน้าพิจารณาทางวินัย นายสิริน สงวนสิน ส.ส.กทม. ที่มีประเด็นทำร้ายร่างกายแฟนสาวว่า ได้สอบข้อเท็จจริงไปแล้ว เมื่อถามย้ำว่าต้องใช้บรรทัดฐานเดียวกับกรณี ส.ส.เมาแล้วขับหรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า ต้องรอดูผลกำลังเสนอกรรมการบริหารพรรคพิจารณา
รอคณะเจรจาดำเนินการก่อน
ต่อมาภายหลังการประชุม บรรดาแกนนำและ ส.ส.เริ่มทยอยเดินทางออก นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้จัดการการรณรงค์และสื่อสารนโยบายของพรรค ก.ก. ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงผลการหารือประเด็นประธานสภาฯ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าผลจะเป็นอย่างไรเดี๋ยวให้คณะเจรจาดำเนินการ ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เมื่อถามว่าการประชุมช่วงเช้าหารือแค่ประเด็นรัฐพิธีอย่างเดียวหรือไม่ นายพริษฐ์ตอบว่า เป็นการประชุม ส.ส.ประจำสัปดาห์ด้วย เมื่อถามย้ำถึงประเด็นการเสนอชื่อบุคคลชิงตำแหน่งประธานสภาฯ นายพริษฐ์ตอบว่า ขอให้ทีมที่รับผิดชอบและคณะเจรจาเป็นผู้ดำเนินการ
“ท็อป” ชี้อาจเปลี่ยนนาทีสุดท้าย
นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่าพรรค ชทพ.ต้องดูตัวบุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อมาว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะควบคุมดูแลสภาหรือไม่ มีแนวความคิดที่ทันสมัยมาดูแลการทำงานในสภาหรือไม่ เพื่อให้การประชุมรัฐสภา และสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และการโหวตน่าจะไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อถามถึงกรณีมีชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาฯ ขึ้นมาเป็นประธานสภาฯ นายวราวุธตอบว่า นายสุชาติเคยเป็นทั้งประธานสภาฯและรองประธานสภาฯ เป็นนักการเมืองที่คร่ำหวอดมา และยังมีชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ขึ้นมาอีกคน เป็นอีกหนึ่งผู้อาวุโสที่คร่ำหวอดทางการเมืองมานาน มีประสบการณ์เคยเป็นประธานสภาฯ พรรค ชทพ.ต้องหารือกันในพรรค และอาจต้องหารือกันข้ามพรรคด้วย เพราะเราไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ว่าแคนดิเดตของแต่ละพรรคลงตัวแล้วหรือยัง เพราะอาจเปลี่ยนเอานาทีสุดท้ายก็ได้
“พีระพันธุ์”บอกคิดลึกชิงนายกฯ
ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เวลา 13.00 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรค รทสช. พร้อมนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และ ส.ส.ทั้ง 36 คน ร่วมถ่ายรูปหมู่ก่อนเดินทางไปยังรัฐสภาเฝ้าฯรับเสด็จในรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา นายพีระพันธุ์ให้สัมภาษณ์ว่า ลาออกจากการเป็น ส.ส.เรียบร้อยแล้ว ยังยืนยันว่าจะอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทำหน้าที่เลขาธิการนายกฯ ส่วนนายอนุชา บูรพชัยศรี ที่จะเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อแทน ต้องรอให้มีประธานสภาฯก่อน งานในสภาฯไม่ต้องห่วง มี ส.ส.ที่มีประสบการณ์ และตนจะไปร่วมประชุมด้วยแต่อยู่ด้านนอก ดูแลการทำงาน ส.ส.ในสภาฯ เมื่อถามว่ามีชื่อนั่งนายกฯ นายพีระพันธุ์ตอบว่า “ไม่มีครับ คิดมากกันไปเอง คิดลึกกันเกินเหตุ เป็นไปไม่ได้” เมื่อถามว่าการโหวตเลือกนายกฯจะเสนอชื่อแข่งหรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบว่า ไม่มีนโยบายไปแข่ง เพราะเป็นเสียงข้างน้อย
ยันลาออก ส.ส.ไม่มีซ่อนเงื่อน
ต่อมานายพีระพันธุ์โพสต์หนังสือลาออกจากการเป็น ส.ส.พร้อมชี้แจงว่า “มีหลายคนถามถึงเหตุผล บอกตรงๆว่าต้องการอยู่ทำงานกับนายกฯ เพราะรักและศรัทธา และยังมีภารกิจที่ต้องดำเนินการให้เรียบร้อยก็เท่านั้น ไม่มีแผนซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรตามที่วิเคราะห์วิจารณ์กันไปใหญ่โต บอกตรงๆว่าเป็นคนแบบนี้ พ่อแม่อบรมสั่งสอนมาแบบนี้ โรงเรียน ครูบาอาจารย์สอนมาแบบนี้แบบที่ให้เรามีความจริงใจ ตรงไปตรงมา รักษาคำพูด รู้คุณคนร่วมทุกข์สุข และไม่ทิ้งใครไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร ไม่มีแผน ไม่สร้างภาพ”
“ขิง” ไม่ติดใจ “วันนอร์” โผล่ชิง
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีมีชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ถูกเสนอชื่อเป็นประธานสภาฯว่า พรรค รทสช.มีจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่โหวตให้ประธานสภาฯหรือนายกฯจากพรรคที่มีวาระแก้ไขมาตรา 112 หากนายวันมูหะมัดนอร์แสดงวิสัยทัศน์ชัดเจนว่าจะไม่แก้มาตรา 112 ตามที่พรรคก้าวไกลเสนอ ณ วันนี้ไม่ติดใจอะไร เมื่อถามว่าที่ผ่านมานายวันนอร์และ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 นายเอกนัฏตอบว่า ก็ต้องแสดงให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นยากที่จะสนับสนุน 36 เสียงของ รทสช.จะทำทุกวิถีทางปกป้องสถาบันเสาหลักของประเทศ ส่วนขั้วรัฐบาลเดิมไม่แน่ใจจะเสนอชื่อแข่งหรือไม่
มองไม่เห็นทาง “พีระพันธุ์” นายกฯ
นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นผู้อาวุโส มีความรู้ความสามารถ ที่ผ่านมาทำหน้าที่ได้ดี ส่วนตัวตนมองว่าเหมาะสมจะเป็นประธานสภาฯ เหมาะกว่าคนของพรรคก้าวไกล แต่ทุกอย่างต้องเป็นมติพรรคว่าจะเลือกใคร หลักของเราอย่างที่บอกจะไม่โหวตให้กับคนของพรรคที่มีแนวคิดแก้มาตรา 112 คือจากพรรคก้าวไกลแน่นอน ส่วนของพรรคอื่นต้องมาพูดคุยกัน ส่วนกระแสข่าวมีชื่อนายพีระพันธุ์จะขึ้นเป็นนายกฯนั้น เพิ่งทราบข่าว เพียงแต่ยังนึกไม่ออกว่าจะเป็นไปได้อย่างไร แต่นายพีระพันธุ์มีความเหมาะสม แต่ยังมองไม่เห็นทางและเป็นเรื่องยาก คงเป็นแค่ข่าว
ถอดป้าย 6 พรรคจากโต๊ะแถลง
จากนั้นเวลา 19.00 น. ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ มีการแถลงข่าวกรณีการเสนอชื่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาฯ แต่ปรากฏว่าก่อนถึงเวลาแถลงข่าวประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่โรงแรมได้มาเก็บป้าย 6 พรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ ออกจากโต๊ะแถลงข่าว เหลือเพียงป้ายพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย เพียง 2 พรรค เนื่องจากพรรคเพื่อไทยไม่พอใจที่พรรคก้าวไกลไปนัดแถลงข่าวในนาม 8 พรรคร่วมรัฐบาล โดยชวน 6 พรรคที่เหลือมาร่วมแถลงข่าวด้วย ทั้งที่เรื่องตำแหน่งประธานสภาฯเป็นการหารือเฉพาะ 2 พรรคเท่านั้น และก่อนแถลงข่าวทั้ง 2 พรรคหารือกันแล้วจะแถลงร่วมกันเพียง 2 พรรค แต่พรรคก้าวไกลไปแจ้งกับสื่อมวลชนว่าเป็นการแถลงร่วมกันทั้ง 8 พรรค ทำให้แกนนำพรรคเพื่อไทยโทร.ไปแสดงความไม่สบายใจกับแกนนำพรรคก้าวไกล ในที่สุดจึงตัด 6 พรรคร่วมออกจากการแถลงข่าว เหลือเพียงแค่แกนนำ 2 พรรคเท่านั้น
จบสวยส่ง “วันนอร์” นั่ง ปธ.สภาฯ
กระทั่งเวลา 19.45 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ก.ก. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค ก.ก. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. แถลงข่าวร่วมกัน นายพิธาแถลงว่า แถลงข้อตกลงร่วมระหว่างพรรค ก.ก. พรรค พท. เรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ตามที่พรรค ก.ก. พรรค พท. พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทรวมพลังและพรรคพลังสังคมใหม่ ประชุมหารือร่วมกันกรณีตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ บัดนี้พรรค ก.ก. และพรรค พท.ได้ตกลงร่วมกัน ดังนี้ 1.เสนอชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาฯ โดย ส.ส.จากพรรค ก.ก. เป็นรองประธานสภาฯคนที่ 1 และ ส.ส.จากพรรค พท. เป็นรองประธานสภาฯคนที่ 2 โดยทั้ง 8 พรรคร่วมพร้อมให้การสนับสนุนตามข้อตกลงนี้
มุ่งมั่นผลักดันวาระประชาชน
นายพิธากล่าวต่อว่า 2.บุคคลที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ พร้อมผลักดันวาระที่ทําให้รัฐสภาไทยก้าวหน้า ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ และเป็นของประชาชน 3.ข้อตกลงในครั้งนี้เป็นไปเพื่อสร้างความเป็นเอกภาพระหว่าง 8 พรรคในการจัดตั้งรัฐบาล เสนอและสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างสุดความสามารถ โดยดำเนินการตามข้อตกลง MOU ที่ได้แถลงร่วมกัน เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2566 4.พรรค ก.ก. และพรรค พท. ยืนยันร่วมกันให้ความเห็นชอบกฎหมายสำคัญเพื่อประชาชน รวมถึงการนิรโทษกรรมคดีแสดงออกทางการเมือง และการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก และร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรตามที่พรรค ก.ก.เสนอ พรรค ก.ก. และพรรค พท.เชื่อมั่นว่าข้อตกลงเรื่องประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทํางานร่วมกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล เข้าไปบริหารประเทศตามเจตนารมณ์ที่ประชาชน แสดงออกอย่างชัดเจนผ่านการเลือกตั้ง
ชี้ส่งสัญญาณดีเลือกนายกฯ
จากนั้นนายพิธาตอบข้อซักถามสื่อมวลชนว่า ได้เจอกับนายวันนอร์ในงานรัฐพิธี พร้อมได้แจ้งมติ 2 พรรค และอ่านแถลงการณ์ร่วม 2 พรรคให้นายวันนอร์ฟัง นายวันนอร์บอกว่าให้เอาประชาชนเป็นตัวตั้ง และถ้าเป็นความต้องการของ 2 พรรคก็ไม่ปฏิเสธ เชื่อว่าหลังจากนี้บรรยากาศจะดีขึ้น เชื่อว่าจะทำให้การตั้งรัฐบาล 8 พรรคประสบความสำเร็จ มั่นใจเสียงพรรค ก.ก.จะลงมติไปทางเดียวกันในการโหวตประธานสภาฯไม่แตกแถว ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 และ 2 จะเป็นใคร รอฟังการลงมติในวันที่ 4 ก.ค. ให้เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค บรรยากาศวันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีแสดงถึงความมีเอกภาพ การประนีประนอมกัน การเสียสละเพื่อไปถึงเป้าหมายจัดตั้งรัฐบาล และส่งตนเป็นนายกฯ ส่วนตำแหน่ง ครม.เป็นกระบวนการที่ต้องเจรจากันต่อไป ตามจำนวน ส.ส.แต่ละพรรค มั่นใจเสถียรภาพ 8 พรรคยังเหนียวแน่น ส่วนเสียง ส.ว.ที่จะสนับสนุนตนเป็นนายกฯนั้น ถ้า ส.ว.ยังยึดหลักการเสียงข้างมากเหมือนปี 2562 เป็นบรรทัดฐาน ก็ควรโหวตเลือกตนโดยยึดเสียงประชาชนเป็นตัวตั้ง ยังเชื่อจะมีเสียง ส.ว.เพียงพอในการสนับสนุน แต่ถ้าเสียงไม่ถึงก็วางแผนแล้วจะทำอย่างไร แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีขั้นตอนอย่างไรต่อไป
พท.การันตี ส.ส.ไม่มีแตกแถว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยืนยันการโหวตประธานสภาฯวันที่ 4 ก.ค. จะไม่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทยโหวตสวนมติพรรคร่วม สมาชิกพรรคเพื่อไทยพูดคุยกันหมดแล้ว และยอมรับตามแนวทางที่พรรคพูดคุย จะไม่มีการเสนอชื่อสมาชิกพรรคเพื่อไทยเข้าไปแข่ง และพรรคอื่นก็ไม่มีสิทธิ์เสนอชื่อสมาชิกพรรคเราไปแข่งเช่นกัน แม้เสนอแข่งเราจะปฏิบัติตามข้อตกลง เมื่อถามว่าหากมีการเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เข้าชิงตำแหน่งประธานสภาฯ นพ.ชลน่านตอบว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันจุดยืนเดิม เราจะปฏิบัติตามข้อตกลง ไม่มีการเสนอแข่ง
ทำเนียบฯทำคู่มือรับ รัฐบาลใหม่
สำหรับความเคลื่อนไหว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เมื่อเวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาล สวมชุดข้าราชการสีกากีที่แต่งทุกวันจันทร์ตามปกติ ติดตามงานและเซ็นเอกสาร บนห้องทำงาน ตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนไปเตรียมเฝ้าฯรับเสด็จ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระ บรมราชินี ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดประชุมรัฐสภา ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำนักนายกรัฐมนตรีได้จัดทำคู่มือข้าราชการการเมืองในรูปแบบสแกนคิวอาร์โค้ดสำหรับสมาร์ทโฟนเตรียมไว้เป็นคู่มือปฏิบัติงานให้แก่รัฐบาลชุดใหม่ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กลุ่มรักชาติฯฮึ่มสหรัฐฯยุ่มย่าม
ที่หน้าสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ประจำเชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ กลุ่มรักชาติศาสน์กษัตริย์ราว 100 คน รวมตัวถือป้ายข้อความรวมพลังปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยื่นข้อเรียกร้องต่อสถานกงสุลฯผ่านช่องรับ-ส่งเอกสาร จากนั้นพากันยืนถือป้ายร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนแยกย้ายกลับ ทั้งนี้ น.ส.ภูสุดา รณะบุตร แกนนำกลุ่มรักชาติศาสน์กษัตริย์ กล่าวว่า เราพร้อมที่จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต รวมถึงส่งสารถึงรัฐบาลสหรัฐฯให้หยุดคิดเป็นมหาอำนาจเพียงประเทศเดียว อย่านำคำกล่าวอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพมาก้าวก่ายและหยุดแทรกแซงกิจการภายในของไทย โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 หากยังไม่หยุดพฤติกรรมที่คิดจะล้มล้างสถาบันกลุ่มจะนำมวลชนมามากกว่านี้อีก
ยื่น ป.ป.ช.ฟัน ส.ส.ตบแฟน
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ยื่นคำร้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนเอาผิด ส.ส. กทม.พรรค ก.ก.ทำร้ายร่างกายแฟนสาว ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ นายศรีสุวรรณกล่าวว่า แม้ ส.ส.ที่ตกเป็นผู้ต้องหาโพสต์เฟซบุ๊กยอมรับผิดแล้ว แต่สร้างความเสื่อมเสียให้สถาบันการเมือง เมื่อย้อนไปดูประวัติการหาเสียงของ ส.ส.รายดังกล่าวเคยมีบทบาทรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อสตรี และส่งเสริมบทบาทของสตรี เป็นเรื่องย้อนแย้งกันโดยสิ้นเชิง และยังเพิกเฉยต่อการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ไม่ยึดมั่นหลักนิติธรรม และศีลธรรมอันดี
“ลุงนักชก” เตือนม็อบลุยสภาฯ
นายวีรวิทย์ รุ่งเรืองศิริผล หรือลุงศักดิ์ เสื้อแดง แนวร่วมม็อบราษฎร ที่เคยก่อเหตุทำร้ายนายศรีสุวรรณ จรรยา เปิดไลฟ์ยูทูบช่อง “ศักดินาเสื้อแดง” ระบุว่า “ได้รับข่าวกรองมาจากฝ่ายประชาธิปไตยแจ้งเตือนไว้ว่า ภายในเดือน ก.ค.ใครที่รู้ตัวว่ามีแสงขัดขาผู้มีอำนาจ ต้องระวังตัวให้มาก โดยเฉพาะพรรค ก.ก.น่ากลัว แต่ส่วนตัวเป็นมดตัวหนึ่งพูดแต่ความจริงถูกยิงตายช่างหัวมัน ขนาดมหาเศรษฐียังลงไปตายใต้ทะเลได้ ใครที่จะไปให้กำลังใจเลือกประธานสภาฯโหวตนายกฯขอให้ไปแบบสงบ ตาต้องมองดูรอบๆว่ามีมือที่สามมาก่อเหตุหรือเปล่า ได้ยินว่าทางการเตรียมรถถังไว้ 4 คัน กำลังตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ทหาร รถจีโน่ แว่นตาว่ายน้ำเตรียมไปด้วยก็ดี”
ศาลปรับ “จารุพงศ์” รับตั๋วบินฟรี
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.14/2565 หมายเลขแดงที่ อม.19/2566 ที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.มหาดไทย จำเลย รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ จาก บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) (บริษัทจัดการฯ) หรืออีสท์ วอเตอร์ ซึ่งมิใช่ญาติ โดยรับตั๋วโดยสารเครื่องบินไปกลับไทย-จีน และไทย-มาเลเซีย มีราคาเกินกว่า 3,000 บาทตามกฎหมาย ทั้งนี้ จําเลยไม่มาศาล ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษปรับกระทงละ 60,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นปรับ 120,000 บาท หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อาญามาตรา 29 มาตรา 30