“บิ๊กป้อม” บอกรักคนเมืองคอน ชี้ถ้าได้ ส.ส.ยกจังหวัดก็เอา เมินกระแส “ก้าวไกล-เพื่อไทย” มาแรง ปัดตอบจับขั้วการเมือง “สนธิรัตน์” ปราศรัยเดือด เย้ย 3 พรรค “ปชป.-ภท.-รทสช.” เป็นรัฐบาลยาก
วันที่ 29 เมษายน 2566 เมื่อเวลา 17.00 น. ที่สนามหน้าเมือง ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ของพรรค พปชร. ทั้ง 10 เขต นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พปชร. กล่าวปราศรัยว่า จ.นครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งในจังหวัดที่จะชี้ชะตาการเลือกตั้ง ตนได้กลิ่นอายปัญหาการเมืองข้างหน้า พรรคหนึ่งบอกจะแลนด์สไลด์ พรรคหนึ่งบอกจะล้มรัฐบาลเดิมที่มีมา บอกว่าเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องเปลี่ยนแปลงประเทศ คนภาคใต้เหนื่อยยากมามากกับการเมือง วันนี้ตนบอกกับการเมืองว่าบ้านเมืองหลังเลือกตั้งจะเป็นเวลาที่ยุ่งยากใจที่สุด จะกลับไปอยู่กับการต่อสู้ วันนี้มีพรรคการเมืองเดียวที่จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการตัดสินใจชองชาวภาคใต้ พรรคการเมืองที่จะเป็นตัวแปรให้ผ่านพ้นการต่อสู้และขัดแย้ง ตนบอกได้เลยว่าเหลืออยู่พรรคเดียวชื่อว่า พปชร. เพราะหลังเลือกตั้งจะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เสียงจะก้ำกึ่งกันมาก
...
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ใน 4 พรรคที่ท่านจะตัดสินใจ เดิมพวกท่านรักพรรคเก่าแก่อยู่พรรคหนึ่ง มักจะกาคะแนนให้เขา แต่พรรคนั้นวันนี้โอกาสตั้งรัฐบาลน้อยมาก พรรคที่ 2 เป็นพรรคที่ขณะนี้พยายามกวาดพื้นที่ภาคใต้ให้ได้เสียงมากที่สุดคือพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แต่ ภท.วันนี้ตนบอกเลยว่าเป็นรัฐบาลยากมากๆ และพรรคที่ 3 เป็นพรรคที่แยกออกไปจาก พปชร. ชื่อว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พรรคนี้ยากที่สุดที่จะเป็นรัฐบาล ในทั้งหมด 4 พรรค มีอยู่พรรคๆ เดียวที่เป็นพรรคก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นพรรคที่จะสามารถเป็นตัวแปรรวมทุกฝ่ายคือ พปชร. ตนต้องการมาบอกชาวนครศรีธรรมราชว่า พี่น้องกำลังชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย หากตัดสินใจผิด เลือกพรรคผิด เลือกผู้แทนที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ของรัฐบาล จะไม่มีใครดูแลประชาชน ต้องเลือก ส.ส.ของ พปชร.ทั้ง 10 เขต พปชร.จะเป็นตัวแปร ถ้าถามว่าจริงหรือไม่ จริงหรือไม่จริง ขอให้ดูว่าที่นายกฯ พปชร.ที่ชื่อ พล.อ.ประวิตร เป็นคนคนเดียววันนี้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นนายกฯ เพราะเป็นคนเดียวที่มีบารมีการเมืองมากที่สุด เชื่อมโยงคนทุกฝ่ายได้ เป็นคนเดียวที่มีประสบการณ์การเมืองยาวนานที่สุด
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา และประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ กล่าวปราศรัยว่า เชื่อว่าเวทีแห่งนี้ไม่มีพรรคไหนทำยิ่งใหญ่เหมือนครอบครัว พปชร. นครศรีธรรมราชคือเมืองหลวงของปักษ์ใต้ หลายคนพูดถึง จ.นครศรีธรรมราช ตนมีสหายรักเยอะที่นี่ แล้วมีแม่ของลูกอยู่ จ.นครศรีธรรมราชด้วย ที่ผ่านมา พปชร.ได้รับความไว้วางใจจากชาวนครศรีธรรมราช คนนครศรีธรรมราชทำให้เห็นว่าไม่ใช่เอาเสาไฟลงแล้วจะเลือก
ต่อมาเวลา 18.38 น. พล.อ.ประวิตร กล่าวปราศรัยว่า ตนมาพบกับประชาชนเพื่อยืนยันว่า ตนและ พปชร.พร้อมที่จะรับใช้ชาวนครศรีธรรมราชทุกคน ให้จังหวัดนครศรีธรรมราชรุ่งเรืองต่อไป ถ้าอยากให้เจริญต้องเลือก พปชร. เราเลือกคนดี คนเก่ง คนทำงาน มาเป็นผู้แทนทั้ง 10 เขต การเลือก พปชร. ต้องเลือกเบอร์ 37 ด้วย ตนอยากให้คนไทยรักสามัคคีกัน ให้ประเทศเกิดความสงบสุข ก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน การเลือกตั้งจะมีขึ้น พปชร.เสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนจำนวนมาก พปชร.จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก้าวข้ามความขัดแย้ง นำพาคนเก่งมาร่วมมือกันเพื่อสร้างความสงบสุขรุ่งเรืองให้ประเทศ ขอให้เชื่อมั่นพลังประชารัฐ
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังปราศรัยใหญ่ภาคใต้ (ตอนล่าง) ว่า “คนนครศรีธรรมราชก็ดี ก็เรียบร้อยดี เขามาให้การสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ก็ขอบคุณคนนครฯ ทุกคน คนนครฯ รักผม แล้วผมจะไม่รักคนนครฯ ได้อย่างไร”
เมื่อถามว่า เท่าที่ประเมินคิดว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้ ส.ส.ยกจังหวัดหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้าได้ก็เอา เมื่อถามว่า กระแสในภาคใต้พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมาแรง พรรคพลังประชารัฐ จะมีกลยุทธ์อย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็แล้วแต่
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงการจับขั้วทางการเมือง พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม.