“วิโรจน์” จี้นำตัว “บิ๊กสรรพสามิต” โทรเคลียร์ปล่อยรถขนน้ำมันเถื่อนมาแถลง อธิบดีไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ เอาตัวคนทำผิดมาลงโทษ หากเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวต้องเอาผิดด้วย

วันที่ 7 มิถุนายน 2566 จากกรณี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาเรียกร้องให้อธิบดีกรมสรรพสามิต และผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) แถลงให้ประชาชนทราบ ถึงเรื่อง “บิ๊กสรรพสามิต” โทรศัพท์มาขอให้ปล่อยรถบรรทุกน้ำมันเถื่อน ภายหลังตำรวจทางหลวงเข้าจับกุมรถบรรทุกน้ำมันเถื่อน พร้อมของกลางรถบรรทุก ทะเบียน 70-3694 มหาสารคาม ส่วนพ่วงทะเบียน 70-2182 มหาสารคาม บรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อน 15,000 ลิตร บริเวณริมถนนเพชรเกษม ทล.4 กม.308 ขาเข้า ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

ทั้งนี้ ระหว่างการตรวจสอบน้ำมันดีเซลของกลาง มีเจ้าหน้าที่สรรพสามิตระดับสูง หรือบิ๊กสรรพสามิตรายหนึ่งโทรศัพท์มาหาเจ้าหน้าที่สรรพสามิตที่ร่วมจับกุม เพื่อขอให้ปล่อยรถบรรทุกคันดังกล่าว อ้างว่าเป็นของพรรคพวก แต่เจ้าหน้าที่ได้ตอบปฏิเสธกลับไป โดย นายวิโรจน์ ขอชื่นชม นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ ปปป. ที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ และมีการสั่งหาตัวบิ๊กสรรพสามิตอย่างเร่งด่วน ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไร เผลอๆ ตอนนี้ท่านอาจจะทราบแล้วก็ได้ พร้อมกันนี้ ขอให้มีการแถลงว่า บิ๊กสรรพสามิตคนนี้คือใคร และขอให้สอบสวนขยายผล ในกรณีที่พบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์จากพ่อค้าน้ำมันเถื่อนควรต้องดำเนินคดีอาญาอย่างเด็ดขาด รวมทั้งส่งเรื่องไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ดำเนินการยึดทรัพย์ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

...

ทางด้าน นายเกรียงไกร พัฒนาภรณ์ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ อธิบดีกรมสรรพสามิตได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว และไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่เคารพต่อกฎหมาย จึงสั่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน โดยการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ผู้โทรศัพท์มาขอเจรจาเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพสามิตจริงหรือไม่ และตรวจสอบว่าน้ำมันจำนวนดังกล่าวเป็นน้ำมันเถื่อนหรือน้ำมันที่ขนส่งโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง กรมสรรพสามิตจะดำเนินการต่อบุคคลที่กระทำความผิดตามระเบียบและกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้นทันที

“กรมสรรพสามิตพร้อมให้ความร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ ทั้งตำรวจ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อเอาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รายอื่นสมรู้ร่วมคิดด้วย ก็จะดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมและเอาผิดกับทุกคนที่กระทำความผิด เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต กรมสรรพสามิต ขอยืนยันว่าจะดำเนินการทุกขั้นตอนและตรวจสอบทุกประเด็นด้วยความโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริงและเชื่อมั่นในการดำเนินการของกรมสรรพสามิตต่อไป”