สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ขอบคุณกระทรวงมหาดไทย แก้ระเบียบกรมที่ดินตามคำแนะนำ เพื่อการคุ้มครองสิทธิของประชาชนตามกฎหมาย
วันที่ 29 พ.ค. 2566 นายนพดล เภรีฤกษ์ โฆษกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า ด้วยคณะกรรมการพัฒนากฎหมายได้พิจารณาข้อหารือของกรมที่ดินเกี่ยวกับระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการวางทรัพย์อันเป็นสินไถ่ ณ สำนักงานที่ดิน ซึ่งออกตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือที่อยู่อาศัย แล้วเห็นว่า ข้อ 8 และข้อ 9 แห่งระเบียบดังกล่าวยังไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมาตรา 18 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย พ.ศ.2562 ที่บัญญัติให้ทรัพย์สินที่ขายฝากตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ขายฝากตั้งแต่เวลาที่ผู้ขายฝากได้ชำระสินไถ่ หรือวางทรัพย์อันเป็นสินไถ่ จึงได้แนะนำว่าเมื่อเจ้าพนักงานที่ดินมีคำสั่งรับวางทรัพย์อันเป็นสินไถ่แล้ว ควรบันทึกในหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินฉบับสำนักงานที่ดินทันทีว่ามีการวางทรัพย์อันเป็นสินไถ่โดยสละสิทธิ์การถอนคืนทรัพย์ และกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ขายฝากได้กลับคืนมาเป็นของผู้ขายฝากแล้ว และควรมีระบบการออกเอกสารสิทธิในทรัพย์สินที่ขายฝากซึ่งตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ขายฝากด้วยการวางทรัพย์แล้วให้แก่ผู้ขายฝากที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
ต่อมา กรมที่ดิน ได้แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกรมที่ดินดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามคำแนะนำของคณะกรรมการพัฒนากฎหมายแล้ว และได้แจ้งเวียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทราบ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบและถือปฏิบัติต่อไปด้วยแล้ว
ทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในฐานะฝ่ายเลขานุการกรรมการพัฒนากฎหมาย จึงขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยผู้รักษาการตามกฎหมาย อธิบดีกรมที่ดิน และผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่กฎหมายกำหนด อันจะทำให้การปฏิบัติเป็นไปเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนตามกฎหมาย.
...