“นพวรรณ” เปิดเหตุผลคนกทม. ต้องเลือก “พล.อ.ประวิตร” ยัน พรรคชัดเจน แก้ปัญหาปากท้อง ก้าวข้ามความขัดแย้ง ด้าน “สกลธี” ชู ชุดนโยบายพปชร. ลดค่าครองชีพ เพิ่มเงินในกระเป๋า
วันที่ 3 พ.ค. 2566 ภญ.นพวรรณ หัวใจมั่น ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เขต 12 (เขตบางเขน แขวงท่าแร้ง เขตสายไหม แขวงออเงิน เขตลาดพร้าว แขวงจรเข้บัว) เบอร์ 12 ได้กล่าวถึงเหตุผลที่คนกรุงเทพฯ ต้องเลือก พปชร. ว่า นอกจากทางพรรคพลังประชารัฐ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค ที่มีจุดยืนต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อเดินหน้าสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติบ้านเมืองแล้ว ในด้านนโยบายที่ทางพรรคจะผลักดันออกมานั้น ล้วนแต่ทำเพื่อแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน เหมือนดังเช่นที่ผลักดันจนสำเร็จมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแก้หนี้นอกระบบ และแก้ปัญหาน้ำ
รวมถึงการลดราคาน้ำมันเบนซิน 18 บาท ลดดีเซล 6.30 บาท หรือการลดราคาแก๊สถัง 15 ก.ก. เหลือถังละ 250 บาท ซึ่งสามารถทำทันทีที่เป็นรัฐบาล ตลอดจนนโยบายลดค่าไฟฟ้า ที่จะปรับโครงสร้างราคาที่มีการคิดเงินซ้ำซ้อนอยู่หลายส่วน ซึ่งจะทำให้สามารถลดค่าไฟฟ้าลงเกือบ 50% เหลือเพียงหน่วยละ 2.50 บาทเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะช่วยให้ทุกคนมีเงินเหลือไปใช้จ่ายอย่างอื่นเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ทางพรรคพลังประชารัฐ ยังได้มอบหมายให้ทีมเศรษฐกิจไปศึกษาถึงการตั้งกองทุนประชารัฐ 300,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนระดับประเทศในสมัยหน้า ถ้า พปชร.ได้เป็นรัฐบาลจะมีกองทุนนี้ภายใน 4 ปี ส่วนตนเองมีแนวคิดต้องการผลักดันให้แต่ละเขตในพื้นที่ กทม.มีโรงพยาบาลรัฐ หรือศูนย์สาธารณสุขในทุกเขต ที่สามารถรองรับ และทำให้ประชาชนเข้าถึงระบบการรักษาได้ง่ายขึ้น เพื่อที่จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย โดยประชาชนต้องเข้าถึงการรักษาพยาบาล ได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวตั้งแต่เช้า ได้ตรวจเที่ยง ตรวจบ่าย
...
ด้าน นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารและหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) วันนี้ได้ลงพื้นที่สวนธนบุรีรมย์ ตลาดประชาอุทิศ 79 และตลาดประชาอุทิศ 61 เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร่วมกับ นายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เขต 25 (ทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ) หมายเลข 2 เพื่อพบปะประชาชน และนำเสนอชุดนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่เน้นลดค่าครองชีพ เพิ่มเงินในกระเป๋า โดยเฉพาะนโยบายเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได เป็น 3,000-5,000 บาท การปรับโครงสร้างราคาค่าไฟฟ้า และสนับสนุนการติดโซลาร์เซลล์ตามบ้าน ตลอดจนตั้งกองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านบาท ซึ่งสามารถนำส่วนหนึ่งมาใช้ทำขนส่งสาธารณะเพิ่มเติม เช่น รถบัส EV ที่วิ่งรับคนในเส้นทางที่รถ ขสมก.ไม่ครอบคลุม ซึ่งจะแก้ปัญหาการจราจรในพื้นที่ได้ เนื่องจากพื้นที่เขตทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ นั้น มีปัญหารถติดมากในเวลาเร่งด่วน โดยเฉพาะบนถนนประชาอุทิศ เนื่องจากเป็นถนนแบบเก่า 4 เลน มีหมู่บ้านตั้งอยู่ตลอดถนน แต่มีรถ ขสมก.วิ่งเพียง 2 สาย ประชาชนจึงนิยมใช้รถยนต์ส่วนตัว
