“ทีมเศรษฐกิจ พปชร.” ตั้งโต๊ะแถลง เตือน สัญญาณพายุเศรษฐกิจสมบูรณ์แบบ ชง รัฐบาลหน้า เตรียมแผนรับมือเร่งด่วน เสนอทำทันที 3 ภารกิจ 7 ขับเคลื่อน กระตุ้น และพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย สร้างรายได้ ลดเหลื่อมล้ำ
วันที่ 2 พ.ค. เมื่อเวลา 14.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอุตตม สาวนายน ประธานคณะกรรมการจัดทำนโยบายพรรค พร้อมด้วย นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดทำนโยบายพรรค แถลงหัวข้อ รับมือความเสี่ยงพายุเศรษฐกิจสมบูรณ์แบบ ความท้าทายเร่งด่วนของรัฐบาลหน้า
นายธีระชัย กล่าวว่า จากเดิมเศรษฐกิจโลกขับเคลื่อนด้วยปัจจัย 3 ราคาต่ำ คือ 1. ดอกเบี้ยต่ำ 2. ราคาสินค้าจากจีนต่ำ และ 3. ราคาพลังงานต่ำ แต่ปัจจุบันปัจจัยเหล่านี้ ได้เปลี่ยนไปเป็น 3 ราคาแพงแล้ว และเป็นความเสี่ยงสูงที่จะนำไปสู่พายุเศรษฐกิจสมบูรณ์แบบในประเทศตะวันตก และส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในที่สุด หลายประเทศใช้นโยบายการคลังควบคู่กับนโยบายการเงินอย่างเต็มที่ ในช่วงวิกฤติโควิด ที่เรียกว่าเป็น ปืนบาซูก้าลำกล้องแฝดนั้น ได้นำไปสู่เงินเฟ้อสูง ทำให้ธนาคารชาติสหรัฐฯ และยุโรป ต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสู้เงินเฟ้อ แต่การขึ้นดอกเบี้ยที่แรงและเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อนดังกล่าว ทำให้ปัญหาที่ซ่อนอยู่ในระบบธนาคารสหรัฐฯ และยุโรปเริ่มปรากฏขึ้น และมีแนวโน้มจะลุกลามต่อไป ดังนั้น ทุกหน่วยงานในประเทศไทยจึงควรคำนึงและเตรียมพร้อมรับมือพายุนี้
...
นายธีระชัย กล่าวว่า รมว.คลัง ควรมีการประชุมหารือกับธนาคารชาติ สภาอุตสาหกรรมฯ และหอการค้าต่างๆ สม่ำเสมอทุกไตรมาส เพื่อติดตามสถานการณ์ของโลกและเงินทุนไหลเข้าออก นอกจากนี้ จะต้องมีแนวทางแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนและหนี้ของธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็ก ซึ่งทีมเศรษฐกิจ พปชร.จะมานำเสนอแถลงข่าวต่อไป
ด้าน นายอุตตม กล่าวว่า พปชร.ได้จัดทำแผนนำประเทศไทยผ่านพ้นพายุเศรษฐกิจสมบูรณ์แบบ ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 ภารกิจ 7 ขับเคลื่อน โดย 3 ภารกิจหลัก ประกอบด้วย 1. กระตุ้นเศรษฐกิจให้พลิกฟื้นจริงทันที 2. เร่งการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีพลัง เต็มศักยภาพ 3. เร่งรัดสร้างรากฐานการพัฒนา พลิกโฉมประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั่วถึง มีภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็ง
ส่วน 7 ขับเคลื่อน ประกอบด้วย 1. สร้างสวัสดิการประชาชน โดยการขยายต่อยอดโครงการประชารัฐ ผ่านโครงการเติมทักษะที่ขับเคลื่อนโดยเครือข่ายศูนย์ประชารัฐพัฒนา ควบคู่การเติมทุน 30,000 บาท ต่อ 1 ผู้ถือบัตรประชารัฐ รวมถึงปรับเพิ่มสวัสดิการดูแลคนไทยทุกช่วงวัย โดยมุ่งลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ไปพร้อมกับการพัฒนาทักษะเพื่อสร้างโอกาส สร้างรายได้ ให้กับประชาชนคนไทย
นายอุตตม กล่าวต่อว่า 2. เร่งรัดแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ และต้นทุนผู้ประกอบการที่พุ่งสูงขั้น โดยปฏิรูปโครงสร้างพลังงานของประเทศทันที คืนความยุติธรรมด้านราคาให้ประชาชน ผลักดันไฟฟ้าภาคประชาชน การปลดภาระหนี้สินครบวงจรแบบเบ็ดเสร็จ ปรับโครงสร้างหนี้พร้อมเติมทุนใหม่ 3. สร้างเศรษฐกิจฐานราก โดยจัดทุนให้เกษตรกรครัวเรือนละ 30,000 บาท เพื่อช่วยค่าใช้จ่าย เป็นทุนการผลิต และจัดหาเทคโนโลยีการเกษตร ด้านการท่องเที่ยว มีมาตรการจัดหาสินเชื่อผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการ เพื่อใช้ซ่อมสร้างสถานที่ประกอบการครบวงจร รวมถึงการเติมเงินให้กองทุนหมู่บ้าน 200,000 บาท เพื่อใช้ลงทุนโครงสร้างพัฒนาในพื้นที่ 4. ผลักดันการลงทุนพัฒนาพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ และโครงสร้างพื้นฐาน ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ (Mega Projects) อาทิ การฟื้น EEC ให้เดินหน้าเต็มศักยภาพ พร้อมพัฒนาพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ทุกภูมิภาค เช่น โครงการอีสานประชารัฐ การสร้างเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ 6 โครงการ ใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ การเร่งสร้างรถไฟไทย-จีน ให้เสร็จสมบูรณ์
นายอุตตม กล่าวว่า 5. เร่งลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ยึดโยงโจทย์ระดับโลกกับจุดแข็งของประเทศ อาทิ อุตสาหกรรม BCG อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 6. เร่งขยายฐานรายได้ของประเทศ ปรับเปลี่ยนระบบงบประมาณ อาทิ การปรับโครงสร้างและขยายฐานภาษีเดิม การพิจารณาภาษีใหม่ เช่นภาษีคาร์บอน/มลพิษ ปรับวิธีจัดเก็บภาษีธุรกรรมออนไลน์จากต่างประเทศให้มีประสิทธิผล การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี BLOCKCHAIN และ AI และ 7. เร่งสร้างระบบเตือนภัย ป้องกัน และจัดการพายุเศรษฐกิจจากภายนอก โดยจัดตั้งกลไกความร่วมมือ แลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างเป็นทางการสม่ำเสมอ ระหว่างหน่วยงานหลักทางเศรษฐกิจ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน สมาพันธ์ SME ไทย เป็นต้น
นายอุตตม กล่าวว่า แม้ปัจจุบันจะมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น แต่เราไม่ควรวางใจ และฝากความหวังไว้กับการท่องเที่ยวและการส่งออก ซึ่งก็มีสัญญาณชะลอตัวแล้วเท่านั้น โดยเฉพาะในภาวะที่ปัจจัยเสี่ยงภายนอก มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น รัฐบาลหน้าจะต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ไม่มีเวลามาลองผิด ลองถูก ต้องเตรียมพร้อมแผนรับมือความท้าทายต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชนได้ว่าสามารถจัดการดูแล หากผลกระทบจากภายนอกรุนแรงขึ้น รวมทั้งผลักดันให้เศรษฐกิจไทยไม่ถดถอย แต่จะพลิกฟื้นรวดเร็ว และขยายตัวได้ต่อเนื่อง สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เพื่ออนาคตที่ดีของคนไทยทุกๆ คน.