“อุตตม-สนธิรัตน์” ลุยหาเสียง กทม.-นนทบุรี โค้งสุดท้าย ด้าน “ชัยวุฒิ” เชิญชวน ก้าวข้ามความขัดเเย้ง บอกเห็นต่างได้แต่ต้องเคารพกฎหมาย “ธรรมนัส” โว พะเยาและแม่ฮ่องสอน กวาดยกจังหวัด
วันที่ 13 พ.ค. 2566 ที่กทม.-นนทบุรี ดร.อุตตม สาวนายน ประธานคณะจัดทำนโยบายพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดทำนโยบายพรรคพลังประชารัฐ มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ กทม.-นนทบุรี ขึ้นรถแห่และเดินพบปะประชาชนช่วยผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐหาเสียงในช่วงวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ได้แก่ นายวัชระ กรรณิการ์ ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี เขต 3 เบอร์ 8 ที่ตลาดน้ำวัดตะเคียน ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 6 เบอร์ 10 ที่เขตพญาไท
ดร.อุตตม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระหว่างช่วยนายวัชระ กรรณิการ์ หาเสียงที่ตลาดน้ำวัดตะเคียนว่า ตลอดการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านพรรคพลังประชารัฐ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากประชาชนทั่วประเทศเป็นอย่างมาก
...
ขณะที่นายสนธิรัตน์ ได้ขึ้นรถแห่พบปะพี่น้องประชาชนในเขตพญาไท และได้กล่าวระหว่างการพบปะว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการหาเสียงแล้ว ตนมามาขอคะแนนให้ ร.อ.รชฏ อยากให้พี่น้องประชาชนให้โอกาสอดีต ส.ส. 2 สมัย ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ และเป็นคนทำงานตัวจริงเสียงจริงให้ได้เข้าไปเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนในสภาฯ ตนมั่นในว่าผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐทุกคนเป็นคนที่มีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน
ส่วนนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ วันนี้ได้ลงพื้นที่ พาหุรัด เยาวราช เพื่อช่วย ดร.สฤษดิ์ ไพรทอง หรือ ดร.ลั่น ผู้สมัคร หมายเลข 11 พรรคพลังประชารัฐ หาเสียง
นายชัยวุฒิ ระบุว่า วันนี้ก็ต้องยอมรับความจริงว่า พี่น้องประชาชนก็มีความเห็นที่แตกแยก แบ่งเป็นกลุ่มเป็นฝ่าย เพราะเรามีความเชื่อที่ไม่เหมือนกัน บางกลุ่มที่มีความเชื่อที่ไม่ตรงกับเรา เราก็ได้คิดว่าต้องไปทะเลาะกันหรือไปสร้างปัญหาให้กัน แต่บางคนก็ไปใช้ความรุนแรง อย่างเช่นที่ สน.สำราญราษฎร์ ที่ไปทำลายสถานที่ราชการ ไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปพ่นสีขีดเขียนจนเลอะเทอะไปหมด ซึ่งวันนี้ผมก็ดีใจ ก็มีประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งรักชาติบ้านเมืองเป็นจิตอาสามาช่วยกันทำความสะอาดมาช่วยกันซ่อมแซม สน.สำราญราษฎร์ ให้สะอาดเรียบร้อยกลับมาเป็นสภาพเดิม ผมชื่นชม ผมคิดว่าวันนี้ถึงเวลาที่คนไทยทุกคนต้องรักชาติบ้านเมือง ต้องมาช่วยกันดูแลประเทศของเราให้สงบสุข ให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข อย่าใช้ความรุนแรง การที่เราเห็นต่างกัน ไม่จำเป็นต้องทะเลาะกัน โดยเฉพาะทุกคนควรต้องเคารพความเห็นของแต่ละฝ่าย แล้วก็ทำตามกฎหมาย
วันเดียวกันนี้ที่จังหวัดพะเยา ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดพะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ นำทีมงานผู้ช่วยหาเสียงขึ้นรถแห่ขอคะแนนเสียงปิดท้ายรอบเขตเทศบาลเมืองพะเยา โดยเริ่มเคลื่อนขบวนแห่จากบริเวณลานอนุสาวรีย์ลานพ่อขุนงำเมือง ริมกว๊านพะเยา ไปจนถึงวัดศรีจอมเรือง ชุมชนวัดเมืองชุม และชุมชนวัดภูมินทร์ วัดอินทร์ฐาน วัดป่าลานคำ ต.แม่ต๋ำ ซึ่งมีประชาชนที่ได้ยินเสียงรถแห่ต่างพากันออกมารอให้กำลังใจตามหมู่บ้าน และชุมชนต่างๆ ตลอดสองข้างทางเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ร้อยเอกธรรมนัส ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนวันเลือกตั้งพรุ่งนี้ 14 พ.ค. 66 ว่า ที่ผ่านมาตนเองได้ลงพื้นที่หาเสียงอย่างหนัก และทำการบ้านกับผู้สมัครมาโดยตลอด ตั้งแต่วันรับสมัคร ช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็มีการตรวจสอบว่า เราจะชนะกี่เขตของภาคเหนือ 8 จังหวัด ซึ่งมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐ จะมี ส.ส. ครบทุกจังหวัด ก็หมายความว่าเราจะชนะทุกจังหวัด ส่วนจะมากหรือน้อยก็ต้องดูเป็นรายจังหวัดไป แต่ตนมั่นใจว่าในส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนและพะเยา จะชนะทุกเขต ยกทั้งจังหวัด สำหรับจังหวัดแพร่นั้น ก็มั่นใจในตัวผู้สมัครจะสามารถชนะใจพี่น้องประชาชนได้ เพราะต้องการเปลี่ยนเพื่อให้บ้านเมืองพัฒนาดีขึ้น
